ข่าวกรมประมง

การประชุม “เสริมสร้างความรู้ เพิ่มทักษะดิจิทัลให้แก่บุคลากรกรมประมง” วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง และผ่านระบบการประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meetings นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานเปิดการประชุม “เสริมสร้างความรู้ เพิ่มทักษะดิจิทัลให้แก่บุคลากรกรมประมง” โดยมีนายอานันต์ อัลมาตร์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมทั้งในรูปแบบ Onsite และ Online รวมจำนวนทั้งสิ้น 151 ราย การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรของกรมประมงให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล และส่งเสริมการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นหน่วยงานราชการดิจิทัลอย่างแท้จริง สำหรับเนื้อหาการอบรมประกอบด้วย พื้นฐานการประยุกต์ใช้ Generatve AI เพื่อสนับสนุนการทำงาน พื้นฐาน AI กับการประยุกต์ใช้งานแบบ Low/No Code ทั้งนี้ กรมประมงให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนภารกิจและนําเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพลิกโฉมหน่วยงานภาครัฐสู่ ระบบราชการ 4.0 โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรในทุกระดับ เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชน และพัฒนาองค์กรให้พร้อมก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 41 อ่าน : 3 เดือน

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง และผ่านระบบการประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meetings

<.. 

รองอธิบดีกรมประมง ร่วมคณะรมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ จ. พะเยา เร่งบูรณาการความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ จังหวัดพะเยา นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายชนนวัช อุตสาสาร ประมงจังหวัดพะเยา นายพนมเทียน นาควิจิตร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา นายสมนึก โหยบคาน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดลำปาง เข้าร่วมติดตามคณะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า ในการลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดพะเยา จำนวน 4 จุด ได้แก่ 1.วัดศรีไฮคำ ตำบลเชียงแรง อำเภอภูซาง 2. องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำแวน ตำบลน้ำแวน อำเภอเชียงคำ 3. โรงเรียนบ้านปางมดแดง ตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ 4. เทศบาลตำบลทุ่งรวงทอง อำเภอจุน เพื่อรับทราบสถานการณ์อุทกภัย และข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานภายใต้สังกัด บูรณาการการทำงานร่วมกันในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจากพายุวิภา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาเบื้องต้นอย่างทั่วถึง และรวดเร็ว บนพื้นฐานความปลอดภัยของทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และพี่น้องเกษตรกรเป็นหลัก รวมถึง มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย ได้แก่ 1) ขุดลอกทรายลำน้ำอิง และนำทรายมาทำถนนสำหรับเข้าพื้นที่เกษตรกรรม 2) จัดหาพื้นที่สาธารณะประโยชน์สำหรับทำโครงการแก้มลิง 3) ขุดบ่อกักเก็บน้ำขนาดเล็ก พร้อมติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์และเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ สำหรับจัดส่งน้ำไปแปลงนาไว้ทำการเกษตรช่วงฤดูแล้ง 4) จัดแปลงนาเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยให้สามารถเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อการบริโภคและจำหน่ายเป็นการสร้างรายได้เพิ่มเติม 5) จัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เกษตรกรปลูกในช่วงน้ำลด และ 6) จัดสอนและส่งอุปกรณ์การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้กับผู้สูงอายุที่ต้องการมีรายได้เพิ่ม ซึ่งเป็นระบบการทำเกษตรกรรมแบบหมุนเวียน และช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับตัวทันต่อสถานการณ์โลกแปรปรวนต่อไป #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 37 อ่าน : 3 เดือน

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ จังหวัดพะเยา นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายชนน.. 

ร่วมลงพื้นที่พร้อมคณะท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ต.ป่ากุมเกาะ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย นายบัญชา สุขเเก้ว ธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายบัณฑิต กุลละวณิชย์ ผู้ตรวจราชการกรมประมง นายวรัณยู ขุนเจริญรักษ์ ประมงจังหวัดพิษณุโลก นายสมรรถชัย ทองคำชุม ประมงจังหวัดสุโขทัย ร่วมลงพื้นที่พร้อมคณะท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอรรถกร ศิริลัทธยากร) และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในโอกาสตรวจราชการเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดสุโขทัย ณ ประตูระบายน้ำจุดต่างๆ อาทิ ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ประตูระบายน้ำคลองหกบาท จุดก่อสร้างสะพานรถไฟ (คลองยม-น่าน) รวมถึงสถานการณ์น้ำในเขตเมือง บริเวณสะพานพระร่วง เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ประมงจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลก เตรียมการเฝ้าระวัง บ่อปลา กระชังในพื้นที่เสี่ยง และแจ้งเตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากมีเกษตรกรประชาชนประสบอุทกภัยในพื้นที่ให้บูรณาการร่วมกันกับหน่วยเรือตรวจการกรมประมงเข้าให้การช่วยเหลือ พร้อมนี้ ได้ฝากความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด้วย #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 35 อ่าน : 3 เดือน

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ต.ป่ากุมเกาะ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย

นายบัญชา สุขเเก้.. 

ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านร่องขามป้อม เมื่อวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568 ณ อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย นายสรเมษ? ชโล?วัฒนะ? หัวหน้า?กลุ่ม?แผนงาน?และ?ติดตาม?การตรวจการประมง? และนายสมนึก โหยบคาน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดลำปาง? ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านร่องขามป้อม หมู่ที่ 9? ตำบลเวียง อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย โดยได้นำเรือตรวจการประมงเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยและขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมจัดส่งน้ำและอาหารให้กับผู้ที่ยังคงอาศัยอยู่ในที่พัก หลังจากนั้น รองอธิบดีฯ และคณะ ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบความเสียหายของเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามในพื้นที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เพื่อเตรียมการช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย #กรมประมง  

 31 อ่าน : 3 เดือน

เมื่อวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568 ณ อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย

นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย นายสรเมษ? ชโล?วัฒนะ? หัวห.. 

