ข่าวกรมประมง

ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่จังหวัดพะเยา วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568 เวลา 16.00 น. ณ ตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง ร่วมติดตาม ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในโอกาสลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่จังหวัดพะเยา เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านชลประทานให้มีประสิทธิภาพ รองรับการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ และสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพระยะยาว ดังนี้ จุดที่ 1 ได้แก่ โครงการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำช่องลำห้วยแม่ต๋ำ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ซึ่งดำเนินการโดยกรมชลประทาน จัดสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและบริหารจัดการน้ำ จากลำห้วยแม่ต๋ำลงสู่กว๊านพะเยา ลดความเสี่ยงจากปัญหาน้ำท่วมในเขตชุมชน และฟื้นฟูระบบนิเวศทางน้ำในพื้นที่ จุดที่ 2 โครงการพัฒนากว๊านพะเยา ระยะที่ 4 ต่อเนื่องจากแผนการพัฒนากว๊านพะเยาในระยะที่ 1–3 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศแหล่งน้ำ เพิ่มความสามารถในการกักเก็บและระบายน้ำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันผลกระทบจากน้ำหลากและการตื้นเขินของพื้นที่รับน้ำ โดยจะสามารถเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำได้กว่า 874,000 ลูกบาศก์เมตร และปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายน้ำจากกว๊านพะเยาเข้าสู่พื้นที่รับน้ำตอนล่างได้อย่างมีระบบ ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กล่าวชื่นชม การบูรณาการความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานในสังกัด ที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้การพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดพะเยาเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านการเกษตร การประมง การท่องเที่ยว และการรักษาสมดุลระบบนิเวศอย่างยั่งยืน #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ #กรมประมง  

 15 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568 เวลา 16.00 น. ณ ตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาราชการแ.. 

การลงพื้นที่รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้ได้รับผลกระทบจากการรื้อถอนโพงพางในเขตร่องน้ำทะเลสาบสงขลา วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ โรงเรียนบ้านหัวเขา หมู่ที่ 6 ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นายอำนวย คงพรหม ผู้ตรวจราชการกรม เขต 5 พร้อมด้วยนายเจริญ โอมณี ประมงจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับ นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายนัจมุดดีน อูมา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะฯ ในการลงพื้นที่รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้ได้รับผลกระทบจากการรื้อถอนโพงพางในเขตร่องน้ำทะเลสาบสงขลา การลงพื้นที่ดังกล่าว มี นายเอกสิทธิ์ สองเมือง นายอำเภอสิงหนคร นางปิยรัตน์ ลัภกิตโร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสงขลา และ พ.ต.อ.ชาตรี รัตนคช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสิงหนคร ร่วมให้การต้อนรับและรับฟังปัญหาพร้อมกับพี่น้องชาวประมงในพื้นที่กว่า 200 คน ทั้งนี้ ได้มีการสรุปข้อเรียกร้องจากตัวแทนชาวประมง เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อน ประกอบด้วย 1. ขอให้อนุญาตให้ชาวประมงสามารถประกอบอาชีพโพงพางต่อไปได้ จนกว่าจะมีมาตรการเยียวยาที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม 2. ขอให้จัดวางแนวทุ่นเขตร่องน้ำให้มีความเหมาะสมกับเส้นทางเดินเรือ ไม่กีดขวางการประกอบอาชีพของชาวประมง 3. ขอให้ผู้ที่ต้องเลิกอาชีพโพงพางในเขตร่องน้ำได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสม 4. ขอให้ผลักดันให้เครื่องมือโพงพางนอกเขตร่องน้ำได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องมือถูกกฎหมาย เพื่อลดความขัดแย้งในพื้นที่ 5. ขอให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างหน่วยงานรัฐและชาวประมง เพื่อบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกัน 6. ขอให้ผลักดันให้มีการกำหนดเขตพื้นที่ประมงพิเศษทะเลสาบสงขลาตอนล่าง เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างสมดุลและรองรับการพัฒนาในอนาคต 7. ขอให้ผลักดันให้มีการส่งเสริมอาชีพทางเลือกให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ดังต่อไปนี้ - จัดหาที่ดินของรัฐที่หมดสัมปทานให้เช่า จากกลุ่มทุนหรือที่ดินที่ว่างเปล่า เพื่อใช้ประกอบ อาชีพทดแทนต่อไป - ส่งเสริมให้มีการเลี้ยงปลากระพงขาวใน กระชังซึ่งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลา - ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำเชิงสันทนาการ - จัดทำแนวเขตอนุรักษ์ เพื่อคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศ - ส่งเสริมให้มีตลาดน้ำชุมชน เพื่อเป็นแหล่ง จำหน่ายผลผลิตในชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ระดับรากหญ้า ซึ่งเป็นพื้นฐานของชาติ - สนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวขัอง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของคนลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา โดยภายหลังการประชุมหารือ ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบได้ยื่นหนังสือข้อเสนอถึงที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ในโอกาสนี้ กรมประมงได้มอบ ถุงยังชีพจำนวน 150 ชุด ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ซึ่งสะท้อนถึงความห่วงใยและความมุ่งมั่นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกรมประมง ที่พร้อมยืนเคียงข้างพี่น้องชาวประมงและเดินหน้าขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนต่อไป #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ #กรมประมง  

 18 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ โรงเรียนบ้านหัวเขา หมู่ที่ 6 ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รอง.. 

ลงพื้นที่ร่วมติดตาม นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่ร่วมติดตาม นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในโอกาสตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัด โดยได้ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่งและการดำเนินโครงการปรับผิวดิน ของกรมพัฒนาที่ดิน ในพื้นที่ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมพบปะเกษตรกร และรับฟังปัญหาการประกอบอาชีพของเกษตรกรในพื้นที่ โดยโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายและแนวทางการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาดินถล่มในระยะยาว #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ #กรมประมง  

 16 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาราชการแทนอ.. 

ลงพื้นที่ร่วมติดตาม นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาการแทนอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่ร่วมติดตาม นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในโอกาสตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัด และพบปะพี่น้องเกษตรกรและประชาชน ซึ่งได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาและฟื้นฟูภาคเกษตรในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมได้มอบถุงยังชีพ รวมถึงปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรให้แก่พี่น้องเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยังลานกางเต็นท์บ้านปางเกี๊ยะ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามการปฎิบัติงานโครงการบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัย ทั้งระยะสั้น และระยะกลาง โดยโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายและแนวทางในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ให้แก่หน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อดูแลบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกรและประชาชน #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ #กรมประมง  

 14 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาการแทนอ.. 

เข้าร่วมประชุมคณะทำงานศึกษาแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการในภาพรวมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่1/2568 วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประเทศซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนางสาวณัฐพร สนธิ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เข้าร่วมประชุมคณะทำงานศึกษาแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการในภาพรวมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่1/2568 โดยมีนายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ ประชุมได้แสดงความคิดเห็นเพื่อออกแบบโครงสร้างที่เหมาะสมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรได้อย่างเหมาะสม #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 15 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายประเทศซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนางสาวณัฐพ.. 

กรมประมง จับมือ STF ขับเคลื่อนความปลอดภัยทางทะเล ผ่านการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับลูกเรือประมง ยกระดับแรงงานภาคประมงไทยสู่มาตรฐานสากล วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การกู้ชีพ การช่วยเหลือคนจมน้ำ และการดับเพลิงเบื้องต้นสำหรับลูกเรือประมง” โดยมีนายวิรัตน สนิทมัจโร ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีลูกเรือประมงจากจังหวัดสมุทรสงคราม รวมถึงชาวประมงในพื้นที่ใกล้เคียง เข้าร่วมอบรมกว่า 80 ราย ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อยกระดับมาตรฐานแรงงานภาคประมงไทยให้มีความรู้ ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า... ตามที่ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย สุขอนามัย และการคุ้มครองสวัสดิภาพของคนทำการประมงมาอย่างต่อเนื่อง ตามกฎกระทรวง ในเรื่องระบบความปลอดภัยประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตทำการประมงต้องจัดให้มีคนประจำเรืออย่างน้อยหนึ่งคนผ่านการอบรมหลักสูตรการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากภาครัฐ เพื่อให้การออกทำประมงเป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งภาคการประมงไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศ เป็นแหล่งสร้างรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (GDP) ในการส่งออก และการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญและเป็นแหล่งอาหารโปรตีนหลักสำหรับการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของภาคการประมงที่เชื่อมโยงทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคงทางอาหารของชาติ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมประมงจึงได้จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้นสำหรับผู้ควบคุมเรือและแรงงานประมงขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ลูกเรือประมง ให้มีความรู้ความเข้าใจในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุระหว่างปฏิบัติงานในทะเล เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกปฏิบัติงานในเรือประมงให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เช่น การช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุตกน้ำ การปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ และการดับเพลิงเบื้องต้น เพื่อให้ลูกเรือประมงสามารถนำทักษะเหล่านี้ไปใช้ได้จริงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทั้งในเรื่องของการประเมินอาการผู้บาดเจ็บและการให้การช่วยเหลืออย่างถูกต้องปลอดภัย อันจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุ โครงการนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานแรงงานประมงให้สอดคล้องกับกฎหมายและข้อกำหนดสากล เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อภาคประมงไทยด้านการดูแลแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวในเวทีโลก ที่ผ่านมา กรมประมง โดยกองตรวจสอบเรือประมง สินค้าสัตว์น้ำ และปัจจัยการผลิต ร่วมกับ SEAFOOD TASK FORCE (STF) ได้ดำเนินกิจกรรมและยังได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน อาทิ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ตำรวจน้ำ และสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ร่วมกันขับเคลื่อนการยกระดับมาตรฐานแรงงานภาคประมงไทยให้มีคุณภาพ โดยมีผู้ควบคุมเรือและลูกเรือประมงเข้ารับการฝึกอบรมรวมทั้งสิ้น 487 ราย แบ่งเป็น 7 รุ่น ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 62 ราย จังหวัดชลบุรี จำนวน 63 ราย จังหวัดชุมพร จำนวน 75 ราย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 72 ราย จังหวัดภูเก็ต จำนวน 65 ราย จังหวัดสตูล จำนวน 70 ราย และจังหวัดสมุทรสงคราม (รุ่นสุดท้าย) จำนวน 80 ราย ทั้งนี้ การจัดอบรมดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมอบรม ซึ่งต่างเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการเรียนรู้ทักษะด้านความปลอดภัยและการช่วยชีวิตเบื้องต้นในเรือประมง การดำเนินโครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรมประมงในการพัฒนาและให้ความสำคัญต่อสวัสดิการ สวัสดิภาพ และความปลอดภัยในการทำงานของแรงงานทุกคนที่ทำงานในเรือประมง โดยกรมประมงมีเป้าหมายที่จะสานต่อโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป เพื่อขยายโอกาสให้แรงงานประมงทั่วประเทศได้รับการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ยกระดับมาตรฐานแรงงานไทยในภาคการประมงให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างความมั่นใจให้กับแรงงานที่ทำงานในเรือประมง ผู้ประกอบอาชีพประมง และชุมชนชายฝั่งในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนส่งเสริมการทำประมงให้เติบโตอย่างยั่งยืน...รองอธิบดีกรมประมง กล่าวทิ้งท้าย

 21 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การกู.. 

การประชุมคณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมง ครั้งที่ 27/2568 วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมตะพัดทอง ชั้น 2 อาคารกองประมงต่างประเทศ กรมประมง และระบบประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meetings นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมง ครั้งที่ 27/2568 ซึ่งมีวาระการประชุมที่สำคัญ ดังนี้ 1. ติดตามความก้าวหน้าการเบิกจ่ายเงินเยียวยาเรือประมง งวดที่ 1 , งวดที่ 2 ตามที่คณะทำงานฯ ได้มีมติเห็นชอบสัญญาฯ จากการประชุม ครั้งที่ 1-26 2. พิจารณาให้ความเห็นชอบสัญญาเงินเยียวยากรณีเรือประมงที่เข้าร่วมโครงการฯ งวดที่ 1 ครั้งที่ 26 เพื่อขออนุมัติเบิกจ่ายเงินเยียวยาฯ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินเยียวยาเรือประมงฯ ให้ชาวประมงที่เข้าร่วมโครงการฯ ในเขต 4 จังหวัด รวมจำนวนเรือทั้งสิ้น 5 ลำ (แยกชิ้นส่วนเรือทั้ง 5 ลำ) ดังนี้ 1) จังหวัดตราด จำนวน 1 ลำ 2) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 ลำ 3) จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 2 ลำ 4) จังหวัดระนอง จำนวน 1 ลำ 3. พิจารณาเห็นชอบจ่ายเงินเยียวยา งวดที่ 2 (งวดสุดท้าย) ครั้งที่ 16 เพื่อขออนุมัติเบิกจ่ายเงินเยียวยาฯ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินเยียวยาเรือประมงฯ ให้ชาวประมงที่เข้าร่วมโครงการฯ และได้ดำเนินการแยกชิ้นส่วนเรือเสร็จสิ้นแล้ว ในเขต 6 จังหวัด รวมจำนวน 19 ลำ ดังนี้ 1) จังหวัดระยอง จำนวน 10 ลำ 2) จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 2 ลำ 3) จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 1 ลำ 4) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 4 ลำ 5) จังหวัดปัตตานี จำนวน 1 ลำ 6) จังหวัดพังงา จำนวน 1 ลำ ทั้งนี้ จะได้เสนอกรมประมงพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 21 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมตะพัดทอง ชั้น 2 อาคารกองประมงต่างประเทศ กรมประมง และระบบประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meetings

การประชุมเตรียมการสำหรับการประชุม The 48th Meeting of the SEAFDEC Program Committee (48PCM) และการประชุม The 28th Meeting of Fisheries Consultative Group of the ASEAN-SEAFDEC Strategic Partnership (28FCG/ASSP) วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมกุลาดำ ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายประเทศ ซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานการประชุมเตรียมการสำหรับการประชุม The 48th Meeting of the SEAFDEC Program Committee (48PCM) และการประชุม The 28th Meeting of Fisheries Consultative Group of the ASEAN-SEAFDEC Strategic Partnership (28FCG/ASSP) พร้อมด้วย ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อเตรียมการเสนอข้อคิดเห็นของกรมประมงต่อการประชุมให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน สำหรับการประชุมดังกล่าว จัดขึ้นโดยศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ SEAFDEC เพื่อให้ประเทศสมาชิกร่วมกันพิจารณาโครงการของ SEAFDEC ที่ดำเนินการในปี พ.ศ. 2568 และแผนกิจกรรมในปี พ.ศ. 2569 พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกร่วมกันทบทวนและพิจารณาโครงการหรือกิจกรรมด้านประมงที่เป็นความร่วมมือภายใต้กลไกการดำเนินงานของ FCG/ASSP รวมถึง หารือเกี่ยวกับนโยบายร่วมหรือประเด็นสำคัญอื่น ๆ ที่เป็นที่สนใจหรืออาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประมงอย่างยั่งยืนในภูมิภาค #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 18 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมกุลาดำ ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง

นายประเทศ ซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธ.. 

กรมประมง..เปิดบ้านต้อนรับ สมาคมการประมงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมเจรจาสร้างเครือข่ายการพัฒนาอุตสาหกรรมประมง และส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ รุกกระชับความสัมพันธ์คู่ค้า ขยายโอกาสตลาดสัตว์น้ำไทยในต่างประเทศ เมื่อวันพุธที่ 15 ตุลาคม 2568 ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานสังกัดกรมประมงที่เกี่ยวข้อง เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และภาคเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ นายหลี่ เซิงลี่ รองนายกสมาคมการประมงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะฯ ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมประมง และการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า หนุนเปิดประตูสู่โอกาสในการขยายตลาดสินค้าประมงไทยในตลาดจีนให้เติบโตยิ่งขึ้น นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนถือเป็นตลาดคู่ค้าที่สำคัญของประเทศไทย โดยมีปริมาณการส่งออกสินค้าประมงไปตลาดจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2567 มีปริมาณการส่งออกมากกว่า 204,787 ตัน คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 20,442 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้ากุ้งขาวและกุ้งกุลาดำ หอยมีชีวิต รวมถึงปลาปรุงแต่งและแปรรูปอีกมากกว่า 100 รายการ และยังมีสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีศักยภาพซึ่งกรมประมงพร้อมจะผลักดันให้มีการขยายตลาดเพิ่มเติมอีกหลายชนิด เช่น เนื้อจระเข้ ปลากะพงขาว และกุ้งก้ามกราม เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มุ่งสนับสนุนการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพและความต้องการบริโภคสูง เพื่อขยายช่องทางการกระจายสินค้าเกษตรจากพี่น้องเกษตรกรไทยสู่ตลาดต่างประเทศ สำหรับการหารือกับ นายหลี่ เซิงลี่ รองนายกสมาคมการประมงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผู้แทนภาคเอกชนและคณะฯ ในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญให้ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ยกระดับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดเพื่อสร้างความร่วมมือภาคประมงให้มากยิ่งขึ้น ผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทั้งด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง การป้องกันและควบคุมโรคสัตว์น้ำ และสร้างความเชื่อมั่นในการผลิตสินค้าประมงของไทยตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงผลิตภัณฑ์ให้คณะผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าสินค้าประมงของไทยมีความปลอดภัย และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางการเพิ่มโอกาสทางการค้าระหว่างกัน โดยลดข้อจำกัดของการค้าผ่านการจัดทำพิธีสารของผลผลิตสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำจากการเพาะเลี้ยงระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน รักษาการอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า กรมประมงพร้อมผลักดันความร่วมมือดังกล่าวให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างโอกาสการพัฒนาภาคประมง เพิ่มช่องทางการค้าสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยยกขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยง ชาวประมง และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมประมงไทย ให้สามารถก้าวสู่เวทีการค้าระดับโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน  

 25 อ่าน : 2 สัปดาห์

เมื่อวันพุธที่ 15 ตุลาคม 2568 ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง.. 

ประมงสมุทรสงครามร่วมเวทีเสวนา “การจัดการแก้ไขปัญหาสัตว์น้ำต่างถิ่น กรณีปลาหมอคางดำแพร่ระบาด” รวมพลังทุกภาคส่วน ช่วยกันหาทางออก ขจัดปลาหมอคางดำระบาดในพื้นที่ วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องสมุทรสามัคคี องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม นายวิรัตน สนิทมัจโร ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม เข้าร่วมเวทีเสวนา “การจัดการแก้ไขปัญหาสัตว์น้ำต่างถิ่น กรณีปลาหมอคางดำแพร่ระบาด” โดยมีนายธิเบต คงนาวัง ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินสมุทรสงคราม นายธนธรณ์ ลิ้มสกุล เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองสมุทรสงคราม นายสุนทร รอดบุญชัย เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ตำบลแพรกหนามแดง อำเภออัมพวา และนางนันทา รอดสะใภ้ ประธานกลุ่มสตรีอาสาพัฒนาบ้านบังปืน ตำบลนางตะเคียน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเวทีเสวนาครั้งนี้ การจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และระดมแนวทางในการแก้ไขปัญหา พร้อมนำข้อเสนอไปสู่การกำหนดมาตรการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมต่อไป ทั้งนี้ การเสวนาดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากสถานีข่าวท็อปนิวส์ในการเผยแพร่ข้อมูลและสะท้อนเสียงของเกษตรกรสู่สาธารณชน โอกาสนี้ กลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม ยังได้ร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำต่างถิ่น และนำเสนอแนวทางการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ร่วมกันในวงกว้าง #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 21 อ่าน : 2 สัปดาห์

วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องสมุทรสามัคคี องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม นายวิรัตน สนิทมัจโร ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม เข้าร่วมเวที..