ข่าวกรมประมง

รมช.อัครา เปิดเกมบรรเทาความเดือดร้อนชาวประมง ! สั่งกรมประมง ลุย “โครงการประมงรวมใจ จ่ายระบบติดตามเรือประมงไทย (VMS) คนละครึ่ง” แจ้งรับสิทธิ์ด่วน 21 เม.ย. – 23 พ.ค. 68  นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมากรมประมงนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาและปรับใช้กับการทำประมงของเกษตรกร ชาวประมงไทย เพื่อเสริมศักยภาพชาวประมงและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศไทย ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะระบบติดตามเรือ (Vessel Monitoring System; VMS) ซึ่งเป็นระบบที่ทั่วโลกและองค์การบริหารจัดการประมงระดับภูมิภาค (RFMOs) ให้การยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการติดตามเรือ หรือการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในทะเล และมีการบังคับใช้อย่างแพร่หลายเพื่อป้องกันยับยั้งและขจัดการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ IUU Fishing โดยระบบสามารถแสดงข้อมูลเส้นทางการเดินเรือ (VMS tracking) สามารถนำไปวิเคราะห์ประกอบกับข้อมูลอื่น ๆ เช่น สัตว์น้ำที่จับได้ในสมุดบันทึกการทำการประมง (Fishing Log Book) ชนิดและปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าได้ อย่างไรก็ตาม การกำหนดให้เจ้าของเรือประมงต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมง และดูแลรักษาระบบดังกล่าว ให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ทำให้เจ้าของเรือประมงต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว และเสียค่าบริการรายเดือน โดยเมื่อพิจารณาเฉพาะเรือประมงพาณิชย์ จำนวน 4,787 ลำ และเรือขนถ่ายสัตว์น้ำในน่านน้ำไทย จำนวน 31 ลำ พบว่าติดตั้งอุปกรณ์ VMS รุ่นที่ 1 จำนวน 4,318 ลำ และติดตั้งอุปกรณ์ VMS รุ่นที่ 2 จำนวน 500 ลำ ค่าบริการรายเดือนอยู่ในช่วง 1,283.3 - 2,889.0 บาท/ลำ/เดือน นอกจากนี้ ชาวประมงยังมีภาระต้นทุนในการทำการประมงที่สำคัญ ได้แก่ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าจ้างผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ ค่าเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำการประมงและการเก็บรักษาสัตว์น้ำ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับในปัจจุบัน ชาวประมงได้ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การขาดแคลนแรงงาน ปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำลดลง ทำให้ชาวประมงได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพเป็นอย่างมาก นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมประมง เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้มีนโยบายสำคัญในการช่วยเหลือเจ้าของเรือประมง ผ่าน “โครงการประมงรวมใจ จ่ายระบบติดตามเรือประมงไทย (VMS) คนละครึ่ง” ซึ่งได้รับมติเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ และได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จากสำนักงบประมาณ สำหรับ “โครงการประมงรวมใจ จ่ายระบบติดตามเรือประมงไทย (VMS) คนละครึ่ง” เป็นการจ่ายเงินอุดหนุนค่าบริการระบบติดตามเรือประมง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของชาวประมงจากมาตรการที่ออกโดยรัฐ โดยสนับสนุนเงินร้อยละ 50 ของค่าบริการระบบติดตามเรือประมงรายเดือน สนับสนุนไม่เกิน 9 เดือน และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เข้าร่วมโครงการโดยตรง มีระยะเวลาดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ มกราคม – กันยายน 2568 และเจ้าของเรือที่ต้องการรับสิทธิสามารถขอขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน – 23 พฤษภาคม 2568 ผ่านทาง Application Fisheries Next โดยดาวน์โหลด Application และสมัครเข้าใช้งาน เลือกเมนู แซทบอร์ด พิมพ์ข้อความเพื่อประสงค์เข้าร่วมโครงการ เช่น “ยืนยันเข้าร่วมโครงการประมงรวมใจ จ่าย VMS คนละครึ่ง” หรือขึ้นทะเบียนด้วยตนเองได้ที่ กองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง กรมประมง หรือ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก หรือ สำนักงานประมงจังหวัดในท้องที่ที่มีอาณาเขตติดทะเล โดยผู้ขอรับสิทธิต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ที่ยังไม่สิ้นอายุหรือถูกเพิกถอน หรือเป็นผู้ได้รับการจดทะเบียนเป็นเรือขนถ่ายสัตว์น้ำที่ยังไม่ถูกเพิกถอน และขอขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการตามระเบียบที่กรมประมงกำหนด ทั้งนี้ กรมประมงจะประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ ณ ศูนย์ PIPO และสำนักงานประมงจังหวัดในวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 หากไม่มีรายชื่อ หรือจำนวนสิทธิไม่ถูกต้อง สามารถยื่นอุทธรณ์สิทธิได้ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2568 (7 วัน) ณ กองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง กรมประมง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2561 3132

 198 อ่าน : 7 เดือน

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมากรมประมงนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาและปรับใช้กับการทำประมงของเกษตรกร ชาวประ.. 

การประชุมหารือในกิจกรรม Kick off ปลาหมอคางดำ เมื่อวันจันทร์ ที่ 21 เมษายน 2568 ณ ห้องประชุมยี่สก ชั้น 2 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานการประชุมหารือในกิจกรรม Kick off ปลาหมอคางดำ โดยมี คณะผู้บริหารกรมประมง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมในการกิจกรรม Kick off ปลาหมอคางดำ ในส่วนของสถานที่การจัดงาน กำหนดการจัดงาน การจัดนิทรรศการภายในงาน ฯลฯ #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 49 อ่าน : 7 เดือน

เมื่อวันจันทร์ ที่ 21 เมษายน 2568 ณ ห้องประชุมยี่สก ชั้น 2 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง

นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานการป.. 

การฝึกอบรมโครงการปรับปรุงระบบการออกใบอนุญาตทำการประมงอิเล็กทรอนิกส์ (e-License) วันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม ปากเปี่ยน ชั้น 5 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง และผ่านระบบ Zoom Cloud Meetings นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการปรับปรุงระบบการออกใบอนุญาตทำการประมงอิเล็กทรอนิกส์ (e-License) เพื่อรองรับการออกใบจดทะเบียนเรือขนถ่ายสัตว์น้ำตามกฎกระทรวงการขอจดทะเบียนและการรับจดทะเบียนเรือขนถ่ายสัตว์น้ำฉบับปรับปรุง ซึ่งจัดโดยกองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง และมีผู้เข้ารับการฝึกอบรม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัด 22 จังหวัดชายทะเล และสำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมจำนวน 79 ราย ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับการปรับปรุงระบบการออกใบอนุญาตทำการประมงอิเล็กทรอนิกส์ (e-License) ที่มีอยู่เดิมเพื่อรองรับการใช้งานตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ระเบียบ ประกาศ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ ที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อให้สามารถใช้งานระบบการออกใบอนุญาตทำการประมงอิเล็กทรอนิกส์ (e-License) สำหรับการจดทะเบียนเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ และการยกสิทธิทำการประมงตามข้อกำหนดของกฎหมายได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับชาวประมงได้รับใบจดทะเบียนเรือขนถ่ายสัตว์น้ำและการยกสิทธิทำการประมงที่ถูกต้อง รวดเร็ว ในการขอรับบริการต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐที่มุ่งส่งเสริมการทำประมงที่ยั่งยืน จัดการปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 50 อ่าน : 7 เดือน

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม ปากเปี่ยน ชั้น 5 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง และผ่านระบบ Zoom Cloud Meetings

นายบัญชา ส.. 

การประชุมหารือการใช้ประโยชน์อาคารสถานที่ราชการของกรมประมงในส่วนกลาง  วันจันทร์ ที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมทูน่า ชั้น 6 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานการประชุมหารือการใช้ประโยชน์อาคารสถานที่ราชการของกรมประมงในส่วนกลาง และพิจารณาแนวทาง มาตราการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นปัจจุบัน ถูกต้องตามระเบียบปฎิบัติของราชการ อีกทั้ง สามารถรองรับเหตุการณ์ภาวะฉุกเฉินและเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป โดยมีนายศุภกิตติ์ ใสกระจ่าง เลขานุการกรม และผู้แทนส่วนราชการต่างๆ รวมถึง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 57 อ่าน : 7 เดือน

วันจันทร์ ที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมทูน่า ชั้น 6 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง

นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานการ.. 

ลงพื้นที่บริเวณคลองธรรมชาติ ตำบลขนาบนาค อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช  วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 เวลา 13:00 น. นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง นายอำนวย คงพรหม นายพัฒนพงศ์ ชูแสง ผู้ตรวจราชการกรมประมง นายกอบศักดิ์ เกตุเหมือน ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายจิตต์กร เรืองกูล ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลสงขลา ลงพื้นที่บริเวณคลองธรรมชาติ ตำบลขนาบนาค อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กรมประมงในการออกจับปลาหมอคางดำจากแหล่งน้ำสาธารณะ ซึ่งเป็นไปตามแผนปฏิบัติการภายใต้มาตรการที่ 1 คือ การเร่งกำจัดปลาหมอคางดำจากแหล่งน้ำ เพื่อลดการแพร่กระจายของจำนวนประชากรปลาหมอคางดำให้ได้มากที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ออกปฏิบัติงานจับปลาหมอคางดำในคลองธรรมชาติ ตั้งเเต่วันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เเละสามารถกำจัดปลาหมอคางดำได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะลดความชุกชุมของปลาหมอคางดำบริเวณดังกล่าวได้ในเร็วๆ นี้ ต่อจากนั้นท่านอธิบดีเเละคณะได้เดินทางไปพบปะกับผู้ประกอบการประมงคราดปลิงที่ได้รับอนุญาตทำการประมงจากกรมประมง พร้อมพูดคุยถึงเเนวทางการจัดการทรัพยากร เเละขั้นตอนการทำประมงคราดปลิง เพื่อศึกษาเเละเก็บข้อมูลการทำประมงเนื่องจากเป็นเครื่องมือประมงประเภทล่าสุดที่มีการอนุญาตให้ทำการประมงราชอาณาจักรไทย เเละปัจจุบันประเทศไทยมีเรือประมงคราดปลิงที่ได้รับอนุญาตให้ทำการประมง เพียง 41 ลำ #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 82 อ่าน : 8 เดือน

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 เวลา 13:00 น. นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง นายอำนวย คงพรหม นายพัฒนพ.. 

ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับพี่น้องชาวประมง เพื่อรับฟังปัญหาของชาวประมง   วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 เวลา 11:00 น. ณ ที่ทำการสมาคมประมงพื้นบ้านในถุ้ง ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง นายอำนวย คงพรหม นายพัฒนพงศ์ ชูแสง ผู้ตรวจราชการกรมประมง นายกำพล ลอยชื่น ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล นายเดชา ปรัชญารัตน์ ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคล นายสิทธิพล เมืองสง ผู้อำนวยการกองตรวจการประมง และนายกอบศักดิ์ เกตุเหมือน ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับพี่น้องชาวประมง เพื่อรับฟังปัญหาของชาวประมง เเละผู้ประกอบการด้านประมงในจังหวัดนครศรีธรรมราชและพื้นที่ใกล้เคียง #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 59 อ่าน : 8 เดือน

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 เวลา 11:00 น. ณ ที่ทำการสมาคมประมงพื้นบ้านในถุ้ง ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช

นายบัญชา สุขแก้.. 

เข้าร่วมและเป็นประธานเปิดกิจกรรม "สร้างบ้านปลาคืนชีวาสู่ทะเล" และเปิดสะพานท่าเทียบเรือชุมชน ณ ที่ทำการสมาคมประมงพื้นบ้านในถุ้ง  วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 เวลา 08:30 น. ณ ที่ทำการสมาคมประมงพื้นบ้านในถุ้ง ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง นายอำนวย คงพรหม นายพัฒนพงศ์ ชูแสง ผู้ตรวจราชการกรมประมง นายกำพล ลอยชื่น ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล นายเดชา ปรัชญารัตน์ ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคล นายสิทธิพล เมืองสง ผู้อำนวยการกองตรวจการประมง และเจ้าหน้าที่ประมงในพื้นที่เข้าร่วมและเป็นประธานเปิดกิจกรรม "สร้างบ้านปลาคืนชีวาสู่ทะเล" และเปิดสะพานท่าเทียบเรือชุมชน ณ ที่ทำการสมาคมประมงพื้นบ้านในถุ้ง จากนั้นอธิบดีกรมประมงและคณะได้ร่วมกับชาวประมงและประชาชนในพื้นที่ปล่อยปูทะเลและสร้างบ้านปลาในพื้นที่หน้าที่ทำการสมาคมฯ สำหรับสะพานท่าเทียบเรือแห่งนี้เป็นสะพานที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนการสร้างจากกรมประมง โดยใช้งบเหลือจ่ายประจำปี 2567 มาดำเนินการสร้างรูปแบบของสะพานเป็นสะพานไม้ที่ยื่นออกไปสู่ทะเล เพื่อใช้เป็นจุดเทียบเรือประมงพื้นบ้านสำหรับนำสัตว์น้ำขึ้นท่าและเป็นที่จอดเรือประมงพื้นบ้านที่ทำการประมงในบริเวณตำบลท่าศาลา และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งการมีสะพานจะช่วยให้การเข้าออกของเรือประมงสามารถทำได้ง่ายขึ้นและเป็นการลดค่าใช้จ่ายประหยัดน้ำมันในการนำเรือออกในช่วงภาวะน้ำลด และยังเป็นการอำนวยความสะดวกในการขนถ่ายสัตว์น้ำที่จับได้เพื่อให้ได้สินค้าสัตว์น้ำที่ยังคงความสดและช่วยลดระยะเวลาการขึ้นเทียบสัตว์น้ำ #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 52 อ่าน : 8 เดือน

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 เวลา 08:30 น. ณ ที่ทำการสมาคมประมงพื้นบ้านในถุ้ง ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช

นายบัญชา สุขแก้.. 

ประชุมหารือเพื่อรับทราบแนวทางการฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารทะเลของสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกาศโดยประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา   เมื่อวันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมยี่สก ชั้น 2 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง ผู้อำนวยการกอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือเพื่อรับทราบแนวทางการฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารทะเลของสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกาศโดยประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ( นายโดนัลด์ ทรัมป์) ที่มุ่งเน้นให้สหรัฐอเมริกาฟื้นฟูและพัฒนาในด้านการประมงกับตลาดต่างประเทศ เพื่อส่งเสริม ให้มีการจับสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย (IUU) แก้ไขปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีเพื่อคุ้มครองตลาดภายในของสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้กรมประมงอยู่ในช่วงเตรียมแนวทางการ รับมือที่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมประมงของประเทศไทย #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 51 อ่าน : 8 เดือน

เมื่อวันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมยี่สก ชั้น 2 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนา.. 

การประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการกำหนดมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบจากการที่สหรัฐอเมริกาประกาศใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้ต่อประเทศเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมกุลาดำ ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยรองอธิบดีกรมประมง 2 ท่าน ได้แก่ นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ และนางฐิติพร หลาวประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกรม ผู้อำนวยการกอง ผู้เชี่ยวชาญ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการกำหนดมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบจากการที่สหรัฐอเมริกาประกาศใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้ต่อประเทศเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า Reciprocal Tariffs ซึ่งในส่วนของภาคการประมงนั้น สหรัฐฯ มีเป้าในการฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารทะเลของสหรัฐฯ (Restoring American Seafood Competitiveness) ประกาศเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแก้ไขปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรม หยุดการนำเข้าสินค้าที่ไม่ปลอดภัย ขจัดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมที่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทประมงต่างชาติ ส่งเสริมการจัดหาอาหารทะเลอย่างมีจริยธรรม ลดภาระกฎระเบียบ และสร้างความน่าเชื่อถือของห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเล เพื่อฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารทะเลของสหรัฐฯ ดังนั้น กรมประมงจึงได้เตรียมความพร้อมเพื่อหาแนวทางรองรับหากการดำเนินการดังกล่าวของสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อภาคการประมงของไทยในด้านการส่งออกสินค้าประมงของไทยและแนวโน้มที่สินค้าประเทศอื่นๆที่ถูกเก็บภาษีสูงจะไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 45 อ่าน : 8 เดือน

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมกุลาดำ ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยรองอธิ.. 

ระหว่างวันที่ 13–17 เมษายน 2568 ณ เมือง La Reunion สาธารณรัฐฝรั่งเศส นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้ ดร. ปวโรจน์ นรนาถตระกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านการประมงทะเล ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยนายธีระพงษ์ อภัยภักดี ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง และนางสาวชลธิชา คำอยู่ นักวิชาการประมงปฏิบัติการ กองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง เป็นผู้แทนสำรอง (alternate) เดินทางเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการปลาทูน่าแห่งมหาสมุทรอินเดีย (IOTC) ประจำปี ครั้งที่ 29 และมีเจ้าหน้าที่จากกองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล กองตรวจสอบเรือประมง สินค้าสัตว์น้ำ และปัจจัยการผลิต กองกฎหมาย กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ และกองประมงต่างประเทศ ร่วมให้การสนับสนุนข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ สำหรับวัตถุประสงค์การประชุมฯ ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อพิจารณาผลการดำเนินงานของ IOTC ในช่วงปีที่ผ่านมา พิจารณารายชื่อเรือที่ทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) รวมถึงพิจารณาข้อเสนอในการปรับปรุง แก้ไข และกำหนดมาตรการอนุรักษ์และบริหารจัดการของ IOTC จำนวน 28 ข้อเสนอ เป็นต้น ทั้งนี้ ในปี 2568 ที่ประชุมมีมติรับรองข้อเสนอมาตรการอนุรักษ์และบริหารจัดการของ IOTC จำนวน 14 ข้อเสนอ ได้แก่ 1. Proposal Z on Port State Measures to Prevent, Deter and Eliminate Illegal, Unreported and Unregulated Fishing เสนอโดยคณะกรรมการปฏิบัติตาม (CoC) 2. Proposal C on the Promotion of the Implementation of IOTC Conservation and Management Measures เสนอโดยสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ 3. Proposal F on Establishing Catch Limits for Bigeye Tuna in the IOTC Area of Competence เสนอโดยญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป 4. Proposal Y on Establishing Catch Limits for Skipjack Tuna in the IOTC Area of Competence เสนอโดยสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน 5. Proposal T on the Conservation of Sharks Caught in Association with Fisheries Managed by IOTC เสนอโดยสาธารณรัฐมัลดีฟส์ สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน และสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ 6. Proposal Q on the Conservation of Shortfin Mako Sharks Caught in Association with IOTC Fisheries เสนอโดยสหภาพยุโรป 7. Proposal U on a Management Procedure for Swordfish in the IOTC Area of Competence เสนอโดยเครือรัฐออสเตรเลีย 8. Proposal W on the Vessel Monitoring System (VMS) Programme เสนอโดยเครือรัฐออสเตรเลีย 9. Proposal I on Climate Change as it Relates to the Indian Ocean Tuna Commission เสนอโดยสาธารณรัฐมอริเชียส สนับสนุนข้อเสนอโดยสาธารณรัฐเซเชลส์ 10. Proposal D Recommendation on the Limitation of Fishing Capacity เสนอโดยญี่ปุ่น 11. Proposal R on Promoting the Objectives of IOTC through Cooperation with the BBNJ Agreement (Agreement Under the United Nations Convention on the Law of the Sea on the Conservation and Sustainable Use of Marine Biological Diversity of Areas Beyond National Jurisdiction) เสนอโดยสาธารณรัฐมัลดีฟส์ 12. Proposal M on a Regional Observer Scheme เสนอโดยสหภาพยุโรป 13. Proposal AB on Establishing a Technical Committee on Management Procedures เสนอโดยคณะกรรมการด้านขั้นตอนการจัดการ (TCMP) 14. Proposal AC on Establishing a Programme for Transhipment by Large-Scale Fishing Vessels เสนอโดยกลุ่มทำงานย่อย (small working group) นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยยังได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมสำนักงานของความตกลงการทำประมงสำหรับพื้นที่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย (SIOFA) ซึ่งเป็นองค์กรที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกด้วยเช่นกัน ตั้งอยู่ ณ เมือง La Reunion สาธารณรัฐฝรั่งเศส #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 49 อ่าน : 8 เดือน

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้ ดร. ปวโรจน์ นรนาถตระกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านการประมงทะเล ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยนายธีระพงษ์ อภัย..