กรมประมง

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.30 น.ณ ศูนย์การพัฒนาและการบริการด้านการเกษตรห้วยซอน - ห้วยซั้ว (หลัก 22) นครหลวงเวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)

นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายนเรศ นาเมืองรักษ์ นักวิชาการประมงชำนาญงาน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดอุดรธานี เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการกำกับโครงการ (Project Steenring Committee : PSC) เพื่อสรุปภาพรวมผลการดำเนินงานและส่งมอบโครงการพัฒนาคุณภาพชิวิตของเกษตรกรเมืองนาซายทอง และเมืองสังทอง นครหลวงเวียงจันทร์ (AG 2.2 lmprovement of Farmers' Livelihood in Nasaithong and Sengthong District,Vientaine Capital,Lao PDR,through Enhancing Agricultural Productivity) ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นไปตามมติการประชุมความร่วมมือทางวิชาการไทย-ลาว ครั้งที่ 23 ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม-สิงหาคม 2562 ณ จังหวัดเพชรบุรี ที่ได้เห็นชอบแผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย-ลาว ระยะ 3 ปี (พ.ศ.2563 - 2565) จำนวน 6 สาขา ได้แก่ สาขาสาธารณสุข การศึกษา การเกษตร การค้า สิ่งแวดล้อม และสาขาอื่นๆ

ซึ่งในด้านการเกษตรนั้น จะเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินโครงการพัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน - ห้วยซ้อน (หลัก 22) ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริใน สปป.ลาว ที่สำนักงาน กปร.ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณและองค์ความรู้อย่างต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี และมีกรมต่างๆ ให้การสนับสนุนด้านวิชาการและสาธิตกิจกรรมการเกษตรรวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกรชาวลาวให้เข้าใจในหลักการและได้ปฎิบัติที่ดีจนเห็นผลแล้วดำเนินการขั้นที่ 2 คือให้เกษตรกรรวมพลังกันในรูปกลุ่ม ร่วมแรงร่วมใจกันในด้านการผลิต การตลาด รวมถึง การจัดหาแหล่งทุนช่วยเหลือในการลงทุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรแบบพออยู่พอกิน พึ่งพาตนเองได้

โดยมีหน่วยงานที่ขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวทางฝ่ายไทย คือ สำนักงาน กปร., กรมประมง , กรมปศุสัตว์ , ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดอุดรธานีเป็นห่วยประสานงาน ส่วนทางฝ่ายลาว ได้แก่ ศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน - ห้วยซั้ว (หลักที่ 22) กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564-สิงหาคม 2565 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการที่อาศัยในเมืองนาซายทอง และบ้านสังทอง รวมจำนวน 100 ราย ให้การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพด้านประมง จำนวน 30 ราย ด้านปศุสัตว์ จำนวน 30 ราย และด้านเกษตรผสมผสาน จำนวน 40 ราย ทั้งนี้ ได้คัดเลือกเกษตรกรครัวเรือนให้เป็นเกษตรกรต้นแบบที่สามารถให้คำแนะนำเกษตรกรรายอื่นได้ จำนวน 10 ราย โครงการความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศในเฟสนี้ ใช้งบประมาณดำเนินการรวมทั้งสิ้น 2,839,439.93 บาท และในปัจจุบันรัฐบาลฝ่ายไทยเห็นว่าเกษตรกรภายใต้การดูแลของศูนย์ฯ ห้วยซอน - ห้วยซั้ว (หลักที่ 22) มีความเข้มแข็ง และมีความพร้อมที่จะสามารถดำเนินการต่อได้ด้วยตนเอง จึงได้ส่งมอบให้รัฐบาลฝ่ายลาวดำเนินการต่อยอด ขยายผลให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการตามลำดับ ทั้งนี้ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) ได้มีแนวทางในการประเมินผลลัพธ์โครงการความร่วมมือของรัฐบาลไทยหลังสิ้นสุดโครงการอย่างน้อย 1 ปี เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมและจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาล สปป.ลาวต่อไป

จากนั้นเวลา 13.30 น.รองอธิบดีกรมประมงได้ร่วมเดินทางกับคณะฝ่ายไทยและลาว ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน เยี่ยมเยียน สร้างขวัญกำลังใจให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการและได้รับการคัดเลือกเป็นครอบครัวต้นแบบ จำนวน 3 ราย คือ

1.ด้านประมง ท่านสีฟอง วงพะมะสม บ้านด่านซี เกษตรกรต้นแบบการเลี้ยงปลานิลในบ่อดิน

2.ด้านปศุสัตว์ ท่านแสงจัน ไชยะพุด บ้านด่านซี

3.ด้านปศุสัตว์ ท่านสุบัน แสงดาหลา บ้านน้ำเกลี้ยง

#กรมประมง

#กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์