ประมวลภาพกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ภายใต้โครงการสื่อสารสร้างการรับรู้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเลเพื่อความยั่งยืน

 ฟังเสียงบรรยาย
 หยุดเสียงบรรยาย

ประมวลภาพกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ภายใต้โครงการสื่อสารสร้างการรับรู้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเลเพื่อความยั่งยืน วันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2565 ณ จังหวัดกระบี่

นายแสน ศรีงาม ผู้ตรวจราชการกรมประมง พร้อมคณะผู้บริหาร ประกอบด้วยนายเจริญไชย ศรีสุวรรณ์ ประมงจังหวัดกระบี่ นายประจวบ เจี้ยงยี่ ผู้อำนวยการกองตรวจการประมง นายบัณฑิต กุลละวณิชย์ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการเรือประมงและการทำประมง นายอานันต์ อัลมาตร์ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบเรือประมง สินค้าสัตว์น้ำ และปัจจัยการผลิต น.ท.พรชัย สิงหบุญ ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือประมง กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล นายธีรวัฒน์ จริตงาม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งกระบี่ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง นำคณะสื่อมวลชนทั้งจากส่วนกลางและสื่อมวลชนในพื้นที่กว่า 20 คน ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อร่วมสังเกตการณ์การทำประมง หลังสิ้นสุดระยะเวลาของการประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนฝั่งทะเลอันดามัน ประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดยจากผลสำรวจช่วงระหว่างการประกาศใช้มาตรการฯ ในปี 2564 พบสัตว์น้ำเศรษฐกิจหลายชนิดมีความสมบูรณ์เพศสูง และมีความชุกชุมของลูกปลาวัยอ่อนในบริเวณพื้นที่ปิดอ่าวอันดามัน และในปี 65 มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นของทรัพยากรสัตว์น้ำ

โดยการนำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สื่อมวลชนได้เห็นวิถีการทำประมง อาทิ เรืออวนล้อมจับ (อวนดำ) การใช้เรือปั่นไฟล่อสัตว์น้ำเพื่อให้เข้ามาติดอวนประมง เรืออวนลากคู่ เป็นต้น ที่สำคัญ คือ การร่วมสังเกตปริมาณทรัพยากรสัตว์น้ำหลังสิ้นสุดระยะการใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามัน นอกจากนี้ ยังจะได้ไปดูกระบวนการเก็บข้อมูลทางวิชาการหลังสิ้นสุดมาตรการปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน ณ แพปลาท่าเทียบเรือน้ำลึกจังหวัดกระบี่ และร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวนรวมทั้งสิ้น 170,000 ตัว ประกอบด้วย กุ้งแชบ๊วย 100,000 ตัว ปูม้า 60,000 ตัว และปูขาว 10,000 ตัว

กรมประมงมุ่งหวังให้มาตรการปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน เป็นกลไกหนึ่งในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำโดยอาศัยความตระหนักและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำที่คุ้มค่าและยั่งยืน สร้างความมั่นคงด้านอาหารเพื่อมวลมนุษยชาติ สุดท้ายกรมประมงต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวประมงที่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำเพื่อความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน และเกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพประมงต่อไป

แหล่งที่มา :กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 แชร์เนื้อหา : ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook