บุคคลในภาพ นายมานพ หนูสอน (รองอธิบดีกรมประมง)
วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 134-135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนางสุจิตรา วรรณพัฒน์ หัวหน้ากลุ่มแผนงานและงบประมาณ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน นางสาวอัมพุชนี นวลแสง หัวหน้ากลุ่มวิจัยและพัฒนาการจัดระบบมาตรฐานฟาร์มและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม นางอัญชลี นงค์นวล หัวหน้ากลุ่มวิชาการ กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูงในท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูงครั้งที่ 1 / 2567 โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม สำหรับที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินโครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง "1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง" ด้านพืช สัตว์ และประมง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูงจาก 500 ตำบล ตามนโยบายรัฐบาล “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้” รวมถึงยกระดับรายได้ครัวเรือนเกษตรกรให้เพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2570 มีการแบ่งกรอบแนวทางขับเคลื่อนนโยบายสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มสินค้าเกษตรมูลค่าสูงเพื่อส่งออก 2) กลุ่มสินค้าเกษตรมูลค่าสูง และ 3) กลุ่มสินค้าเกษตรและบริการเชิงสร้างสรรค์ รวมทั้งสิ้น 142 กลุ่ม/ตำบลเกษตรและบริการเชิงสร้างสรรค์ รวมทั้งสิ้น 142 กลุ่ม/ตำบล
โดย รมว.ธรรมนัส กล่าวว่า รัฐบาลเร่งผลักดันโครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง "1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง" เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเร่งลดต้นทุนการผลิต และหาตลาดส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มเติม ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันขับเคลื่อนการทำงานให้เห็นเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน เร่งทำงานเชิงรุกให้เกิดการประชุมวางแผนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูผลลัพธ์และแนวทางการดำเนินงานในระยะต่อไป จึงขอมอบหมายให้ทางองค์การตลาด เพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ประสานกับองค์กรรัฐวิสากิจประเทศจีนให้สินค้าเกษตรไทยไปจำหน่ายบนแฟลตฟอร์ม e-Commerce เพื่อขยายตลาดให้เพิ่มมากขึ้น และขอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมมือกับ อ.ต.ก. ช่วยกันพัฒนาสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง ด้วยการจัดหาสินค้าเกษตรมาวางจำหน่ายในแต่ละพื้นที่ สร้างรายได้ให้สหกรณ์และพี่น้องเกษตรกร พร้อมทั้ง ขอให้กรมส่งเสริมการเกษตร ศึกษาส้มโอเวียงแก่น ที่สามารถส่งออกไปวางขายต่างประเทศได้ เพื่อนำมาพัฒนาผลไม้ชนิดอื่นส่งออกได้ต่อไป นอกจากนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสินค้าเกษตร เพื่อเชิญบุคลากรดังกล่าวร่วมเป็นคณะกรรมการทำงานขับเคลื่อนโครงการร่วมกัน
สำหรับโครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง"1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง" มีแนวทางกรขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล จนสามารถขยายตลาดไปประเทศต่าง ๆ รวมถึงส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมการแปรรูปสินค้าให้เกิดมูลค่าสูง โดยเฉพาะการผลิตอาหาร Future Food และ Function Food พร้อมทั้ง เปิดตลาดส่งออกสินค้า GI พืช สมุนไพร อาหารท้องถิ่น และยกระดับเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรของชุมชนให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงอาหารต่อไป
#กรมประมง