“ธรรมนัส” รมว.เกษตรฯ นำทัพพญานาคราช “ลุยตรวจตู้คอนเทนเนอร์” ป้องกันปราบปรามการนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ณ ท่าเรือแหลมฉบัง

 บุคคลในภาพ  นายบัญชา  สุขแก้ว (อธิบดีกรมประมง) 
 ฟังเสียงบรรยาย
 หยุดเสียงบรรยาย

เมื่อวันพุธที่ 6 ธันวาคม 2566 เวลา 14.00 น. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง นำชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญานาคราช ลงพื้นที่ ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตามการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าเกษตรทางตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งพืช ประมง และปศุสัตว์ เพื่อป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ยืนยันทุกหน่วยงานมีการปฏิบัติการตรวจการนำเข้าสินค้าที่เข้มข้น

นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า หลังท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า) ได้มีการคิกออฟเปิดปฏิบัติการชุดเฉพาะกิจพญานาคราช ในการตรวจการนำเข้าสินค้าประมง ณ ท่าเรือกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งในวันดังกล่าวมีการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อเปิดตรวจสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็ง ซึ่งเห็นถึงกระบวนการขั้นตอนการตรวจสินค้านำเข้าที่เข้มงวดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การ X-Ray ตู้สินค้า ประมงนำเข้าเพื่อวิเคราะห์ตรวจสอบสินค้าภายในตู้ และการเปิดตู้คอนเทนเนอร์เพื่อตรวจสอบสินค้าประมงนำเข้า ปัจจุบันกรมประมงจะมีการเปิดตรวจ 100 % ในการตรวจสอบนอกจากจะเปิดตรวจ ณ ด่าน หรือ ท่าเทียบเรือแล้วจะมีการไปตรวจสอบ ณ สถานประกอบการ (โรงงานหรือห้องเย็น) ปลายทางด้วย โดยจะทำการซีล (Seal) ตู้คอนเทนเนอร์ไปยังสถานประกอบการปลายทาง เพื่อควบคุมและตรวจสอบคัดแยกชนิดและปริมาณที่นำเข้าจริงตรงตามที่สำแดงในเอกสารจนมั่นใจว่าสัตว์น้ำนั้นเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต

โดยภารกิจในวันนี้ ท่านรัฐมนตรีฯ ได้นำทีมพญานาคราชลงพื้นที่ติดตามการตรวจสอบสินค้าเกษตรนำเข้า ทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่า ในวันนี้กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายอำเภอแหลมฉบัง และกรมศุลกากร บูรณาการเข้าสุ่มเปิดตรวจตู้คอนเทนเนอร์สินค้าเกษตรตกค้างที่ไม่มีผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของ ณ หน้าด่านเกินกว่า 45 วัน หลังจากที่กรมศุลกากรได้แจ้งผู้ประกอบการให้เข้ามายื่นเอกสารการเสียภาษีและสำแดงรายการสินค้าภายในตู้ จำนวน 25 ตู้ ซึ่งเบื้องต้นสามารถเข้าตรวจสอบได้ 5 ตู้ มีสินค้าเกษตรอยู่ภายในทั้งสิ้น จำแนกเป็น ปลา จำนวน 1 ตู้ หอมแขก จำนวน 1 ตู้ เนื้อแก้มโค จำนวน 1 ตู้ หมูสามชั้น จำนวน 1 ตู้ และพริกแห้ง จำนวน 1 ตู้ โดยจากนี้ ท่านรัฐมนตรีฯ ได้มอบหมายให้ทั้ง 3 หน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และรายงานความคืบหน้าให้ท่านทราบด้วย และมาตรการต่อจากนี้ ท่านรัฐมนตรีฯ มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าเกษตรทั้งหมด บูรณาการดำเนินงานร่วมกัน โดยจะมีการลงนาม MOU เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ปิดช่องโหว่และขจัดขบวนการนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายให้สิ้นซาก ทั้งหมดนี้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งหวังจะแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน และเป็นการสร้างความมั่นใจในการยกระดับการป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย

รองบัญชาฯ กล่าวในตอนท้ายว่า กรมประมงได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดำเนินการตามกฎหมายและมาตรฐานการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง หากตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่รายใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำสินค้าทุกชนิดเข้าสู่ประเทศอย่างผิดกฎหมาย กรมประมงจะดำเนินการลงโทษทางวินัยอย่างถึงที่สุด

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดขอความร่วมมือแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรมประมง https://www.fisheries.go.th/complain/accept_justice.php หรือ สายด่วนกรมประมง : ศูนย์บริการนำเข้าส่งออกสัตว์น้ำและปัจจัยการผลิต โทร. 0-2579-1878 , 0-2579-3614-5

 แชร์เนื้อหา : ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook