กรมประมง..ชุบชีวิต ปล้องทองปรีดี ปลาดอยที่เสี่ยงสูญพันธุ์ ได้สำเร็จ!! หลังใช้ความพยายามมากว่า 12 ปี

 ฟังเสียงบรรยาย
 หยุดเสียงบรรยาย

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง  เปิดเผยว่า กรมประมงมีนโยบายในการสนับสนุนงานวิจัยด้านการประมงสาขาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญการสร้างสรรค์งานวิจัยที่มีคุณภาพสามารถนำไปใช้ประโยชน์และขยายองค์ความรู้สู่เกษตรกรชาวประมงเพื่อร่วมกันพัฒนาภาคการประมงของประเทศได้ 
โดยล่าสุด นักวิชาการกรมประมงสามารถทำการเพาะพันธุ์ปลาได้สำเร็จอีกหนึ่งชนิด นั่นคือ “ปลาปล้องทองปรีดี” ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นปลาหายากอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติซึ่งเป็น
ถิ่นที่อยู่อาศัยเสื่อมโทรมลง  อีกทั้งยังถูกรุกรานจับขึ้นมาจำหน่ายเพื่อเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ทำให้ปลาปล้องทองปรีดีในธรรมชาติลดจำนวนลงเรื่อย ๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่กรมประมงต้องเร่งเพาะขยายพันธุ์เพื่อทำการฟื้นฟูและอนุรักษ์ให้ปลาชนิดนี้ยังคงอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ และในอนาคตสามารถต่อยอดการเพาะเลี้ยงเพื่อเป็นปลาสวยงามสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อไป

 

นายประสาน  พรโสภิณ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเขต 1 (เชียงใหม่) หัวหน้าคณะผู้วิจัยเล่าว่า “ปลาปล้องทองปรีดี” เป็นปลาที่อยู่ในวงศ์ปลาค้อ (Balitoridae)  
มีขนาดเล็กความยาวประมาณ 2-3 นิ้ว สีสันสวยงาม ลำตัวมีลักษณะคล้ายปล้องอ้อยเรียวยาวสีน้ำตาลอ่อนอมเทาหรือเหลืองอ่อน และมีลายขวางสีคล้ำลงมาเกือบถึงท้อง พบได้ในประเทศแถบเอเชียสำหรับประเทศไทยพบบริเวณลำธารภูเขาในเขตพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม อำเภอเชียงดาว และอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้สำรวจชนิดพันธุ์สัตว์น้ำตามโครงการพระราชดำริทุกปีอย่างต่อเนื่อง  และพบว่าปลาปล้องทองปรีดีในธรรมชาติ
หาได้ยากและมีจำนวนลดน้อยลง จึงได้พยายามรวบรวมพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติเพื่อทำการศึกษาทดลอง
เพาะขยายพันธุ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549  แต่ในระยะแรกยังประสบปัญหาเนื่องจากปลาไม่สามารถปรับตัวให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมของการทดลองได้ จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2560 ทางศูนย์ฯ ได้นำไปทดลองเพาะขยายพันธุ์ที่สถานีวิจัยประมงน้ำจืดพื้นที่สูงอินทนนท์  ซึ่งมีสภาพแวดล้อมและอากาศใกล้เคียงกับแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติมากที่สุด  โดยคัดเลือกปลาที่มีน้ำเชื้อและไข่สมบูรณ์มาทำการทดลองเพาะพันธุ์ด้วยวิธีฉีดกระตุ้นฮอโมนสังเคราะห์ แล้วปล่อยลงกล่องทดลองให้พ่อแม่ปลาผสมพันธุ์แบบธรรมชาติที่อุณหภูมิน้ำ 15.3–16.8 องศาเซลเซียส ผลปรากฏว่า 
ปลามีการตกไข่มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และสามารถฟักออกเป็นตัวได้สำเร็จ แต่อัตราการฟักตัวยังค่อนข้าง
ต่ำอยู่มากเพียง 37.13 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น รวมถึงการอนุบาลลูกปลาก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราการรอดยัง
ต่ำอยู่เช่นกัน ซึ่งได้ผลผลิตเพียง 200 ตัวเท่านั้น จึงต้องมีการพัฒนาขยายผลการศึกษาวิจัยในระยะต่อไปเพื่อ
ให้ได้ผลผลิตที่มากกว่านี้

 

อธิบดีกรมประมง  กล่าวในตอนท้ายว่า นับเป็นความสำเร็จในความพยายามเพาะพันธุ์ปลาปล้องทองปรีดีของไทยหลังจากที่ทีมนักวิจัยของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเขต 1 (เชียงใหม่)
ได้ใช้ระยะเวลาในการศึกษาทดลองกว่า 12 ปี  ทั้งนี้ กรมประมงมีความคาดหวังว่าจะสามารถพัฒนางานวิจัยชิ้นนี้
ให้สามารถต่อยอดเพื่อขยายผลไปสู่การเพิ่มปริมาณประชากรปลาปล้องทองปรีดีในธรรมชาติให้มีจำนวนมากขึ้น 
ไม่สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย และขยายผลไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อปั้นเป็นปลาสวยงามทางเศรษฐกิจด้วย ©

 แชร์เนื้อหา : ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook