ข่าวกรมประมง

เข้ารับ รางวัล Clark R. Bavin Wildlife Law Enforcement Award ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดด้านการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า ยกย่องผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าในการต่อต้านอาชญากรรมสัตว์ป่า เมื่อวันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2568 ณ เมืองซามาร์คันด์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน นายประเทศ ซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง ได้รับมอบหมายจาก นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย พร้อมด้วย นางสาวรัตนาวลี พูลสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยา และนางวิกานดา พ่วงเจริญ หัวหน้ากลุ่มคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำตามอนุสัญญา กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ เข้าร่วมแสดงความยินดีกับนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เนื่องในโอกาสเข้ารับ รางวัล Clark R. Bavin Wildlife Law Enforcement Award ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดด้านการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า ยกย่องผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าในการต่อต้านอาชญากรรมสัตว์ป่า และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการต่อต้านอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม การคุ้มครองสัตว์ป่าหายาก และการร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติคงอยู่อย่างยั่งยืน #กรมประมง

 8 อ่าน : 1 สัปดาห์

เมื่อวันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2568 ณ เมืองซามาร์คันด์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน

นายประเทศ ซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง ได้รับมอบหมายจาก นางฐิติพร ห.. 

ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสระแก้ว วันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 15.30 น. ณ สำนักงานประมงจังหวัดสระแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว และศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 4 (สระแก้ว) อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสระแก้ว โดยได้ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายด้านการประมงจังหวัดสระแก้ว (FC) ณ สำนักงานประมงจังหวัดสระแก้ว และศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 4 (สระแก้ว) อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานการขับเคลื่อนด้านการประมงในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยเฉพาะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และปัญหาการนำเข้า-ส่งออกสินค้าประมง ทั้งนี้ การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเร่งขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมประมง ที่มุ่งเน้นการสร้างรากฐานการผลิตที่มั่นคง ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนของแต่ละในจังหวัด ซึ่งจังหวัดสระแก้ว ถือเป็นอีกจังหวัดหนึ่งของประเทศที่มีศักยภาพด้านการนำเข้าส่งออกสินค้าประมง และควรได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป ในโอกาสนี้ รองอธิบดี ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่กรมประมงทุกหน่วยให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง พร้อมสร้างโอกาสทางด้านการประมงในพื้นที่ โดยการพัฒนาความสามารถ เพิ่มศักยภาพ เสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน เพื่อสร้างเศรษฐกิจภาคการประมงให้เข้มแข็ง เป็นธรรม ก้าวทันมาตรฐานโลกยุคใหม่ และรักษาธุรกิจภาคการประมงให้คงอยู่ต่อไป โดยมีนายวิชัย ทองประไพ ประมงจังหวัดสระแก้ว นายพงษ์ศิริ ประสพสุข ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 4 (สระแก้ว) นายนคร ประยงค์ขำ หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา (ปราจีนบุรี) และประมงอำเภอทุกอำเภอ เจ้าหน้าที่หน่วยงานกรมประมงจังหวัดสระแก้ว เข้าร่วมประชุม #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 8 อ่าน : 1 สัปดาห์

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 15.30 น. ณ สำนักงานประมงจังหวัดสระแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว และศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 4 (สระแก้ว) .. 

เข้าร่วมประชุมเพื่อให้ความเห็นในการดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ ปี 2568 วันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ห้อง 123) นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นายโยธิน เทอดวงศ์วรกุล ผู้อำนวยการกองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ พร้อมด้วยนางวีระพร สุขสมจิตร หัวหน้ากลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรและชาวประมง และนายสกุลศักดิ์ เสริมศรี นักวิชาการชำนาญการ กองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ เข้าร่วมประชุมเพื่อให้ความเห็นในการดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ ปี 2568 ครัวเรือนละ 3,000 บาท โดยมีนายกฤษ อุตตมเวทิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณามาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ ปี 2568 ครัวเรือนละ 3,000 บาท ประกอบด้วย 1. คุณสมบัติเกษตรกร 2. อัตราการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ ปี 2568 3. กรอบวงเงินการช่วยเหลือเยียวยา 4. ระยะเวลาดำเนินการ 5. การบริหารจัดการ โดยมีผู้แทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง เข้าร่วมประชุมและร่วมให้ความเห็นในการกำหนดมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ ปี 2568 #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 9 อ่าน : 1 สัปดาห์

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ห้อง 123)

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นา.. 

อธิบดีกรมประมง..นำทีมข้าราชการเจ้าหน้าที่ ร่วมกิจกรรมโรงครัวเคลื่อนที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ. หาดใหญ่ ต่อเนื่อง วันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2568 นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายเจริญ โอมณี ประมงจังหวัดสงขลา นายธีระชัย ทิพย์ดวง ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 9 (สตูล) และเจ้าหน้าที่กรมประมงจากจังหวัดสงขลา สตูล และปัตตานี ร่วมภารกิจจัดเตรียมอาหารเพื่อส่งมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ ร่วมกับคณะของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศนภ.) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.ณมาณิตา กลับบ้านเกาะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้ช่วยกันลำเลียงอาหารออกแจกจ่ายบริเวณหน้าโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา พร้อมส่งมอบกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ให้เข้มแข็งและผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปโดยเร็วที่สุด #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ #กรมประมง

 12 อ่าน : 1 สัปดาห์

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2568 นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายเจริญ โอมณี ประมงจังหวัดสงขลา นายธีระชัย ทิพย์ดวง ผู้อำนวยการศูนย์บริ.. 

กรมประมงชี้แจงเหตุเต่าในศูนย์ฯ สตูลตายจากอุทกภัย พร้อมเดินหน้ามาตรการฟื้นฟู 3 ระยะ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่แจ้งเหตุพบเต่าคืนศูนย์ฯ กรมประมงชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวว่าเหตุอุทกภัยในจังหวัดสตูล ทำให้เต่าที่อยู่ในความดูแลของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสตูล ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ประมาณ 5,000 ตัว ตายไปกว่าครึ่งนั้น ว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากที่เกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสตูล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 – 28 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งนางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง ได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ติดตามเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดสตูล ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมยานพาหนะเข้าช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย และภายหลังการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ คณะจึงได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของหน่วยงานในสังกัดกรมประมง ซึ่งเหตุอุทกภัยครั้งนี้ ได้ส่งผลให้หน่วยงานในสังกัด ได้แก่ 1. ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสตูล ได้รับความเสียหายในบริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่ 2. ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 9 (สตูล) ได้รับความเสียหายในส่วนของรั้วสำนักงาน และ 3. ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสตูล ได้รับความเสียหายมากที่สุด โดยเฉพาะบริเวณอาคารพัสดุ บ้านพักเจ้าหน้าที่ โรงเพาะฟัก ห้องปฏิบัติการ และบ่อเต่ากระอาน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสตูล ได้ดำเนินการตามแผนเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย ทั้งการอพยพสัตว์น้ำขึ้นที่สูง การป้องกันสัตว์น้ำหลุดรอด การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ และการนำยานพาหนะไปจอดในพื้นที่ปลอดภัย แต่จากระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 2.2 เมตร สูงสุดในรอบ 50 ปี ส่งผลให้บ่อปูนเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้รับความเสียหาย และเมื่อระดับน้ำสูงเกินกว่าตระแกรงกั้น ทำให้เต่าถูกกระแสน้ำพัดออกจากบ่อ และบางส่วนถูกกระแสน้ำเชี่ยวพัดติดกับตะแกรงไม่สามารถขึ้นมาหายใจและตายลงในที่สุด โดยในส่วนของข้อมูลจำนวนเต่าที่ได้รับผลกระทบ ตรวจสอบเบื้องต้น ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 พบว่า ก่อนน้ำท่วม : จำนวนเต่ามีชีวิตทั้งหมด 1,789 ตัว ซากเต่า 189 ซาก และหลังน้ำท่วม : เมื่อระดับน้ำลดลง ได้มีการตรวจนับ พบ เต่ามีชีวิต 271 ตัว ซากเต่าที่ตาย 23 ซาก อย่างไรก็ตาม ยังมีพื้นที่บ่อบางส่วนที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ หากเมื่อระดับน้ำลดลงแล้ว จะมีการสำรวจจำนวนที่แน่ชัดเพื่อสรุปจำนวนเต่าที่หายไปอีกครั้ง เบื้องต้นทางศูนย์ฯ ได้วางแนวทางการฟื้นฟูพันธุ์เต่าไว้ 3 ระยะ ดังนี้ 1) มาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด เร่งสำรวจความเสียหายและสำรวจตรวจนับจำนวนเต่าที่รอดชีวิตอย่างละเอียดอีกทั้งติดตามรวบรวมเต่าที่หลุดลอดออกจากบ่อ โดยประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนช่วยแจ้งเมื่อพบเต่าหลงทาง พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจรอบชุมชนริมคลองละงูอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี (หากพบเห็นหรือจับเต่าได้สามารถประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ มารับหรือนำเต่าที่จับได้มาส่งมอบที่ศูนย์ฯ เนื่องจากเต่าเป็นสัตว์คุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562) 2) มาตรการฟื้นฟูและการจัดการพ่อแม่พันธุ์ โดยจะทำการรวบรวมพ่อแม่พันธุ์เต่าที่รอดชีวิตจากทั้งจากในบ่อเพาะเลี้ยงเดิม (เต่าของศูนย์ฯ ที่เป็นพ่อแม่พันธุ์จะฝังไมโครชิป ที่ขาด้านซ้ายตรวจสอบได้) และที่พบในธรรมชาติกลับคืนสู่ศูนย์ฯ เพื่อนำมาเพาะขยายพันธุ์ เนื่องจากเต่าสามารถสืบพันธุ์วางไข่ได้เพียงปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือนกันยายน - ธันวาคม และจะวางไข่ช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ของปีถัดไป ซึ่งแม่เต่าจะให้ไข่ครั้งละประมาณ 6 – 31 ฟอง จึงคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ปี กว่าประชากรเต่าจะกลับคืนเท่าเดิมก่อนเกิดอุทกภัย 3) การเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในอนาคต จะมีการจัดทำบ่อสำรอง (Backup Pond) ในพื้นที่บ่อดิน เพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายในภาวะฉุกเฉิน และประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในสภาวะวิกฤต รองอธิบดีฯ กล่าวในตอนท้ายว่า กรมประมงจะเดินหน้าฟื้นฟูประชากรเต่าอย่างเต็มกำลัง ทั้งการสำรวจความเสียหาย การรวบรวมเต่าที่หลุดลอดออกจากพื้นที่ การฟื้นฟูพ่อแม่พันธุ์ และการเพาะขยายประชากรทดแทน พร้อมยกระดับระบบป้องกันน้ำท่วมและแผนรองรับในอนาคต เพื่อปกป้องทรัพยากรเต่าของจังหวัดสตูลให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน และขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ พร้อมยืนยันว่ากรมประมงจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ  

 10 อ่าน : 1 สัปดาห์

กรมประมงชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวว่าเหตุอุทกภัยในจังหวัดสตูล ทำให้เต่าที่อยู่ในความดูแลของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสตูล ซึ่งตั้งอยู่หมู.. 

ณ เมืองซามาร์คันด์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน เมื่อวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ณ เมืองซามาร์คันด์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน นายประเทศ ซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง ได้รับมอบหมายจาก นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย พร้อมด้วย นางสาวรัตนาวลี พูลสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยา และนางวิกานดา พ่วงเจริญ หัวหน้ากลุ่มคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำตามอนุสัญญา กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ เข้าร่วมกิจกรรมคู่ขนาน (Side Event) ซึ่งจัดขึ้นโดย IUCN Species Survival Commission ภายใต้การประชุมภาคีอนุสัญญา CITES ครั้งที่ 20 (CITES CoP20) สำหรับประเทศไทยได้นำเสนอความก้าวหน้าการดำเนินมาตรการควบคุมการเพาะเลี้ยงม้าน้ำเพื่อการส่งออก รวมถึงการประเมินผลและติดตามประชากรม้าน้ำในธรรมชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยา ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำรายงานการวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการใกล้สูญพันธุ์ของม้าน้ำ (Hippocampus spp.) สำหรับการอนุญาตการส่งออกที่ไม่กระทบต่อการใกล้สูญพันธุ์ในธรรมชาติ (Non-Detriment Findings: NDFs) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าว่าม้าน้ำที่ส่งออกมาจากการเพาะเลี้ยงไม่ได้มาจากการจับจากธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังได้หารือร่วมกับ Dr. Sarah Foster ผู้เชี่ยวชาญม้าน้ำของ IUCN เพื่อขอคำแนะนำในการดำเนินการทั้งด้านการเพาะเลี้ยงม้าน้ำและการจัดทำรายงาน NDFs ของประเทศไทย อีกด้วย #กรมประมง

 7 อ่าน : 1 สัปดาห์

เมื่อวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ณ เมืองซามาร์คันด์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน

นายประเทศ ซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง ได้รับมอบหมายจาก นางฐิติพร.. 

รองอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่สำรวจติดตามความเสียหายของหน่วยงานกรมประมงในพื้นที่จ.ตรัง เพื่อวางแนวทางฟื้นฟูและยกระดับความพร้อมในการให้บริการประชาชนอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2568 นางฐิติพร หลาวประเสริฐ มอบหมายให้ นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่ตรวจติดตามความเสียหายของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดตรัง หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำตรังเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่และระบบสูบน้ำ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถกลับเข้าอยู่อาศัยได้ตามปกติ นอกจากนี้ ยังพบการรั่วซึมตลอดแนวพนังกั้นน้ำของบ่อพักน้ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบการเพาะเลี้ยงในระยะยาว โดยเบื้องต้นได้ประสานสำนักงานชลประทานที่ 16 เพื่อเร่งดำเนินการซ่อมแซมและฟื้นฟูให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ พร้อมสั่งการให้เร่งจัดทำบัญชีรายการครุภัณฑ์และทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเสนอของบประมาณจากส่วนกลางในการฟื้นฟูหน่วยงานให้กลับมามีความพร้อมในการให้บริการประชาชนโดยเร็วที่สุด การลงพื้นที่ครั้งนี้ นอกจากการตรวจสอบความเสียหายของทรัพย์สินทางราชการ เพื่อฟื้นฟูให้กลับมาพร้อมสำหรับการบริการประชาชนแล้ว ยังมีเป้าหมายเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดตรัง ให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ #กรมประมง

 12 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2568 นางฐิติพร หลาวประเสริฐ มอบหมายให้ นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่ตรวจติดตามความเสียหายของศูนย์วิจัยแ.. 

อธิบดีกรมประมง..นำทีมข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมประมง ร่วมกิจกรรมเปิดโรงครัวของมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อจัดเตรียมอาหารและนำไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่หาดใหญ่ วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2568 นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายเจริญ โอมณี ประมงจังหวัดสงขลา นายธีระชัย ทิพย์ดวง ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 9 (สตูล) และเจ้าหน้าที่กรมประมงจากจังหวัดสงขลา สตูล และปัตตานี ร่วมภารกิจเปิดโรงครัวของมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ?เพื่อช่วยดูแลผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ โดยได้ตั้งจุดบริการตัดเตรียมอาหารที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมซิกเนเจอร์ และลำเลียไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย นอกจากนี้ ยังได้มอบกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถก้าวผ่านสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ #กรมประมง  

 11 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2568 นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายเจริญ โอมณี ประมงจังหวัดสงขลา นายธีระชัย ทิพย์ดวง ผู้อำนวยการศูนย์บริ.. 

ร่วมประชุมเพื่อรับมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2568 เวลา 09.30–13.00 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง ร่วมประชุมเพื่อรับมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 จากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้กำหนดกรอบทิศทางในการจัดทำงบประมาณของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐให้มีความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการพัฒนาประเทศ ตลอดจนการรักษาวินัยการเงินการคลัง และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการคลัง ให้สามารถรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจ และตอบสนองความท้าทายต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยให้ความสำคัญกับการลดขนาดการขาดดุลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ ด้วยการควบคุมการใช้จ่ายภาครัฐให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า โปร่งใส ตอบสนองความต้องการของประชาชน และสอดคล้องกับประมาณการรายได้ของรัฐบาลต่อไป #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 10 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2568 เวลา 09.30–13.00 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี.. 

เข้าร่วมการประชุมภาคีอนุสัญญา CITES ครั้งที่ 20 (CITES CoP20) เมื่อวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ณ เมืองซามาร์คันด์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้ นายประเทศ ซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วย นางสาวรัตนาวลี พูลสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยา และนางวิกานดา พ่วงเจริญ หัวหน้ากลุ่มคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำตามอนุสัญญา กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ เข้าร่วมการประชุมภาคีอนุสัญญา CITES ครั้งที่ 20 (CITES CoP20) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2568 โดยมีภาคีสมาชิกจาก 185 ประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ (IGOs) และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) เข้าร่วมการประชุม สำหรับการประชุม CITES CoP20 เป็นการประชุมสามัญที่จัดขึ้นเป็นประจำทุก ๆ 3 ปี เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามอนุสัญญา การพิจารณามาตรการด้านการอนุรักษ์ รวมถึงการพิจารณาข้อเสนอการบรรจุหรือปรับปรุงบัญชีรายชื่อชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่า (Proposals) และกฎระเบียบในการดำเนินงานให้เป็นไปตามอนุสัญญา CITES (Working Documents) ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ มีวาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสัตว์น้ำของประเทศไทย ทั้งแนวทางการจัดทำรายงาน NDFs สำหรับชนิดพันธุ์ในบัญชีภาคผนวก II ที่จับจากน่านน้ำสากล (areas beyond national jurisdiction – ABNJ) แนวทางความชัดเจนของการค้าหินปะการัง และการรายงาน นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอ (Proposal) การขึ้นบัญชีสัตว์น้ำ เช่น ฉลามวาฬ กระเบนแมนต้า ปลิงทะเล ปลาไหลน้ำจืด จากการพิจารณาข้อเสนอปลาไหลน้ำจืดทุกชนิด (Anguilla spp.) ของสหภาพยุโรปและสาธารณรัฐปานามา โดยกรมประมงได้พิจารณาไม่สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว ที่ให้ปลาไหลน้ำจืดทุกชนิดขึ้นท้ายบัญชี 2 ของอนุสัญญา CITES ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของประเทศญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศ ส่งผลให้ข้อเสนอนี้ไม่ผ่านการพิจารณา ทำให้ปลาไหลน้ำจืดทุกชนิด นอกจากปลาไหลยุโรป ไม่อยู่ในท้ายบัญชีอนุสัญญา CITES โดยทางสหภาพยุโรปมีแนวโน้มที่จะขอเปิดการพิจารณาข้อเสนอนี้อีกครั้งในช่วงท้ายของการประชุม #กรมประมง  

 10 อ่าน : 2 สัปดาห์

เมื่อวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ณ เมืองซามาร์คันด์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้ นายประเทศ ซอร..