ลงพื้นที่ร่วมติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี

 บุคคลในภาพ  นายมานพ  หนูสอน  (รองอธิบดีกรมประมง) 
 ฟังเสียงบรรยาย
 หยุดเสียงบรรยาย

เมื่อวันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08.30 น. ณ จังหวัดศรีสะเกษ

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่ร่วมติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีท่านจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี เป็นประธาน ทั้งนี้ได้รับฟังรายงานผลความก้าวหน้าผลการบริหารจัดการน้ำ และผลกระทบที่เกิดจากอุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดศรีษะเกษ รวมถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบันในเขตพื้นที่ของสำนักงานชลประทานที่ 8 แผนการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์หากเกิดอุทกภัย โดยท่านองคมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานและการพัฒนาต่อยอดโครงการเพื่อขยายผลให้เกิดประโยชน์สู่ประชาชนได้อย่างกว้างขวางตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบไป

จากนั้น ได้ลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายปวัตร์ นวะมะรัตน เลขาธิการ กปร. ได้รายงานแนวทางการดำเนินงานสนองพระราชดำริภายในศูนย์ฯ เพื่อช่วยเหลือราษฎรในการประกอบอาชีพด้านการเกษตร ให้ดำเนินการในลักษณะเช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ที่มีลักษณะเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต โดยการรวมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาปฏิบัติงานแบบบูรณาการร่วมกัน และขยายผลไปสู่ประชาชนให้สามารถพัฒนาอาชีพ และพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรสาขาต่าง ๆ แก่เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างแหล่งอาหาร สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร รวมทั้งสามารถพัฒนาเกษตรกรเป็นต้นแบบขยายเครือข่ายในชุมชน ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านบริเวณรอบศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ และหมู่บ้านใกล้เคียง จำนวน 27 หมู่บ้านได้รับโอกาสการพัฒนา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

โอกาสนี้องคมนตรี ได้มอบปัจจัยการผลิตแก่ตัวแทนเกษตรกร และเยี่ยมชมนิทรรศการกิจกรรมต่าง ๆ ภายในศูนย์ฯ สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยตึ๊กชูอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลห้วยตึ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรหมู่บ้านต่าง ๆ ณ ที่ทำการกิ่งอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2537 ได้พระราชทานพระราชดำริ สรุปความว่า "ควรเร่งเปิดโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยตึ๊กชู ตำบลห้วยตึ๊กชู และก่อสร้างให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเป็นแหล่งน้ำสนับสนุนโครงการศูนย์พัฒนาการเกษตร บ้านตะแบง กิ่งอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งช่วยเหลือราษฎรหมู่บ้านต่าง ๆ ทางด้านท้ายเขื่อนเก็บกักน้ำ และควรพิจารณาให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยตึ๊กชูด้วย" โดยอ่างเก็บน้ำห้วยตื๊กชูฯ ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2542 สามารถส่งน้ำให้ราษฎรสำหรับอุปโภคบริโภค และพื้นที่การเกษตร ในช่วงฤดูฝน 12,500 ไร่ และช่วงหน้าแล้ง 6,500 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลห้วยตึ๊กชู ตำบลโคกตาล ตำบลละลม และตำบลตะเคียนราม อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างหลากหลายและต่อเนื่องตลอดปี โดยมีนางสาวศิราณี งอยจันทร์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดศรีสะเกษ กล่าวรายงานผลการดำเนินงาน รวมทั้งร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ณ อ่างเก็บน้ำห้วยตึ๊กชู ได้แก่ ปลากาดำ ปลากระแห ปลาสร้อยขาว ปลาตะเพียนขาว รวมจำนวน 100,000 ตัว และมอบพันธุ์ปลาตะเพียนให้ผู้ใช้น้ำ 5 ราย รายละ 2,000 ตัว บ้านนางสมุทร มาจาด บ้านโคกสามัคคี หมู่ที่ 14 ตำบลห้วยตึ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเกษตรกรต้นแบบของศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ ที่ได้เข้ารับการอบรมเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ และได้นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมมาปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองเริ่มจากการแบ่งพื้นที่ทำการเกษตรตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ จากพื้นที่ทั้งหมด 12 ไร่ แบ่งทำนาข้าว 10 ไร่ ที่อยู่อาศัย 2 ไร่ และปลูกยางนาที่ได้รับจากศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ บริเวณริมรั้วของพื้นที่ จำนวน 30 ต้น ปลูกมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบ และพันธุ์น้ำหวานแปดริ้ว จำนวน 100 ต้น นอกจากนี้ยังเลี้ยงโคและกระบือ โดยนำมูลไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงบำรุงดินซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิต ลดการใช้ปุ๋ยเคมี โดยมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน จากการขายผลผลิต เช่น มะพร้าว กล้วยหอม กล้วยไข่ และขายหน่อพันธุ์กล้วย เป็นต้น

#กรมประมง

#กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 แชร์เนื้อหา : ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook