ข่าวกรมประมง

กรมประมง...เปิดรายชื่อเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ด้านการประมง ประจำปี 2563  นายบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายให้ส่วนราชการในสังกัดดำเนินการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ที่ประสบความสำเร็จ มีผลงานดีเด่นในการประกอบอาชีพระดับชาติ เพื่อเป็นการยกย่องประกาศเกียรติคุณ และเสริมสร้างให้เกิดขวัญกำลังใจ พร้อมเผยแพร่ผลงานให้สาธารณชนทั่วไปได้รู้จักยึดถือเป็นแบบอย่างตามแนวทางการปฏิบัติงานด้านการเกษตรประจำทุกปี โดยในปีนี้ ในส่วนของกรมประมงได้มีการคัดเลือกเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 5สาขา ดังนี้ เกษตรกรดีเด่นจำนวน 3 สาขา ประกอบด้วย 1) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ได้แก่ นายศุภสิทธิ์ เขื่อนแก้ว จังหวัดเชียงราย 2) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย ได้แก่ นายสุรกิจ ละเอียดดี จังหวัดสมุทรปราการ 3) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ ได้แก่ นายพิบูลย์ชัย ชวนชื่น จังหวัดสมุทรสาคร สถาบันเกษตรกรดีเด่นอีก 2 สาขา ประกอบด้วย 1) กลุ่มเกษตรกรทำการประมงหรือกลุ่มเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ ชมรมประมงพื้นบ้านตำบลปะนาเระ อ.ปะนาเระจังหวัดปัตตานี 2) กลุ่มเกษตรกรแปรรูปสัตว์น้ำ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนปลาร้าบองท่าตูม จังหวัดอุดรธานี สำหรับ เกษตรกรชาวประมงที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติแต่ละสาขานั้น กรมประมงได้มีหลักเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม โดยเกษตรกรดีเด่น จะต้องมีคุณสมบัติอาทิ เป็นเกษตรกรที่มีสัญชาติไทย มีความประพฤติดีไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียมาก่อน ประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตเสียสละเพื่อส่วนรวม มีผลงานทางการเกษตรดีเด่นเป็นพิเศษ และเผยแพร่ให้แก่ส่วนรวมได้นำไปใช้ประโยชน์ สมควรแก่การยกย่องให้เป็นตัวอย่างแก่บุคคลอื่น ที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติในสาขาเดียวกันมาก่อน ส่วนสถาบันเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสถาบันเกษตรกรดีเด่นต้องมีคุณสมบัติเป็นสถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย หรือเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันอย่างเข้มแข็งมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี มีข้อมูลย้อนหลังให้คณะกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 3 ปี หากเป็นสถาบันเกษตรกรที่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลดีเด่นแห่งชาติมาแล้ว จะต้องเว้นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาใหม่ ส่วนเกณฑ์การให้คะแนนคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น และสถาบันเกษตรกรดีเด่น จะพิจารณาแตกต่างกันในแต่ละด้าน กล่าวคือเกณฑ์การให้คะแนนการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นพิจารณาให้คะแนนใน 4 ด้าน ได้แก่ 1) ความคิดริเริ่มและความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงาน 2) ผลงานและความสำเร็จของผลงานทั้งปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนระยะเวลาที่ปฏิบัติงานและความยั่งยืนในอาชีพ 3) ความเป็นผู้นำและการเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมในด้านต่างๆ และ 4) การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับ สถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ดีเด่นมีการพิจารณาให้คะแนนใน 5ด้าน ดังนี้ 1) มีความคิดริเริ่ม 2) มีความสามารถ ในการบริหารและการจัดการสถาบันเกษตรกร3) บทบาทและการมีส่วนร่วมของสมาชิกต่อสถาบันเกษตรกร 4) ความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจของสถาบันเกษตรกร และ 5) การทำกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองอธิบดีกรมประมง กล่าวทิ้งท้ายว่า “กรมประมงขอร่วมแสดงความยินดีกับเกษตรกรดีเด่น และสถาบันเกษตรกรดีเด่นที่ได้รับรางวัลทั้ง 5 สาขา และพร้อมที่จะผลักดันพี่น้องเกษตรกรชาวประมงรายอื่นๆ เพื่อเป็นต้นแบบและเครือข่ายในการร่วมกันพัฒนาภาคการประมงของประเทศให้เกิดความยั่งยืนต่อไป”   นายบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายให้ส่วนราชการในสังกัดดำเนินการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ที่ประสบความสำเร็จ มีผลงานดีเด่นในการประกอบอาชีพระดับชาติ เพื่อเป็นการยกย่องประกาศเกียรติคุณ และเสริมสร้างให้เกิดขวัญกำลังใจ พร้อมเผยแพร่ผลงานให้สาธารณชนทั่วไปได้รู้จักยึดถือเป็นแบบอย่างตามแนวทางการปฏิบัติงานด้านการเกษตรประจำทุกปี โดยในปีนี้ ในส่วนของกรมประมงได้มีการคัดเลือกเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 5สาขา ดังนี้ เกษตรกรดีเด่นจำนวน 3 สาขา ประกอบด้วย 1) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ได้แก่ นายศุภสิทธิ์ เขื่อนแก้ว จังหวัดเชียงราย 2) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย ได้แก่ นายสุรกิจ ละเอียดดี จังหวัดสมุทรปราการ 3) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ ได้แก่ นายพิบูลย์ชัย ชวนชื่น จังหวัดสมุทรสาคร สถาบันเกษตรกรดีเด่นอีก 2 สาขา ประกอบด้วย 1) กลุ่มเกษตรกรทำการประมงหรือกลุ่มเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ ชมรมประมงพื้นบ้านตำบลปะนาเระ อ.ปะนาเระจังหวัดปัตตานี 2) กลุ่มเกษตรกรแปรรูปสัตว์น้ำ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนปลาร้าบองท่าตูม จังหวัดอุดรธานี สำหรับ เกษตรกรชาวประมงที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติแต่ละสาขานั้น กรมประมงได้มีหลักเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม โดยเกษตรกรดีเด่น จะต้องมีคุณสมบัติอาทิ เป็นเกษตรกรที่มีสัญชาติไทย มีความประพฤติดีไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียมาก่อน ประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตเสียสละเพื่อส่วนรวม มีผลงานทางการเกษตรดีเด่นเป็นพิเศษ และเผยแพร่ให้แก่ส่วนรวมได้นำไปใช้ประโยชน์ สมควรแก่การยกย่องให้เป็นตัวอย่างแก่บุคคลอื่น ที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติในสาขาเดียวกันมาก่อน ส่วนสถาบันเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสถาบันเกษตรกรดีเด่นต้องมีคุณสมบัติเป็นสถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย หรือเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันอย่างเข้มแข็งมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี มีข้อมูลย้อนหลังให้คณะกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 3 ปี หากเป็นสถาบันเกษตรกรที่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลดีเด่นแห่งชาติมาแล้ว จะต้องเว้นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาใหม่ ส่วนเกณฑ์การให้คะแนนคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น และสถาบันเกษตรกรดีเด่น จะพิจารณาแตกต่างกันในแต่ละด้าน กล่าวคือเกณฑ์การให้คะแนนการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นพิจารณาให้คะแนนใน 4 ด้าน ได้แก่ 1) ความคิดริเริ่มและความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงาน 2) ผลงานและความสำเร็จของผลงานทั้งปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนระยะเวลาที่ปฏิบัติงานและความยั่งยืนในอาชีพ 3) ความเป็นผู้นำและการเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมในด้านต่างๆ และ 4) การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับ สถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ดีเด่นมีการพิจารณาให้คะแนนใน 5ด้าน ดังนี้ 1) มีความคิดริเริ่ม 2) มีความสามารถ ในการบริหารและการจัดการสถาบันเกษตรกร3) บทบาทและการมีส่วนร่วมของสมาชิกต่อสถาบันเกษตรกร 4) ความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจของสถาบันเกษตรกร และ 5) การทำกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองอธิบดีกรมประมง กล่าวทิ้งท้ายว่า “กรมประมงขอร่วมแสดงความยินดีกับเกษตรกรดีเด่น และสถาบันเกษตรกรดีเด่นที่ได้รับรางวัลทั้ง 5 สาขา และพร้อมที่จะผลักดันพี่น้องเกษตรกรชาวประมงรายอื่นๆ เพื่อเป็นต้นแบบและเครือข่ายในการร่วมกันพัฒนาภาคการประมงของประเทศให้เกิดความยั่งยืนต่อไป”  

 1,117 อ่าน : 5 ปี

นายบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายให้ส่วนราชการในสังกัดดำเนินการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสห.. 

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง (Rayong Aquarium)  สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง (Rayong Aquarium) สถานที่ท่องเที่ยวระยอง แหล่งเรียนรู้ที่รวบรวมพันธุ์สัตว์ทะเลมีชีวิต ทั้งปลาทะเลสวยงาม ปลาหน้าตาแปลกและสัตว์ทะเลหายาก ชมการดำรงชีวิตและพฤติกรรมของสัตว์น้ำ เดินลอดอุโมงค์แก้ว เสมือนดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลที่มีปลาขนาดใหญ่ลอยอยู่เหนือหัวคุณ เก็บเกี่ยวความรู้ไปกับนิทรรศการอาชีพการทำประมง เรือประมง และเครื่องมือประมงชนิดต่างๆ รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรประมงของไทย Rayong Aquarium ตั้งอยู่ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ใกล้ตลาดบ้านเพ ต.เพ อ.เมือง จ. ระยอง Rayong Aquarium สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง  มีสัตว์น้ำให้เลือกชมอย่างมากมายหลากหลายชนิด โดยแยกสัตว์น้ำที่อาศัยในแนวปะการังที่มีสีสันสวยงาม เช่น ปลาการ์ตูน ปลาผีเสื้อ ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง  ม้าน้ำ และกุ้งมังกร เป็นต้น ต่อมาจะเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจ เช่น ปลากะรังดอกดำ กั้งกระดาน เป็นต้น ต่อมาคือสัตว์ทะเลมีพิษหรือสัตว์ทะเลที่เป็นอันตราย เม่นทะเล ปลาสิงโต ปลากะรังหัวโขน ปลากะเบนจุดฟ้า เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีบ่อขนาดใหญ่  จัดแสดงระบบนิเวศใต้ท้องทะเล มีปลาทะเลขนาดใหญ่ อาทิ ปลาหมอทะเล ปลากระเบน ปลาโฉมงาม ปลาโมงตาโต ปลาฉลามหูดำ ปลากะพงและปลากะรังชนิดต่างๆ มีบ่ออุโมงค์ ขนาด 400 ตัน รอดผ่านยาว 10 เมตร สัมผัสชีวิตใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด ชมพันธุ์ปลาทะเลต่างๆ ได้แก่ ปลากะเบนนก ปลากะรังหลากหลายชนิด ปลาโมงตาโต ปลาหูช้าง ปลากะพงแดง ปลาขี้ตังเบ็ด ปลาพยาบาล เป็นต้น บ่อเต่าทะเล สำหรับจัดแสดงพันธุ์เต่าทะเล ได้แก่ เต่ากระ และเต่าตนุ พันธุ์ปลาทะเลขนาดเล็ก ได้แก่ ปลากระบอก ปลาสลิดหิน ปลากะพงเหลืองขมิ้น และปลาสลิดทะเล เป็นต้น Rayong Aquarium สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง 21160 โทร. 0-3865-3741 เวลาเปิดให้บริการ วันพุธ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 16.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 17.00 น. หยุดทำการในวันจันทร์ - อังคาร ราคาบัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ : 30 บาท เด็ก (อายุไม่เกิน 15 ปี) : 10 บาท เด็กความสูงไม่เกิน 120 ซม. เข้าชมฟรี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี ข้อมูลจาก : https://www.rayonghip.com/rayong-aquarium/

 6,756 อ่าน : 5 ปี

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง (Rayong Aquarium)

สถานที่ท่องเที่ยวระยอง แหล่งเรียน.. 

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์  สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ความเป็นมา           สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก่อสร้างโดยใช้งบประมาณของกรมประมง จำนวน 60 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนสิงหาคม 2552 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2554 รวมระยะเวลาในการก่อสร้าง 1 ปี 6 เดือน  และกรมประมงเริ่มเข้าดำเนินการเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 ภายใต้การควบคุมดูแลของสำนักวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด โดยมอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่คือศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลพบุรีเข้าดำเนินการดูแลพันธุ์สัตว์น้ำ อาคารและสถานที่โดยรอบ เพื่อเตรียมการสำหรับเปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมพันธุ์สัตว์น้ำตามวัตถุประสงค์ของการก่อสร้าง ที่ตั้ง :    ภายในบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี วัตถุประสงค์     1. เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและแหล่งท่องเที่ยวสำหรับประชาชนทั่วไป     2. เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนักวิชาการ นักศึกษา นักเรียน เยาวชน และผู้สนใจทั่วไป   การเดินทาง           ทางรถยนต์   จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านตัวจังหวัดสระบุรี และจากสระบุรีไปประมาณ 33 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3017 ไปประมาณ 17 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณตัวเขื่อน           ทางรถไฟ      การรถไฟแห่งประเทศไทย มีบริการรถไฟโดยออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงใน วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.30 น. โดยจะผ่านจุดชมวิว กิโลเมตรที่ 172 อัตราค่าโดยสารไป-กลับประมาณ 200 บาท และรถไฟโดยสาร สายกรุงเทพฯ-หนองคาย-โคกสลุง ราคาประมาณ 76 บาท แล้วจากนั้นให้ต่อรถไฟท้องถิ่นสายบัวใหญ่-แก่งคอย มาลงที่เขื่อนป่าสัก อัตราค่าโดยสารประมาณ 4 บาท และเที่ยวเดินทางกลับมีขบวนรถไฟสายเชื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพฯ อัตราค่าโดยสารประมาณ 96 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1690 วันเวลาทำการ และอัตราค่าเข้าชม วันและเวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ค่าเข้าชม: ฟรี การติดต่อขอเข้าชม (กรณีหมู่คณะ) ติดต่อ : ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลพบุรี โทรศัพท์ 036-510520-21  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 3657 3203, 0 3657 3186  

 917 อ่าน : 5 ปี

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ความเป็นมา
 .. 

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ (Bangkok Aquarium)  สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ (Bangkok Aquarium) อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา 10 บาท ผู้สูงอายุ / ผู้พิการ ไม่เสียค่าเข้าชม ****กรณีต้องการวิทยากรเพื่อบรรยาย กรณีเข้าชมเพื่อถ่ายทำรายการ หรือขอความอนุเคราะห์ค่าธรรมเนียมเข้าชม ต้องทำหนังสือ ส่งถึง อธิบดีกรมประมง กรณีเข้าชมเป็นหมู่คณะ สามารถขอวิทยากรนำชมได้   การทำหนังสือขอวิทยากร 1. โทรศัพท์ติดต่อมายังสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ เพื่อนัดวัน เวลา ที่เข้าชม ที่หมายเลข 0-2562-0600 ต่อ 5113 ล่วงหน้าประมาณ 10 วัน 2. ทำหนังสือขอวิทยากร ส่งถืง ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด *กรุณาโทรศัพท์เพื่อนัดวัน เวลา ที่แน่นอน ก่อนทำหนังสือขอวิทยากร ⇒ ติดต่อหน่วยงาน.... สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด  สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทะเล สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดและสัตว์ทะเล คู่มือการให้บริการสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพ (ส่วนจัดแสดง และนิทรรศการ)     

 1,090 อ่าน : 5 ปี

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ (Bangkok Aquarium)

อัตราค่าเข้าชม

กรมประมงสร้างความเข้มแข็งการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม เปลี่ยนรูปแบบการกระจายสินค้าสัตว์น้ำ ตอบรับกระแสการเปลี่ยนแปลงภายใต้แนวคิดการผลิตคุณภาพแบบครบวงจร  กรมประมงสร้างความเข้มแข็งการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม เปลี่ยนรูปแบบการกระจายสินค้าสัตว์น้ำ ตอบรับกระแสการเปลี่ยนแปลงภายใต้แนวคิดการผลิตคุณภาพแบบครบวงจร วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เวลา 10.00 น. ณ บริเวณลานโพธิ์ กรมประมง(บางเขน) ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง พบปะผู้คุยกับผู้บริโภคและนายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจากประกอบฟาร์ม จังหวัดราชบุรี สำหรับในวันนี้ทางฟาร์มได้ใช้เทคนิคการรักษาคุณภาพสัตว์น้ำระหว่างการขนส่งสินค้าจากผู้ขายสู่ผู้บริโภคโดยตรงมากระจายให้กับลูกค้าที่ได้ให้การสนับสนุนสั่งจองในระบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://coastalaqua.fisheries.go.th/preorder โดยกิจกรรมในครั้งนี้กรมประมงสามารถช่วยเกษตรกรระบายกุ้งก้ามกรามออกจากทางฟาร์มได้จำนวน 300 กิโลกรัม อีกทั้งยังได้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้รับประทานสัตว์น้ำที่สด ได้รับมาตรฐาน GAP กันแบบจุใจโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางอีกด้วย กรมประมงหวังว่า ความตั้งใจของกลุ่มเกษตรกร จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในระยะยาวต่อไป เพื่อลดภาระที่เกิดขึ้นในภาวะวิกฤติในครั้งนี้ ติดตามสินค้าสัตว์น้ำอื่นๆ พร้อมสั่งจองได้ตามลิงค์ด้านบนเลยจ้า แล้วพบกัน

 639 อ่าน : 5 ปี

กรมประมงสร้างความเข้มแข็งการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม เปลี่ยนรูปแบบการกระจายสินค้าสัตว์น้ำ ตอบรับกระแสการเปลี่ยนแปลงภายใต้แนวคิดการผลิตค.. 

นายบุญส่ง ศรีเจริญธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยา รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการประมง เป็นประธานการประชุมพิจารณาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับหมวดหมู่หรือสาขาย่อยของงานวิจัยด้านประมง (TARR)  วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมทูน่า ชั้น 6 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายบุญส่ง ศรีเจริญธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยา รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการประมง เป็นประธานการประชุมพิจารณาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับหมวดหมู่หรือสาขาย่อยของงานวิจัยด้านประมง (TARR) อันเนื่องมาจากศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะที่ปรึกษาสำนักงานพัฒนางานวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้ดำเนินการพัฒนาระบบคลังข้อมูลการวิจัยการเกษตรไทย (TARR) เพื่อเป็นการยกระดับการบริหารข้อมูลให้รอบด้าน ครอบคลุม และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ ซึ่งจะนำไปสู่การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและจัดการข้อมูลงานวิจัยในเชิงลึกเพื่อเชื่อมโยงงานวิจัย

 571 อ่าน : 5 ปี

วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมทูน่า ชั้น 6 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายบุญส่ง ศรีเจริญธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยา รักษาการในตำแ.. 

นายประเทศ ซอรักษ์ ผู้ตรวจราชการกรม เป็นประธานการประชุมแนวทางการดำเนินการตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. 2563   วันที่ 30 เมษายน 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ป.ปลา กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง นายประเทศ ซอรักษ์ ผู้ตรวจราชการกรม เป็นประธานการประชุมแนวทางการดำเนินการตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. 2563 ด้วยระบบ video conference ร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัด 22 จังหวัดชายทะเล รวมถึงหารือแนวทางการปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฯและแนวทางการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

 595 อ่าน : 5 ปี

วันที่ 30 เมษายน 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ป.ปลา กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง นายประเทศ ซอรักษ์ ผู้ตรวจราชการกรม เป็นประธา.. 

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๓ กรมประมงน้อมเกล้าฯ ถวายพันธุ์สัตว์น้ำจืดเพื่อทรงปล่อยจำนวน ๙ ชนิด ได้แก่ ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียนทอง ปลายี่สกไทย ปลาแก้มช้ำ ปลาสร้อยขาว ปลากระแห ปลาชะโอน ปลาโพง และปลาบึก รวมทั้งสิ้น ๔๙๐,๐๐๐ ตัว ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่ออนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำจืดไทยให้เกิดความอุดมสมบูรณ์  วันนี้ (๒๙ เมษายน ๒๕๖๓) เวลา ๐๘.๐๐ น. ณ ท่าวาสุกรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พลอากาศเอก เกษม อยู่สุข หัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๓ กรมประมงน้อมเกล้าฯ ถวายพันธุ์สัตว์น้ำจืดเพื่อทรงปล่อยจำนวน ๙ ชนิด ได้แก่ ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียนทอง ปลายี่สกไทย ปลาแก้มช้ำ ปลาสร้อยขาว ปลากระแห ปลาชะโอน ปลาโพง และปลาบึก รวมทั้งสิ้น ๔๙๐,๐๐๐ ตัว ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่ออนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำจืดไทยให้เกิดความอุดมสมบูรณ์

 583 อ่าน : 5 ปี

วันนี้ (๒๙ เมษายน ๒๕๖๓) เวลา ๐๘.๐๐ น. ณ ท่าวาสุกรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พลอากาศเอก เกษม อยู่สุข หัวหน้าสำนักงานราชเล.. 

คณะผู้ตรวจราชการกรมประมง ร่วมกันประชุมหารือ ผ่าน Video Conference กับสำนักงานประมงจังหวัดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ในการติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกรในแต่ละจังหวัด  วันพุธที่ 29 เมษายน 2563 เวลา 15.00 น. คณะผู้ตรวจราชการกรมประมง ร่วมกันประชุมหารือ ผ่าน Video Conference กับสำนักงานประมงจังหวัดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ในการติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกรในแต่ละจังหวัด ณ ห้องประชุมปากเปี่ยน ชั้น 5 กรมประมง

 567 อ่าน : 5 ปี

วันพุธที่ 29 เมษายน 2563 เวลา 15.00 น. คณะผู้ตรวจราชการกรมประมง ร่วมกันประชุมหารือ ผ่าน Video Conference กับสำนักงานประมงจังหวัดทุกพื้นที่ทั่วประเท.. 

นายบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมพิจารณาปรับลดงบประมาณเพื่อนำไปจัดทำร่าง พ.ร.บ. โอน พ.ศ. 2563  วันที่ 29 เมษายน 2563 ณ ห้องประชุมกุลาดำ ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมพิจารณาปรับลดงบประมาณเพื่อนำไปจัดทำร่าง พ.ร.บ. โอน พ.ศ. 2563

 607 อ่าน : 5 ปี

วันที่ 29 เมษายน 2563 ณ ห้องประชุมกุลาดำ ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมพิจารณาป..