นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่ติดตามการขุนเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาบึก

 ฟังเสียงบรรยาย
 หยุดเสียงบรรยาย

เมื่อวันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดพระนครศรีอยุธยา

นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่ติดตามการขุนเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาบึก ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดพระนครศรีอยุธยา พร้อมเป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าการเพาะพันธุ์ปลาบึกตามหลักพันธุศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์นอกถิ่นกำเนิด ผ่านรูปแบบ Hybrid Meeting เพื่อพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนการเพาะพันธุ์ปลาบึก ตามแผนการจับคู่พ่อแม่พันธุ์ปลาบึก รุ่น F1 ให้คงความหลากหลายทางพันธุกรรมและหลีกเลี่ยงการผสมเลือดชิด เพื่อความยั่งยืนของประชากรปลาบึก

โดยในโอกาสนี้ นางเพราลัย นุชหมอน รักษาการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการประมง นายธเนศ พุ่มทอง ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด นายสง่า ลีสง่า ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ นายนิติกร ผิวผ่อง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดพระนครศรีอยุธยา ผู้แทนจากกองวิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำ กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด สำนักงานประมงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานภายใต้สังกัดกองฯ ที่มีการเก็บรวมรวมพันธุ์ปลาบึกไว้ทั่วประเทศ อาทิ ศปจ.พะเยา, ศพจ.เชียงราย, ศพจ.สงขลา, ศพจ.กาฬสินธุ์, ศพจ.อยุธยา ฯลฯ ได้ร่วมให้ความคิดเห็นต่อความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนงานในภาพรวมครอบคลุมในทุกมิติ

จากนั้นทางคณะผู้บริหารฯ ร่วมสังเกตุการณ์ ตรวจสอบความสมบูรณ์เพศของพ่อแม่พันธุ์ปลาบึก ณ บ่อสาธิตภายในศูนย์ฯ พบว่าพ่อปลาตัวเป้าหมายจำนวน 3 ใน 4 ตัวมีความสมบูรณ์เพศ จึงได้ทำการเก็บน้ำเชื้อพร้อมตรวจสอบในห้องปฏิบัติการทันที ผลปรากฎว่า น้ำเชื้อของพ่อพันธุ์ปลาบึกที่ได้ถือว่ามีปริมาณและคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี โดยมีเปอรเซ็นต์การเคลื่อนไหวในช่วง 85-95 % จึงทำการเก็บน้ำเชื้อและนำมาแช่แข็ง เพื่อใช้ในการขยายพันธุ์ปลาบึกต่อไปในอนาคต ซึ่งกรมประมงจะเร่งทำการทดสอบประสิทธิภาพของน้ำเชื้อดังกล่าว โดยจะนำไปผสมกับไข่ของแม่พันธุ์ปลาบึก ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเชียงราย ตามที่คาดไว้ว่าจะสมบูรณ์เพศในช่วงเดือนมิถุนายน นี้ ที่ถือเป็นฤดูผสมพันธุ์ของปลาบึก

นอกจากนี้ ทางคณะผู้บริหารฯ ได้ร่วมตรวจสอบ เครื่องผลิตอาหารสำเร็จรูปสำหรับสัตว์น้ำ ซึ่งสามารถผลิตอาหารสำเร็จรูปแบบลอยน้ำและจมน้ำสำหรับปลาและกุ้งได้ ในอัตรา 300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง มีขบวนการผลิตตั้งแต่ใส่วัตถุดิบ ผสมวัตถุดิบ บดวัตถุดิบ อัดเม็ด อบแห้ง ทำให้เย็น จนถึงบรรจุลงถุงบรรจุอาหาร จากนั้นได้ร่วมกันปลูกต้นกันเกราเพื่อความเป็นสิริมงคลภายในศูนย์วิจัยฯ อีกด้วย

#กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

#กรมประมง

 

 แชร์เนื้อหา : ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook