กรมประมง

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น. ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้ นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนางชลธิชา สันติภาตะนันท์ ประมงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายนิติกร ผิวผ่อง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดพระนครศรีอยุธยา ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านวิชาการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตปฏิรูปที่ดิน ระหว่าง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ โดยมีนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีฯ ณ อาคารพระมิ่งขวัญ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาภาคเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน โดยบูรณาการร่วมกันระหว่างความเชี่ยวชาญด้านวิชาการของผู้เชี่ยวชาญจาก มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมกับความสามารถจากบุคลากรของ ส.ป.ก. ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีการเกษตรในพื้นที่ ส.ป.ก. ให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมและต่อยอดพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินให้ประชาชนได้รับการพัฒนา ทั้งในด้านระบบสารณูปโภคและภาคการเกษตรอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ทั้ง 2 หน่วยงานยังได้เตรียมขับเคลื่อนภารกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างประโยชน์ให้แก่เกษตรกรอย่างสูงสุดต่อไป

จากนั้น เวลา 10.00 น. รองอธิบดีกรมประมง และคณะ ได้ติดตามคณะรัฐมนตรีช่วยฯ ไปยังหมู่บ้าน 4 ภาค ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมพิธีเปิดโครงการจดทะเบียนสมรส “พรหมลิขิตผูกพัน รักนิรันดร์ ณ บางไทร” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส.ป.ก. ร่วมกับหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลวันแห่งความรัก (วันวาเลนไทน์) และการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมของคู่รัก LGBTQ+ เนื่องในวันวาเลนไทน์เป็นปีแรก หลังจากรัฐบาลประกาศกฎหมายสมรสเท่าเทียม เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยภายในงานมีการจดทะเบียนสมรสของคู่รัก จำนวน 12 คู่ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันความรักที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการสนับสนุนความเท่าเทียมในการสมรสอย่างเป็นทางการ พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยชูเอกลักษณ์ของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร ที่มีจุดเด่นในด้านศิลปหัตถกรรมและแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปหัตถกรรม ตามนโยบายการสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของรัฐบาล อีกด้วย

นอกจากนี้ กรมประมงได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว ด้วยการมอบพันธุ์ปลา จำนวนทั้งสิ้น 4,100 ตัว ประกอบด้วย

1. ปลาตะเพียนขาว จำนวน 2,000 ตัว

2. ปลาตะเพียนทอง จำนวน 1,100 ตัว

3. ปลากระแห จำนวน 1,000 ตัว

เพื่อปล่อยในแหล่งน้ำภายในพื้นที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งเสริม พัฒนาอาชีพด้านการประมง และเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำดังกล่าวต่อไป

#กรมประมง

#กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์