ณ กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา

 บุคคลในภาพ  นายมานพ  หนูสอน  (รองอธิบดีกรมประมง) 
 ฟังเสียงบรรยาย
 หยุดเสียงบรรยาย

วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2566 เวลา 08.00 น. ณ กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา

นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายประเทศ ซอรักษ์ ผู้ตรวจราชการกรม นายชนนวัช อุตสาสาร ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดลำปาง นำคณะผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมวิถีชีวิตการทำการประมงโดยใช้เครื่องมือทำการประมงพื้นบ้าน ในบริเวณกว๊านพะเยา เพื่อหาแนวทางพัฒนา เสริมสร้างศักยภาพแหล่งที่อยู่อาศัยสัตว์น้ำ บริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ รวมถึง ส่งเสริมพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ชาวประมงและเกษตรกรที่อาศัยบริเวณรอบๆ กว๊านพะเยา และร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียนขาว ปลาสร้อยขาว เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรสัตว์น้ำในกว๊านพะเยา รวมจำนวน 9,999 ตัว

สำหรับพื้นที่กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของภาคเหนือตอนบน ตั้งอยู่ในเขตลุ่มน้ำอิง มีลำน้ำสาขาไหลจากเทือกเขาผีปันน้ำทิศตะวันตก รวมกับลำน้ำในเขตอำเภอแม่ใจ จ.พะเยา ไหลลงกว๊านพะเยา จำนวน 13 สาย มีพื้นที่ 12,831 ไร่เศษ มีการปรับพื้นที่รักษาพันธุ์ให้สอดคล้องกับ พรก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 56 โดยอ้างอิงตามหลักวิขาการ ปัจจุบันมีชาวประมงอาศัยอยู่รอบกว๊านจำนวน 17 ชุมชน จำนวน 287 ราย ส่วนใหญ่ทำการประมงเพื่อยังชีพและจำหน่ายในท้องถิ่น เครื่องมือที่ใช้จับสัตว์น้ำเป็นเครื่องมือประมงพื้นบ้าน ประกอบด้วย ข่าย แห ลอบ เบ็ด ไซดักกุ้ง เอ๋อ เป็นต้น ชนิดสัตว์น้ำที่จับได้จากการทำประมง เช่น ปลานิล ปลาตะเพียน ปลาสร้อยขาว กุ้งก้ามกราม และกุ้งฝอย เป็นต้น ชาวประมงมีรายได้เฉลี่ย วันละ 400-500 บาท

ทั้งนี้ ในอนาคตอันใกล้กรมประมงได้จัดทำแผนดำเนินโครงการปรับปรุงศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยาเป็นศูนย์เพาะฟักกุ้งอัจฉริยะ สำหรับผลิตและขยายพันธุ์กุ้งก้ามกรามปล่อยลงสู่แหล่งน้ำในจังหวัดพะเยา และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อส่งเสริมให้ชาวประมงมีรายได้จากการจับสัตว์น้ำที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและเป็นที่นิยมบริโภคต่อไป

#กรมประมง

 

 แชร์เนื้อหา : ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook