ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครพนม อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม

 ฟังเสียงบรรยาย
 หยุดเสียงบรรยาย

วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครพนม อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม

นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายสง่า ลีสง่า ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ นางสาวอุมาภรณ์ จรดล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเเละพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมุกดาหาร นายกฤษณะ อัครพัฒน์ และหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนน้ำอูน (สกลนคร) และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานของสำนักงานประมงจังหวัดนครพนม ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครพนม และด่านตรวจสัตว์น้ำนครพนม โดยมีนายกฤษณุพันธ์ โกเมนไปรรินทร์ ประมงจังหวัดนครพนม ให้การต้อนรับร่วมกับนางสาวศิราณี งอยจันทร์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครพนม และนายพิชิต พรหมประศรี หัวหน้าด่านตรวจสัตว์น้ำนครพนม ซึ่งแต่ละหน่วยงานได้รายงานผลการดำเนินงาน รวมถึงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ดังนี้

- สำนักงานประมงจังหวัดนครพนม มีการดำเนินงานโดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายใต้ FC ของจังหวัดและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำพันธกิจสร้าง เสริม เพิ่ม ยก พัฒนามาใช้ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ในโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพ (ศพก.)โครงการธนาคารสินค้าเกษตร โครงการส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ และโครงการ Zoning by Agri-Map เป็นต้น

- ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครพนม มีโครงการและกิจกรรมที่รับผิดชอบ ประจำปี 2567 อาทิ การจัดการทรัพยากรประมง การพัฒนาคุณภาพสินค้าประมงสู่มาตรฐาน การส่งเสริมการเพาะเลี้ยงและพัฒนาธุรกิจสัตว์น้ำจืดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ

เช่น ปลาโมง ปลากดคัง และปลายี่สกไทย เป็นต้น

- ด่านตรวจสัตว์น้ำนครพนม มีภารกิจในการควบคุมการนำเข้า-ส่งออกสินค้าประมง และปัจจัยการผลิตให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายอย่างถูกต้อง

ในโอกาสนี้ รองอธิบดีกรมประมง และคณะ ยังได้ร่วมชมวิธีการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทย ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครพนม โดยการผสมเทียมจากน้ำเชื้อตัวผู้แช่แข็งที่เก็บรักษาไว้ในไนโตรเจนเหลว ในลักษณะของธนาคารน้ำเชื้อ (sperm bank) ซึ่งสามารถเก็บรักษาน้ำเชื้อที่มีคุณภาพดีได้นาน โดยนำมาผสมพันธุ์กับไข่ของแม่พันธุ์ปลายี่สกไทยที่เลี้ยงในบ่อดิน ด้วยชุดเพาะฟักเคลื่อนที่เป็นโรงเพาะฟักไข่ปลาเคลื่อนที่ขนาดเล็ก (Mobile Hatchery ) และจึงนำไปอนุบาลในบ่อดินจนได้ขนาด 2 – 3 เซนติเมตร ก่อนปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำชุมชน เพื่อฟื้นฟู อนุรักษ์ปลายี่สกไทยสำหรับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป หลังจากนั้นได้ให้เกียรติปลูกต้นมะม่วงแก้วขมิ้น เพื่อเป็นที่ระลึกแก่หน่วยงานด้วย

#กรมประมง

#กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 

 แชร์เนื้อหา : ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook