#กลุ่มประมงพื้นบ้าน “บ้านไหนหนัง จ.กระบี่” เฮลั่น กรมประมงประเดิมมอบใบรับรองการทำประมงพื้นบ้านฯ หวังพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวประมงไทยสร้าง “อาหารมั่นคง ประมงยั่งยืน”

 ฟังเสียงบรรยาย
 หยุดเสียงบรรยาย

#กลุ่มประมงพื้นบ้าน “บ้านไหนหนัง จ.กระบี่” เฮลั่น

กรมประมงประเดิมมอบใบรับรองการทำประมงพื้นบ้านฯ

หวังพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวประมงไทยสร้าง “อาหารมั่นคง ประมงยั่งยืน”

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 น. ณ ชุมชนประมงบ้านไหนหนัง จ.กระบี่ ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนางสาวชุติมา ขมวิลัย ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบการรับรองมาตรฐานสินค้าประมงและหลักฐานเพื่อการสืบค้น นายแสน ศรีงาม ผู้ตรวจราชการกรม นายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธ์กุล ประมงจังหวัดกระบี่ นายวิวรรธน์ สิงห์ทวีศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมชี้แจงเพื่อเพิ่มศักยภาพชาวประมงพื้นบ้าน/ผู้ประกอบการผลิตสินค้าประมงพื้นบ้าน พร้อมมอบใบรับรองมาตรฐานการทำประมงพื้นบ้านอย่างยั่งยืนและการแปรรูปสินค้าประมงพื้นบ้าน ให้แก่กลุ่มประมงพื้นบ้านไหนหนัง ต.เขาคราม อ.เมือง จ. กระบี่ จำนวน 11ราย เพื่อเป็นการส่งเสริมและเป็นต้นแบบในการสนับสนุนการทำประมงแบบอย่างมีความรับผิดชอบเป็นไปตามหลักการสากล

ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า จากนโยบายของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มอบหมายให้กรมประมงพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงที่โรคระบาดโควิด-19 ยังระบาดอยู่นั้นประกอบกับ“การส่งเสริมการอนุรักษ์ประมงที่ยั่งยืน” เป็นประเด็นกรมประมงได้ให้ความสำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือ Sustainable Development Goals (SDGs) 17 ข้อ โดยเฉพาะ SDG เป้าหมายที่ 14 Life Below Water การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทะเลเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDG 14) กรมประมงจึงกำหนดนโยบายในการส่งเสริมการทำประมงอย่างยั่งยืนสำหรับการทำประมงพื้นบ้านและได้ออกระเบียบเพื่อกำหนดมาตรฐานการทำประมงพื้นบ้านยั่งยืนและการ แปรรูปสินค้าประมงพื้นบ้านซึ่งประกาศฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยหากชาวประมง ชุมชนประมง สามารถผ่านการประเมินมาตรฐานตามข้อกำหนดจะได้รับเครื่องหมายบรองมาตรฐานฯ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือในการทำประมงที่ยั่งยืนตามหลักการสากลพร้อมส่งต่อทรัพยากรสัตว์น้ำให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานต่อไป

มาตรฐาน ฯ ดังกล่าวครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการจับสัตว์น้ำ การดูแลสัตว์น้ำหลังการจับ และการแปรรูป

เพื่อยกระดับวิถีและสินค้าประมงพื้นบ้านของไทยมีมาตรฐานอาหารปลอดภัยและรับผิดชอบต่อสังคมก่อให้เกิดความยั่งยืนของทรัพยากรประมง ตลอดจนเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดและสร้างคุณค่าให้กับสินค้าประมงพื้นบ้านให้เป็นที่ยอมรับของบริโภค นำมาซึ่งราคาขายที่สูงขึ้น และจากข้อมูลล่าสุดจากกองพัฒนาระบบการรับรองมาตรฐานสินค้าประมงและหลักฐานเพื่อการสืบค้น (กมป.) พบว่ามีกลุ่มประมงพื้นบ้านยื่นคำขอสมัครเพื่อขอรับการรับรองมาตรฐานการทำการประมงพื้นบ้านฯ ทั้งหมด 7 กลุ่ม จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช และกระบี่ โดยคณะผู้ตรวจประเมินได้ดำเนินการตรวจสอบประเมินตามมาตรฐาน ฯ กลุ่มประมงพื้นบ้าน บ้านไหนหนัง ต.เขาคราม อ.เมือง จ. กระบี่ มีสมาชิกที่ยื่นคำขอรับรองมาตรฐานการทำประมงพื้นบ้านอย่างยั่งยืนจำนวน 11 รายแล้ว พบว่ากลุ่มชาวประมงมีความเข้าใจในมาตรฐานเป็นอย่างดี และสามารถปฏิบัติได้สอดคล้องตามมาตรฐาน เห็นสมควรได้รับใบรับรองฯ ซึ่งได้เป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ฯ

ในวันนี้ถือเป็นโอกาสดีของกลุ่มประมงพื้นบ้านไหนหนัง ที่นอกจากกรมประมงจะได้ชี้แจงข้อมูลที่สำคัญ

อาทิ ข้อกำหนดของการทำประมงพื้นบ้านอย่างยั่งยืนและการแปรรูปสินค้าประมงพื้นบ้าน และกระบวนงานรับรองมาตรฐานฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพชาวประมงพื้นบ้าน/ผู้ประกอบการผลิตสินค้าประมงพื้นบ้าน พร้อมได้มอบใบรับรองตามมาตรฐานฯ ให้กับทางกลุ่มชาวประมงเพื่อแสดงให้เห็นว่า ผลผลิตและผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้มาจากการทำประมงที่ยั่งยืนโดยใช้มาตรฐานฯ เป็นเครื่องมือนำทาง ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน นอกจากนี้กรมประมงยังได้ร่วมกับศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC) จัดการอบรมการดูแลรักษาสัตว์น้ำหลังการจับ พร้อมมอบอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนกระบวนการดูแลรักษา สัตว์น้ำและการแปรรูปเบื้องต้น ให้แก่ชุมชนเพื่อการสนับสนุนการทำประมงที่ได้สัตว์น้ำที่มีคุณภาพอีกด้วยโดยนางมาลินี สมิทธิ์ฤทธี เลขาธิการศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC) ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ได้รับการรับรองทั้งหมดในวันนี้ถือเป็นประมงพื้นบ้านกลุ่มแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการทำประมงยั่งยืนและเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราหันมาร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลไทยให้มีกิน มีใช้อย่างยั่งยืน

สำหรับชาวประมงพื้นบ้านที่ประสงค์ยื่นขอใบรับรองมาตรฐานการทำการประมงพื้นบ้านอย่างยั่งยืนและ การแปรรูปสินค้าประมงพื้นบ้าน พ.ศ.2563 ต้องมีคุณสมบัติ แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1) จะต้องเป็นสมาชิกองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำการประมง (ทบ.3) และเป็นเรือประมงที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และ 2) จะต้องได้รับการจดทะเบียนเป็นองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นด้านแปรรูปหรือเป็นสมาชิกองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นหรือได้รับการจดทะเบียนผู้ประกอบการด้านการประมง (ทบ.2) โดยใบรับรองดังกล่าวจะมีอายุ 2 ปี นับแต่วันออกใบรับรอง ซึ่งเมื่อได้รับใบรับรองฯ ไปแล้ว จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของระเบียบ และรักษาให้เป็นไปตามมาตรฐาน ตลอดอายุใบรับรอง ซึ่งกรมประมงจะมีการตรวจประเมินปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำนักงานประมงอำเภอ สำนักงานประมงจังหวัดชายทะเลในเขตพื้นที่ในเขตพื้นที่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาระบบการรับรองมาตรฐานสินค้าประมงและหลักฐานเพื่อการสืบค้น โทร. 0 2597 9710 หรือทางเว็บไซต์ https://www4.fisheries.go.th/local/index.php/main/site/fcstd

#กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 แชร์เนื้อหา : ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook