Infographic แนวทางในการเพิ่มความสามารถของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ by AQUADAPT-Mekong


Infographic แนวทางในการเพิ่มความสามารถของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ by AQUADAPT-Mekong 

 ข่าวประชาสัมพันธ์  หน่วยงาน  หน่วยงานส่วนภูมิภาค

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

 

AQUADAPT-Mekong คืออะไร 

        โครงการ AQUADAPT-Mekong หรือ Aquaculture adaptation to climate change in the Mekong Region เป็นหน่วยงานวิจัยสังคมและสิ่งแวดล้อม ภาควิชาสังคมศาสตร์กับการพัฒนา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศใน 5 ประเทศลุ่มน้ำแม่โขง ได้แก่ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เพื่อหาแนวทางเพิ่มความสามารถของเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้จัดทำ Infographic ไว้เพื่อเป็นแนวทางในการเพิ่มความสามารถของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ...หนังสือ ขออนุญาตเผยแพร่ผลงานวิจัยภายใต้โครงการ AQUADAPT-Mekong

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่: AQUADAPT-Thailand 

Infographic สื่อการเรียนรู้อย่างง่าย :
   "พืชน้ำและสาหร่าย อาหารธรรมชาติสำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม"


         #แนวทางการลดต้นทุน(ด้านอาหาร)การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
         #เป็นที่หลบซ้อนจากนก
         #สร้างร่มเงาในระหว่างวันให้สัตว์น้ำ (ด้วยการใช้ไม้ไผ่เป็นสี่เหลี่ยม หรือวัสดุเหลือใช้ดัดแปลง ทำเป็นกรอบครอบพืชน้ำไม่ให้กระจายทั่วบ่อ)

           พืชน้ำเป็นแหล่งอาหารจากธรรมชาติที่มีคุณค่าสำหรับสัตว์น้ำ เป็นแหล่งอาหารเสริมที่ดีสำหรับสัตว์น้ำ ช่วยลดต้นทุนอาหารและช่วยในการปรับปรุงคุณภาพน้ำ การสร้างระบบนิเวศในน้ำที่ดีจะก่อให้เกิด "#เพอริไฟตอน (Periphyton)" ที่ประกอบด้วย สาหร่าย แบคทีเรีย โปรโตซัว และอินทรียสาร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติที่ดีสำหรับสัตว์น้ำในธรรมชาติ และ #ช่วยผลิตออกซิเจนผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง ช่วยดูดซับสารอาหารส่วนเกิน และปรับปรุงคุณภาพน้ำในระบบเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ นอกจากนี้เกษตรกรสามารถเพิ่มพืชน้ำและสาหร่าย ที่เป็นอาหารธรรมชาติสำหรับเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้ดังนี้
           #ไข่น้ำหรือผำ (Wolffia spp.) พืชน้ำขนาดเล็กที่สุดในโลก มีโปรตีนประมาณ 30-45% เหมาะสำหรับเป็นอาหารสัตว์น้ำหรือใช้เป็นอาหารสำหรับอนุบาลลูกปลา
           #แหนแดง (Azolla spp.) พืชน้ำที่มีความสามารถในการตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้ดี โปรตีนประมาณ 20-30% เหมาะสำหรับเป็นอาหารปลากินพืช
           #แหนเป็ด (Lemna spp.) พืชน้ำขนาดเล็กที่เจริญเติบโตเร็ว มีโปรตีนสูง เหมาะสำหรับเป็นอาหารปลากินพืช ช่วยดูดซับสารอาหารส่วนเกินในน้ำ
           #จอก (Pistia stratiotes) พืชน้ำ ที่มีใบหนาและอ่อนนุ่ม มีโปรตีนประมาณ 20-25% ปลากินพืชหลายชนิดสามารถกินเป็นอาหารได้
           #ผักตบชวา (Eichhornia crassipes) พืชน้ำที่เติบโตเร็ว สามารถใช้เป็นอาหารสัตว์น้ำได้ แต่ควรควบคุมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายที่มากเกินไป
           #ผักบุ้งน้ำ (Ipomoea aquatica) พืชน้ำที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โปรตีน ประมาณ 25% และมักใช้เป็นอาหารให้กับปลากินพืช
           #สาหร่ายพุงชะโด (Ceratophyllum demersum) สาหร่ายน้ำจืดที่มีโปรตีน ไฟเบอร์ กรดอะมิโนวิตามินต่างๆ ใช้เป็นอาหารสัตว์น้ำได้ดีและช่วยดูดซับสารอาหารส่วนเกินในน้ำ
           #สาหร่ายหางกระรอก (Hydrilla verticillata) สาหร่ายน้ำจืดที่เป็นอาหารเสริมที่ดีต่อสัตว์น้ำ มีไฟเบอร์ แร่ธาตุ วิตามินคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน ช่วยดูดซับสารอหารส่วนเกินในน้ำ
อย่างไรก็ตาม ควรมีการจัดการที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเจริญเติบโตของสาหร่ายและพืชน้ำที่มากเกินไป

 

Infographic สื่อการเรียนรู้อย่างง่าย : 

    "ปัจจัยเสี่ยงที่มีความสัมพันธ์กับการตาย หรือการเกิดโรคที่รุนแรงระหว่างการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ"

ข้อที่ 1 : ความหนาแน่น
       ควรปล่อยปลาในอัตราความหนาแน่นที่เหมาะสมตามชนิดและระบบการเลี้ยง เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลและไม่หนาแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดโรคได้ง่ายและโตช้า ลดความหนาแน่นของการเลี้ยงปลาโดยเฉพาะในช่วงฤดูที่มีความเสี่ยงสูง ปล่อยปลาขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อลดความหนาแน่นและระยะเวลาในการเลี้ยงลง

ข้อที่ 2 : การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม
       สภาพอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทุกวันในแต่ละฤดูกาล ซึ่งจะส่งผลต่อความเป็นอยู่ของสัตว์น้ำทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น อุณหภูมิน้ำสูงในช่วงฤดูร้อนที่ทำให้ปลากินอาหารมากขึ้นหรืออากาศเย็นในช่วงฤดูหนาวที่ทำให้ปลากินอาหารลดลง การเกิดน้ำท่วมหรือน้ำหลาก การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง การขาดออกซิเจนในบ่อเลี้ยงหรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติในช่วงฤดูฝน

ข้อที่ 3 : การจัดการอาหารและการให้อาหาร
       ให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสมตามเกณฑ์อายุของสัตว์น้ำ ควบคุมปริมาณการให้อาหารในช่วงที่สัตว์น้ำป่วยและในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยเฉพาะช่วงอุณหภูมิของน้ำสูงกว่า 32°C หรือต่ำกว่า 25°C การจัดการอาหารช่วยลดของเสียที่เกิดจากอาหารเหลือที่ส่งผลต่อปลาและสภาพแวดล้อมในบ่อได้โดยตรงและเป็นการลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย

ข้อที่ 4 : การเตรียมบ่อ/กระชังที่ถูกวิธี
       #กรณีของกระชัง ควรล้างทำความสะอาดและตากแห้ง 5-7 วัน ก่อนการเลี้ยงในรอบต่อไป
       #กรณีของบ่อดิน สูบน้ำออก และกำจัดวัชพืชรอบคันบ่อ หว่านปูมาร์ล หรือโดโลไมท์ ในอัตรา 120-150 กก./ไร่ ทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ คลาด ไถหรือพรวน เพื่อกลับหน้าดินให้สัมผัสกับอากาศ และหว่านปูนซ้ำในอัตราเดิมทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์ เพื่อเร่งการย่อยสลายของเสียของจุลชีพที่ใช้ออกซิเจน เติมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเคมี หว่านให้ทั่วแล้วสูบน้ำเข้าบ่อ 1/3 ของระดับน้ำที่ใช้เลี้ยง ปล่อยทิ้งไว้ 7-14 วัน เพื่อสร้างอาหารธรรมชาติ

ข้อที่ 5 : การจัดการคุณภาพน้ำ และสุขภาพของปลาระหว่างเลี้ยง
       #กรณีของกระชังหรือบ่อดิน ติดตั้งเครื่องให้อากาศ เพื่อรักษาระดับ DO ให้สูงกว่าระดับ 3 มก./สิตร โดยเฉพาะช่วงฝนตกหรือฟ้าครึ้มติดต่อกัน ก่อนเข้าสู่หรือระหว่าง "ช่วงวิกฤต" ควรแขวนเกลือแกง เพื่อรักษาสมดุลน้ำและเกลือแร่ และป้องกันการเกิดความเครียดในตัวปลา บ่อดินในอัตรา 120-160 กก./ไร่ (เน้นพื้นที่ ปลาขึ้นกินอาหาร) หรือในกระชังในอัตรา 1-5 กก./กระชัง
       #กรณีของบ่อดิน ช่วงที่ฝนตกบ่อยครั้ง ถ้าสีน้ำเข้มให้ใช้ปูมาร์ล หรือถ้าสีน้ำอ่อนให้ใช้โดโลไมท์ในอัตรา 30-50 กก. ผสมน้ำไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วนำไปสาดทั่วบ่อ เพื่อรักษาระดับความเป็นกรด-ด่าน เพื่อป้องกันการตายของแพลงก์ตอนพืชสาเหตุของการขาดออกซิเจนในน้ำ

 

Infographic ไว้เพื่อเป็นแนวทางในการเพิ่มความสามารถของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
  1. วิธีการลดความเสียงโดยการตัดสินใจในการปล่อยลูกพันธุ์ปลา 


  2. ปริมาณออกซิเจนรอบวันในบ่อเลี้ยงปลา


  3. การแยกชั้นน้ำถาวรในช่วงฤดูร้อน


  4. กระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ่อเลี้ยงปลาช่วงฤดูฝน


  5. ขั้นตอนการเตรียมบ่อ


  6. ก๊าซออกซิเจนที่ละลายในน้ำ


  7. การตรวจวัดและรายงานผลคุณภาพน้ำตลอด 24 ชั่วโมง Realtime ผ่านระบบ Internet of Things (IoT)


  8. ปัจจัยเลี่ยงที่มีความสัมพันธ์กับการตายหรือการเกิดโรคที่รุนแรงระหว่างการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ


  9. ประเภทของบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ


  10. ระบบหมุนเวียนน้ำอย่างง่าย


คุยกับน้องมัจฉา Add Friends คุยกับน้องมัจฉา