นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมประมง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนภาคเอกชน ผู้นำชุมชน ชาวประมง และแขกผู้มีเกียรติ ให้การต้อนรับ ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ (สผ.) นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพังงา

 บุคคลในภาพ  นายบัญชา  สุขแก้ว (อธิบดีกรมประมง) 
 ฟังเสียงบรรยาย
 หยุดเสียงบรรยาย

วันที่ 25 สิงหาคม 2563 เวลา 09.30 น. ณ ชุมชนบ้านเขาปิหลาย ต. โคกกลอย อ. ตะกั่วทุ่ง จ. พังงา

นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมประมง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนภาคเอกชน ผู้นำชุมชน ชาวประมง และแขกผู้มีเกียรติ ให้การต้อนรับ ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ (สผ.) นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพังงา

โดยรองอธิบดีฯ ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในแหล่งน้ำธรรมชาติว่ากรมประมง มีนโยบายในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ และควบคุมให้มีการนำขึ้นมาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดและยั่งยืน สอดคล้องกับปริมาณสัตว์น้ำตามธรรมชาติที่สามารถให้จับได้ โดยไม่กระทบต่อประชากรสัตว์น้ำรุ่นหลังที่จะเกิดขึ้นมาทดแทน หรือที่เรียกว่า ค่า MSY (Maximum Sustainable yield)

ในปี พ.ศ. 2563 กรมประมงกำหนดค่า MSY ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านตัน โดยทางฝั่งทะเลอันดามันได้รับการจัดสรรให้จับได้อยู่ที่ประมาณ 6 แสนตัน ซึ่งการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำเพื่อรักษาระดับผลผลิตสูงสุดอย่างยั่งยืน นอกจากการควบคุมปริมาณการจับสัตว์น้ำที่สอดคล้องกับค่า MSY, การควบคุม ตรวจสอบ เฝ้าระวัง ป้องกันไม่ให้มีการทำประมงอย่างผิดกฎหมาย หรือ IUU fishing และการกำหนดขนาดและจำนวนเครื่องมือประมงที่เหมาะสมแล้ว การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตให้กับแหล่งน้ำธรรมชาติโดยตรงนั้น นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชาวประมงในท้องถิ่น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างคุ้มค่าอีกทางหนึ่ง

สำหรับกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ในวันนี้ กรมประมงร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกกลอย ชาวประมงบ้านเขาปิหลาย ชุมชนข้างเคียง และมูลนิธิรักษ์ทะเลไทย ได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ประกอบด้วย กุ้งมังกรเจ็ดสี และกุ้งมังกรเลน จำนวน 33 ตัว จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอันดามันตอนบน (ภูเก็ต) ลูกกุ้งมังกร ระยะคล้ายแมงมุม จำนวน 100,000 ตัว จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต) กุ้งแชบ๊วย จำนวน 60,000 ตัว และหอยชักตีน จำนวน 3,000 ตัว จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งพังงา

ซึ่งเป็นการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่จังหวัดพังงาซึ่งมีระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยและเหมาะสมสำหรับเป็นแหล่งอนุบาลลูกสัตว์น้ำ เนื่องจากบริเวณชายฝั่งปกคลุมไปด้วย ป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ห่างฝั่งออกไปยังเป็นแหล่งหญ้าทะเล และแนวปะการัง อีกทั้งพื้นท้องทะเลมีลักษณะเป็นไหล่ทวีป จึงเหมาะสมสำหรับเป็นแหล่งหลบซ่อน วางไข่ของพ่อแม่พันธุ์ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายหลักของกรมประมงที่มุ่งหวังให้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องทะเลกลับคืนความอุดมสมบูรณ์ อันจะนำมาสู่ความยังยืนของอาชีพประมง

 แชร์เนื้อหา : ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook