นางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานในการแถลงข่าวเรื่อง

 ฟังเสียงบรรยาย
 หยุดเสียงบรรยาย

เมื่อวันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 2560 กรมประมงแถลงข่าวเกี่ยวกับการเตรียมเปิดให้ชาวประมง – เจ้าของเรือประมงพาณิชย์ แจ้งความประสงค์ยื่นขอตรวจสอบควบรวมใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ และแลกเปลี่ยนเรือประมง ในระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2560 (ในวันเวลาราชการ) ณ สำนักงานประมงอำเภอ และ สำนักงานประมงจังหวัดทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับผู้ประกอบการประมงที่ถูกลดวันทำการประมง

นางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกองทัพเรือ กรมเจ้าท่า และกรมประมงได้มีการตรวจวัดขนาดเรือประมงพาณิชย์ใหม่ทั้งหมดจำนวนประมาณ 10,570 ลำ ส่งผลให้เรือประมงมีขนาดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทำให้ต้องลดวันทำการประมงลง เพื่อให้ปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ไม่เกินปริมาณสัตว์น้ำที่อนุญาตให้ทำการประมงได้ ส่งผลให้เรือประมงบางลำมีวันทำการประมงเหลือเพียง 142 วันต่อปีซึ่งอาจน้อยเกินไปทำให้ไม่สามารถที่จะประกอบธุรกิจได้
เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนอันเนื่องมาจากวันทำการประมงที่ไม่เพียงพอ กรมประมงจึงเสนอให้
ชาวประมงมีการควบรวมใบอนุญาตโดยเปิดโอกาสให้นำเรือประมงที่มีใบอนุญาตทำการประมง นำมาควบรวมใบอนุญาตทำการประมงกับเรือประมงพาณิชย์ที่ไม่ประสงค์จะทำการประมงอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้วันทำการประมง
มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
การควบรวมใบอนุญาตทำการประมง
1. ควบรวมใบอนุญาตทำการประมงระหว่างเรือที่มีใบอนุญาตเท่านั้น
2. เครื่องมือที่ควบรวมได้ จะต้องเป็นเครื่องมือทำการประมงในกลุ่มสัตว์น้ำเดียวกัน คือ สัตว์น้ำหน้าดิน ปลาผิวน้ำ และปลากะตัก ยกเว้น อวนลากควบรวมกับอวนล้อมและอวนล้อมจับปลากะตักได้ ซึ่งกรณีการควบรวมข้ามกลุ่มจะต้องมีการนำปริมาณสัตว์น้ำมาคำนวณ
3. กรมประมงจะคำนวณวันทำการประมงใหม่ตามปริมาณสัตว์น้ำที่ควบรวมได้
4. เรือหลักสามารถนำสัตว์น้ำจากเรือเป้าหมายหลายลำมาควบรวมได้ หรือเรือหลักหลายลำสามารถนำสัตว์น้ำจากเรือเป้าหมายลำเดียวมาแบ่งกันได้
5. ควบรวมได้เฉพาะเครื่องมือที่ทำการประมงฝั่งเดียวกันเท่านั้น
6. เมื่อควบรวมแล้วสามารถสลับนำเรือเป้าหมายมาทำการประมงได้ โดยเรือที่ไม่ได้ใช้งานจะต้องนำไปทำลาย หรือ ทำปะการังเทียม หรือ ขายต่อไปต่างประเทศ หรือ เปลี่ยนประเภทการใช้เรือ
โดยเจ้าของเรือจะได้รับใบอนุญาตทำการประมงฉบับใหม่ (2561 – 2562) พร้อมหนังสือรับรองปริมาณสัตว์น้ำคงเหลือ (ถ้ามี) ภายใน 7 วันทำการ หลังยื่นคำขอควบรวมใบอนุญาตทำการประมง

อย่างไรก็ตาม หากเรือประมงพาณิชย์ไม่ประสงค์จะควบรวมก็สามารถทำการประมงตามวันทำการประมงที่ได้รับจัดสรรไว้ได้ แต่อาจส่งผลการพิจารณาการได้รับใบอนุญาตทำประมงพาณิชย์ในรอบที่จะมาถึง เนื่องจากหลักเกณฑ์ในที่จะพิจารณาออกออกใบอนุญาตทำการประมงในครั้งถัดไปจะให้สิทธิผู้ประกอบการทำการประมงเดิม(มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์) และพิจารณาจากปริมาณสัตว์น้ำที่ได้รับอนุญาตอยู่เดิม
นอกจากนี้...

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่พี่น้องชาวประมงได้รับความเดือดร้อนอันเนื่องมาจากเรือที่จะทำการประมงมีสภาพทรุดโทรม การต่อเรือประมงใหม่มีข้อห้ามทางกฎหมาย กรมประมงจึงเปิดโอกาสให้ชาวประมงสามารถแลกเปลี่ยนเรือประมงได้ โดยนำเรือประมงที่มีทะเบียน และมีการแจ้งงดใช้ทำการประมงอยู่ขณะนี้ นำมาแลกกับเรือที่ทำประมงในปัจจุบัน โดยต้องมีการนำเรือปัจจุบันไปทำลายออกจากระบบ โดยการแลกเปลี่ยนเรือนี้จะมีผลสมบูรณ์ในการขอรับใบอนุญาตทำการประมงรอบใหม่ (2561-2562)ซึ่งจะมีกำหนดประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2561 โดยมีแนวทางการดำเนินการ ดังนี้

การแลกเปลี่ยนเรือ
1.การแลกเปลี่ยนได้เฉพาะเรือประมงที่มีใบอนุญาตทำการประมง กับเรือที่มีทะเบียนเรือ ถูกตรึงพังงา และทำอัตลักษณ์เรือแล้วเท่านั้น
2.เครื่องมือทำการประมงจะต้องเป็นเครื่องมือเดิมของเรือที่ขอแลก
3. การกำหนดจำนวนวันทำการประมง
(1) เรือที่นำมาเปลี่ยน ประสิทธิภาพเท่ากับ เรือที่ขอแลก ได้จำนวนวันเท่าที่ได้ในปี 2560
(2) เรือที่นำมาเปลี่ยน ประสิทธิภาพน้อยกว่า เรือที่ขอแลก จำนวนวันเพิ่มขึ้น
(3) เรือที่นำมาเปลี่ยน ประสิทธิภาพมากกว่า เรือที่ขอแลก จำนวนวันลดลง
4. เมื่อแลกเปลี่ยนแล้ว จะต้องนำเรือลำเดิมไปทำลาย หรือนำไปทำปะการังเทียม หรือขายต่อไปต่างประเทศ หรือ เปลี่ยนประเภทการใช้เรือ
5. ชาวประมงสามารถนำเรือที่เปลี่ยนมายื่นขอใบอนุญาตทำการประมงสำหรับปีการประมง 2561

ทั้งนี้ กรมประมงจะเปิดให้เจ้าของเรือประมงที่มีความประสงค์จะควบรวมใบอนุญาตฯ และแลกเปลี่ยนเรือประมงมายื่นคำขอตรวจสอบได้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2560 (ในวันเวลาราชการ) 
ณ สำนักงานประมงอำเภอ หรือ สำนักงานประมงจังหวัดโดยจัดเตรียมเอกสารหลักฐาน ดังนี้
• แบบคำขอ (ปร.1) (ปร.2) (คร.1) (คร.2)สามารถดาวน์โหลดได้ทางหน้าเว็ปไซต์กรมประมง
• สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของเรือที่ขอแลกและเรือที่นำมาเปลี่ยน
• ใบอนุญาตทำการประมงฉบับจริงของเรือที่ขอแลก
• เอกสารหนังสือยกเลิกทะเบียนเรือ หรือ หนังสือเปลี่ยนแปลงประเภทเรือที่ขอแลกจากกรมเจ้าท่า (อาจใช้เฉพาะสำเนาที่แจ้งกรมเจ้าท่าได้)
• หนังสือยินยอมมอบเรือประมงให้กับกรมประมง (ในกรณีมอบเรือให้กับกรมประมง)
• สำเนาทะเบียนเรือและใบอนุญาตใช้เรือของเรือทั้งสองลำ (เรือที่ขอแลกและเรือที่นำมาเปลี่ยน)
• รูปเรือที่จะใช้เป็นเรือทำการประมง จำนวน 4 รูป (รูปอัตลักษณ์เรือ / รูปด้านหัวเรือที่เห็นชื่อเรือและเลขทะเบียนเรือ / รูปด้านข้างเรือเต็มลำด้านซ้าย / รูปด้านข้างเรือเต็มลำด้านขวา
• หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจ) ติดอากรแสตมป์ 10 บาท
• สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
กรมประมงเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถช่วยให้ชาวประมงที่มีวันทำการประมงเหลือน้อยสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และทำให้การบริหารจัดการเรือประมง การทำประมง และทรัพยากรสัตว์น้ำเกิดความสมดุลและยั่งยืน..รองอธิบดีกรมประมงกล่าว

 

 แชร์เนื้อหา : ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook