Department of Fisheries : กิจกรรม

สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดย กลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง และสำนักงานประมงเขตพื้นที่ 2 จัดประชุมชี้แจงโครงการเพิ่มศักยภาพองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นระหว่างองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง วันที่ 30 มกราคม 2561สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดย กลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง และสำนักงานประมงเขตพื้นที่ 2 จัดประชุมชี้แจงโครงการเพิ่มศักยภาพองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นระหว่างองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ได้จัดให้มีการบรรยายเรื่องพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.๒๕๕๘ มาตราที่สำคัญและควรทราบให้แก่สมาชิกองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น รวมทั้งการบรรยายเรื่องการมีส่วนร่วมของชุมชนประมงน้ำจืดกับการอนุรักษ์ทรัพยากรประมง ณ สุเหร่าบ้านเกาะ เขตมีนบุรี กทม.

# ข่าวสาร

520 อ่าน : 7 ปี

วันที่ 30 มกราคม 2561สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดย กลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง และสำนักงานประมงเขตพื้นที่ 2 จัดประชุมชี้แจงโครงการเพิ่มศั..

ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ยื่นคำขอใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และใบอนุญาตใช้เรือ ณ สำนักงานประมงอำเภอในพื้นที่จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ยื่นคำขอใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และใบอนุญาตใช้เรือ ณ สำนักงานประมงอำเภอในพื้นที่จังหวัดระนอง และสมาคมประมงระนอง ทั้งนี้ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์สามารถยื่นเรื่องได้ระหว่างวันที่ 20 มกราคม-20 กุมภาพันธ์นี้ ณ สำนักงานประมงอำเภอท้องที่ติดทะเลและสำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพ

# ข่าวภูมิภาค

491 อ่าน : 7 ปี

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ยื่นคำขอใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และใบอนุญาตใช้เรือ ณ สำนักงานประมงอำเภอในพื้นที่จังหวัดระนอ..

ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ยื่นคำขอใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และใบอนุญาตใช้เรือ ณ สำนักงานประมงอำเภอในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ยื่นคำขอใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และใบอนุญาตใช้เรือ ณ สำนักงานประมงอำเภอในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามทั้งนี้ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์สามารถยื่นเรื่องได้ระหว่างวันที่ 20 มกราคมถึง 20 กุมภาพันธ์นี้ ณ สำนักงานประมงอำเภอท้องที่ติดทะเลและสำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพ

# ข่าวภูมิภาค

588 อ่าน : 7 ปี

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ยื่นคำขอใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และใบอนุญาตใช้เรือ ณ สำนักงานประมงอำเภอในพื้นที่จังหวัดสมุท..

ดร. ชำนาญ พงษ์ศรี รองอธิบดีกรมประมง ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาการระงับใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 ณ ห้องประชุมกุ้งกุลาดำ ดร. ชำนาญ พงษ์ศรี รองอธิบดีกรมประมง ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาการระงับใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด โดยมีผู้แทนจากกรมพัฒนาที่ดิน กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณาแนวทางในการจัดทำกฎหมายลำดับรองเกี่ยวกับการกำหนดเขตการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยใช้ความเค็มในพื้นที่น้ำจืดให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ

# ข่าวสาร

640 อ่าน : 7 ปี

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 ณ ห้องประชุมกุ้งกุลาดำ ดร. ชำนาญ พงษ์ศรี รองอธิบดีกรมประมง ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาการระงับใช้คว..

รับมอบเงินสร้างปะการังเทียม เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 ณ ห้องประชุมยี่สก กรมประมง นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ได้รับมอบเงินสนับสนุนจำนวน 1,000,000 บาท จากมูลนิธิสำนักงานทรัพย์ สินส่วนพระมหากษัตริย์ ภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสัตว์ทะเลหายาก ในพระดำริของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เพื่อจัดหาอุปกรณ์ดำน้ำและบันทึกภาพใต้น้ำ ตลอดจนการติดตามผลการจัดสร้างปะการังเทียมของกรมประมง

# ข่าวสาร

570 อ่าน : 7 ปี

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 ณ ห้องประชุมยี่สก กรมประมง นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ได้รับมอบเงินสนับสนุนจำนวน 1,000,000 บาท จากม..

ออกติดตามตรวจเยี่ยม กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปลาจีด (ปลาเม็ง) สมาชิก 30 ราย เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561 นายนพดล จินดาพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด เขต 5 (สุราษฎร์ธานี) นายอิทธิพล ขวาไทย หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมงสำนักงานประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาววรางคนา เอกวรรนัง ประมงอำเภอบ้านนาเดิม ออกติดตามตรวจเยี่ยม กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปลาจีด (ปลาเม็ง) สมาชิก 30 ราย เลี้ยงในบ่อซิเมนต์และในกระชังบก พื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลทรัพย์ทวี อำเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งกลุ่มฯมีความประสงค์ที่จะต่อยอดในการเพาะพันธุ์ปลาด้วยเอง และต้องการขอสนับสนุนอาคาร รมควันปลาเม็ง เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าประมง ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications: GI)

# ข่าวภูมิภาค

639 อ่าน : 7 ปี

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561 นายนพดล จินดาพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด เขต 5 (สุราษฎร์ธานี) นายอิทธิพล ขวาไทย หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส..

กรมประมงตบเท้าเข้าร่วมงานวันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี 61 ชูเทคโนโลยี 4.0 ธนาคารปูไข่โซล่าเซลล์ อาชีพเกษตรกรรมในประเทศไทย ถือเป็นอาชีพสำคัญที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาเป็นเวลานาน ประเทศไทยจึงได้มีการจัดงานวันเกษตรแห่งชาติขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของการเกษตรกรรม และเพื่อสนับสนุนการส่งเสริมอาชีพของเกษตรกรไทย ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า งานวันเกษตรแห่งชาติประจำปี 2561 นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้น้อมนำศาสตร์ของพระราชามาปรับใช้ร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อพัฒนาการประกอบอาชีพเกษตรกรรมทั้งด้านการเกษตร ปศุสัตว์ และประมง โดยในส่วนของ กรมประมงได้นำผลงานที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนหรือปรากฏการณ์ภาวะเรือนกระจกมาร่วมจัดแสดงภายในงานครั้งนี้ด้วย นั่นก็คือธนาคารปูไข่โซล่าเซลล์หรือธนาคาร ปูไข่คาร์บอนต่ำ ธนาคารปูไข่โซล่าเซลล์ เกิดมาจากแนวความคิดของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมประมง โดยเริ่มมาจากการจัดทำธนาคารปูไข่ เพื่อแก้ไขปัญหาชาวประมงไม่สามารถทำการประมงปูม้าได้เนื่องจากทรัพยากรปูม้ามีจำนวนลดน้อยลง รวมถึงผลกำไรไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ทางศูนย์ศึกษาฯ จึงได้มีแนวความคิดที่จะอนุรักษ์ฟื้นฟูพันธุ์ปูม้าร่วมไปกับการช่วยชาวประมงให้สามารถทำประมงปูม้าเพื่อสร้างอาชีพต่อไปได้ โครงการธนาคารปูไข่จึงเกิดขึ้นมาภายใต้การบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปูม้า ตลอดจนชาวประมงพื้นบ้านและประมงเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันชาวประมงพื้นบ้านบริเวณอ่าวคุ้งกระเบนสามารถทำการประมงปูม้าได้อย่างต่อเนื่อง หากแต่ต้องยอมรับว่าการทำธนาคารปูม้าในโรงเรือนถึงแม้ว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนปูม้าได้ระดับหนึ่ง แต่ก็มีส่วนร่วมในการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปสะสมในชั้นบรรยากาศ ประมาณ 1,412.55 กิโลกรัม CO2/ปี/ธนาคารปู ซึ่งหากการดำเนินธนาคารปูม้าแบบโรงเรือนมีมากกว่า 100 แห่ง ก็จะปลดปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 141,255 กิโลกรัม CO2/ปี ทางศูนย์ศึกษาฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้เริ่มนำผลศึกษาและทดลองวิจัยการเพาะพันธุ์ปูม้าของกรมประมงมาประยุกต์ร่วมกับเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก (โซล่าเซลล์) โดยได้ศึกษาและพัฒนาจนประสบความสำเร็จเป็น “ธนาคารปูไข่โซ่ล่าเซลล์ หรือธนาคารปูไข่คาร์บอนต่ำ ” ปัจจุบันนี้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ กรมประมง และกรมพลังงานทดแทน ได้ร่วมดำเนินโครงการธนาคารปูไข่โซ่ล่าเซลล์ หรือธนาคารปูไข่คาร์บอนต่ำ สำเร็จเรียบร้อยแล้วจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1.อ่าวคุ้งกระเบน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ กรมประมง จังหวัดจันทบุรี 2.ชุมชนประมงพื้นบ้าน ม.7 บ้านสนามไชย ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี 3.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ม.6 บ้านน้ำแดง ต.บางชัน อ.ขลุง จ.จันทบุรี 4.กลุ่มเกษตรกรบ้านบางชัน ต.บางชัน อ.ขลุง จ.จันทบุรี นายประจวบ ลีรักษาเกียรติ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมประมง กล่าวเพิ่มเติมถึงวัสดุอุปกรณ์และวิธีการเพาะฟักไข่ปูม้าว่า การทำธนาคารปูไข่โซล่าเซลล์ จะต้องใช้วัสดุอุปกรณ์หลักๆ ดังนี้ 1. ถังพลาสติก เชื่อมต่อท่อน้ำติดกันระดับความสูงสามในสี่ส่วนของถัง ส่วนที่ก้นถังเจาะรูเพื่อใช้ระบายน้ำ 2. แผงโซล่าเซลล์ (Solar Cell Panel) เพื่อเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า 3. ตู้ควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้า สำหรับนำไฟฟ้าเพื่อใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ปั๊มลม ขนาด 150 W 220 V 4. แบตเตอรี่ ขนาด 150 แอมป์-ชั่วโมง (Ah) จำนวน 4 ลูก สำหรับสำรองกระแสไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ ผ่านทางอุปกรณ์ประจุไฟฟ้า 5.ปั๊มลม สำหรับให้อากาศในถังฟักไข่ จำนวน 1 ชุด หลังจากที่เตรียมวัสดุอุปกรณ์ครบเรียบร้อยแล้ว ด้านการเพาะฟักไข่ปูม้าที่ดำเนินการร่วมกับชาวประมงจะเริ่มดำเนินการจากการรวบรวมปูม้าไข่นอกกระดองจากชาวประมงพื้นบ้านและนำมาปัดไข่ปูม้าให้หลุดออกจากจับปิ้ง โดยใช้แปรงขนนุ่มๆ แปรงเบาๆ จากนั้นนำไข่มาทำความสะอาด แล้วนำไปฟักในถังพลาสติกที่จัดเตรียมไว้ โดยใส่ไข่ปูม้าปริมาณ 5 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร และคืนปูม้าแก่ชาวประมง หลังจากนั้นนำไข่ปูม้าที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ไปฟักในถังที่มีการให้อากาศตลอดเวลา โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์แทนการใช้กระแสไฟฟ้าปกติเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ธนาคารปูไข่โซ่ล่าเซลล์นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจแก่ชาวประมงในการใช้ประโยชน์ทรัพยากรปูม้าที่จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ให้เกิดความยั่งยืนแล้ว ยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับเครื่องให้อากาศ และเครื่องสูบน้ำ ประมาณ 26 บาทต่อวัน หรือ 9,490 บาท/ปี/ 1ธนาคาร ให้กับการทำธนาคารปูไข่อีกด้วย ด้านสิ่งแวดล้อมธนาคารปูไข่โซ่ล่าเซลล์สามารถช่วยลดปัญหาการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้วันละ 3.87 กิโลกรัมคาร์บอน/ธนาคารปู/วัน หรือ 1,412.55 กิโลกรัมคาร์บอน/ธนาคารปู/ปี ดังนั้นนอกจากชื่อธนาคารปูไข่โซ่ล่าเซลล์ที่เรารู้จักกันแล้ว จึงถูกรู้จักกันอีกชื่อนั่นก็คือ “ธนาคารปูสีเขียว” ปัจจุบันการใช้พลังงานทางเลือกอย่างโซล่าเซลล์ได้รับความนิยมในวงการต่างๆ อย่างแพร่หลาย ส่งผลให้มีการพัฒนาระบบโซล่าเซลล์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการสร้างระบบแบตเตอรี่ที่เก็บสะสมกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในกลางวันมาใช้ในช่วงกลางคืน ซึ่งในปัจจุบันธนาคารปูไข่แห่งนี้ได้มีการพัฒนามาใช้กระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ธนาคารปูไข่โซล่าเซลล์จึงนับเป็นการต่อยอดเทคโนโลยีที่สามารถนำไปพัฒนาภาคการประมงของประเทศได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว สำหรับผู้สนใจอยากชมเทคโนโลยีปูไข่โซล่าเซลล์ สามารถชมได้ที่งานวันเกษตรแห่งชาติประจำปี 2561 โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2561 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ?

# ข่าวสาร

1,198 อ่าน : 7 ปี

อาชีพเกษตรกรรมในประเทศไทย ถือเป็นอาชีพสำคัญที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาเป็นเวลานาน ประเทศไทย..

การสร้างการรับรู้ข้อมูลกฏหมายแก่ประชาชน การสร้างการรับรู้ข้อมูลกฏหมายแก่ประชาชน(รายละเอียด)

# ข่าวประชาสัมพันธ์

68 อ่าน : 7 ปี

การสร้างการรับรู้ข้อมูลกฏหมายแก่ประชาชน(รายละเอียด)

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปทรงเปิดงานวันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๑ วันนี้ (๒๖ มกราคม ๒๕๖๑) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปทรงเปิดงานวันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๑ โดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๖ มกราคม ถึง ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ กรมประมง ร่วมจัดนิทรรศการเผยแพร่ความรู้ ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชา พัฒนาเกษตรไทย ๔.๐” โดยได้น้อมนำศาสตร์พระราชาที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการประมงที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาต่อยอดเป็นผลงานนวัตกรรมมาจัดแสดงและให้ความรู้ เช่น การจัดตั้งธนาคารปูไข่โซล่าเซลล์ หรือ ธนาคารปูสีเขียว ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับเครื่องให้อากาศ และเครื่องสูบน้ำ รวมทั้งช่วยเสริมสร้างความเข้าใจ และความรับผิดชอบ ให้แก่ชาวประมงในการบริหารจัดการทรัพยากรปูม้า ร่วมมือในการอนุรักษ์ และเพิ่มทรัพยากรปูม้าในแหล่งน้ำธรรมชาติให้เกิดความยั่งยืน ข่าว : นฤชยา ไกรเนตร ภาพนิ่ง : พรพรรณ แก้วประดับ กลุ่มเทคโนโลยีโสตทัศนูปกรณ์และสื่อสิ่งพิมพ์

# ข่าวสาร

590 อ่าน : 7 ปี

วันนี้ (๒๖ มกราคม ๒๕๖๑) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปทรงเปิดงานวันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๑ โดย กระทรวงเกษตรแ..

กรมประมงชี้แจงข่าวปัญหา IUU อธิบดีกรมประมง ชี้แจงตามที่ฮิวแมนไรต์วอทซ์ (HRW) เผยแพร่รายงานชื่อ “โซ่ที่ซ่อนไว้ : การปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิและแรงงานบังคับในอุตสาหกรรมประมงไทย” นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงตามที่ฮิวแมนไรต์วอทซ์ (HRW) ได้มีการเผยแพร่รายงานชื่อ “โซ่ที่ซ่อนไว้ : การปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิและแรงงานบังคับในอุตสาหกรรมประมงไทย” (Hidden Chains: Forced Labor and Rights Abuses in Thailand’s Fishing Industry) ซึ่งระบุว่า ประมงไทยยังไม่หมดปัญหาการค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงาน รวมถึงมีข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นมากมายจากการดำเนินงานตามมาตรการใหม่ของรัฐบาลไทย ดังนี้ ปัญหาการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานในภาคการประมง เป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นวาระเร่งด่วนระดับชาติ เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์แบบองค์รวม และจากการปฏิรูปการประมง ภายใต้ พรก.การประมง พ.ศ. 2558 กรมประมงได้กำหนดมาตรการและกฎระเบียบต่าง ๆ โดยบูรณาการความร่วมมือและรับฟังความคิดเห็นระหว่างหน่วยงานของรัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีความเข้มงวดในการตรวจสอบเรือประมงทั้งก่อนและหลังการออกทำประมง โดยศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) จำนวนทั้ง 32 แห่ง และจุดตรวจส่วนหน้าอีก 19 แห่ง ซึ่งกระจายอยู่ในจังหวัดชายทะเล โดยเจ้าหน้าที่ชุดสหวิชาชีพ ประกอบด้วย กรมประมง กรมเจ้าท่า ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และกรมจัดหางาน ซึ่งมีการตรวจเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และตรวจเรือประมง ตรวจความปลอดภัยของเรือ ตรวจสอบคนประจำเรือว่าถูกต้องตรงตามเอกสาร ในขณะที่จะออกทำการประมง และเมื่อกลับจากทำการประมงก็ได้มีการตรวจสอบความสอดคล้องของแรงงานเมื่อแจ้งออกทำการประมงและขณะที่กลับเข้าท่า ตลอดจนมีการตรวจสอบการจัดเวลาพักให้กับแรงานในเรือประมง รวมทั้งสุขอนามัยและสวัสดิภาพของคนประจำเรือด้วย และมีการการสุ่มสัมภาษณ์ลูกเรือประมงทั้งก่อนและหลังทำการประมง ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าว เป็นไปตามกฎกระทรวงระบบความปลอดภัย สุขอนามัย และสวัสดิภาพในการทำงานของคนประจำเรือ พ.ศ. 2559 ตามพรก.การประมง พ.ศ. 2558 และกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล พ.ศ. 2557 ออกตาม พรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 นอกจากนี้ ยังมีการออกตรวจตราในเรือกลางทะเล โดยเจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือ กองบังคับการตำรวจน้ำ สำนักงานปราบปรามและป้องกันยาเสพติด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมประมง ทั้งนี้ การดำเนินการที่เข้มงวดดังกล่าว ถือเป็นการเปิดโอกาสให้แรงงานได้พบกับเจ้าหน้าที่ได้มากขึ้น ป้องปรามการกระทำความผิดในด้านแรงงาน อันจะเป็นช่องทางหนึ่งที่แรงงานบนเรือประมงที่ประสบปัญหาหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนายจ้าง สามารถร้องเรียน/ร้องทุกข์ผ่านเจ้าหน้าที่ขณะที่มีการตรวจสอบได้โดยตรง นอกจากนี้ การที่เรือประมงพาณิชย์ถูกกำหนดให้ออกทำการประมงครั้งละไม่เกิน 30 วัน จะทำให้แรงงานไม่ได้ถูกบังคับให้อยู่ในทะเลเป็นระยะเวลานาน อันจะเป็นการลดปัญหาแรงงานในเรือประมงลงได้อีกทางหนึ่งด้ว

# ข่าวประชาสัมพันธ์

635 อ่าน : 7 ปี

อธิบดีกรมประมง ชี้แจงตามที่ฮิวแมนไรต์วอทซ์ (HRW) เผยแพร่รายงานชื่อ “โซ่ที่ซ่อนไว้ : การปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิและแรงงานบังคับในอุตสาหกรรมประมงไ..