กรมประมงจับมือ กฟผ. เปิดตัว “โรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามพลังงานแสงอาทิตย์” พร้อมดันเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และหนุนอาชีพ สร้างรายได้ท้องถิ่น กรมประมงร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดตัว “โรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามพลังงานแสงอาทิตย์” ตั้งเป้าเพิ่มศักยภาพการผลิตลูกพันธุ์กุ้งก้ามกรามได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านตัว/ปี เพื่อปล่อยลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์และแหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมผลักดันเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และส่งเสริมการประกอบอาชีพจากกุ้งก้ามกราม มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า “กุ้งก้ามกรามเขื่อนอุบลรัตน์” เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดขอนแก่น เนื่องจากมีราคาจำหน่ายสูง เนื้อมีรสชาติดี และมีความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมประมงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและการเพิ่มศักยภาพการผลิตของกุ้งก้ามกรามในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เนื่องจากพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์มีลักษณะภูมิประเทศที่ซับซ้อน มีความเชื่อมโยงระหว่างดินและน้ำสูง และมีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ทำให้เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของกุ้งก้ามกราม ซึ่งที่ผ่านมา กรมประมง โดยศูนย์วิจัยการประมงน้ำจืดขอนแก่นได้ผลิตและปล่อยกุ้งก้ามกรามเป็นประจำปีละกว่า 5 ล้านตัว เพื่อเพิ่มผลผลิตในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์และแหล่งน้ำธรรมชาติโดยรอบมาตั้งแต่ปี 2524 และมีการติดตามและประเมินผลการจับกุ้งขึ้นใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถเพิ่มผลผลิตได้มากกว่า 9,000 กิโลกรัมต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 7.2 ล้านบาท กรมประมงจึงร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการก่อสร้าง “โรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามพลังงานแสงอาทิตย์” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และส่งเสริมอาชีพจากกุ้งก้ามกราม ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจ ควบคู่ไปกับการศึกษาวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีในการผลิต รวมถึงติดตามและประเมินผลการปล่อยกุ้งก้ามกรามในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายในโรงเพาะเลี้ยงฯ มีการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ขนาด 12 กิโลวัตต์ เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในระบบโรงเพาะฟัก สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ถึงร้อยละ 50 หรือประมาณ 6,000 – 8,000 บาทต่อเดือน อีกทั้ง เพิ่มกำลังการผลิตด้วยการจัดสร้างบ่อคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 2x8 เมตร จำนวน 4 บ่อ สามารถอนุบาลลูกกุ้งก้ามกรามแรกคว่ำ ขนาด 0.8 - 1.0 เซนติเมตร ได้ถึง 2 ล้านตัวต่อรอบการผลิต และสามารถผลิตลูกพันธุ์กุ้งก้ามกรามได้มากกว่า 20 ล้านตัวต่อปี เมื่อรวมกับกำลังการผลิตของอาคารหลังเดิมจะทำให้มีศักยภาพการผลิตของศูนย์ฯ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 30 ล้านตัวต่อปี และในอนาคตกรมประมงมีแผนที่จะขยายผลให้แก่วิสาหกิจชุมชนนำไปพัฒนาเป็นธุรกิจท้องถิ่น พร้อมส่งเสริมการตลาดกุ้งก้ามกรามและผลักดันให้เป็นสินค้าเด่นของจังหวัดต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม กรมประมงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า “โรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามพลังงานแสงอาทิตย์” แห่งนี้ จะกลายเป็นแหล่งผลิตลูกพันธุ์กุ้งก้ามกรามที่สำคัญ และเป็นต้นแบบศูนย์กลางการเรียนรู้ที่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปจะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดในการสร้างรายได้ และสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน…อธิบดีฯ กล่าว  

 39 อ่าน : 3 เดือน

กรมประมงร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดตัว “โรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามพลังงานแสงอาทิตย์” ตั้งเป้าเพิ่มศักยภาพการผลิตลูก.. 

ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดพะเยา ณ ห้องประชุม ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา เพื่อรับทราบสถานการณ์อุทกภัย และข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. จังหวัดพะเยา นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายชนนวัช อุตสาสาร ประมงจังหวัดพะเยา นายพนมเทียน นาควิจิตร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา นายสมนึก โหยบคาน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดลำปาง เข้าร่วมติดตามคณะนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดพะเยา ณ ห้องประชุม ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา เพื่อรับทราบสถานการณ์อุทกภัย และข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้หน่วยงานภายใต้สังกัดบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จากนั้นในช่วงบ่าย รองอธิบดีกรมประมง ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย ในอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ซึ่งกรมประมงได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ของกองตรวจการประมง และเรือตรวจการประมง เข้าช่วยเหลือเพื่อขนย้ายผู้ประสบภัยและสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมจัดส่งอาหารให้กับผู้ที่ยังคงอาศัยอยู่ในที่พักซึ่งยังคงมีน้ำท่วมอยู่ #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 42 อ่าน : 3 เดือน

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. จังหวัดพะเยา

นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนายชนนวัช อุตสาสาร ประมงจังหวัดพ.. 

กรมประมงร่วมประชุมระดับภูมิภาค ว่าด้วยมาตรการรัฐเจ้าของท่า (PSMA) ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการป้องกันการประมง IUU ในเวทีประชุมระดับภูมิภาค นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นายธีระพงษ์ อภัยภักดี ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง พร้อมด้วยนายถิร รอดชีวิต นักวิชาการประมงชำนาญการ เป็นผู้แทนกรมประมงเข้าร่วมการประชุมRegional Coordination Meeting on the FAO Agreement on Port State Measures and Complementary Instruments ระหว่างวันที่ 21–25 กรกฎาคม 2568 ณ นครดาเบา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการดำเนินงานตามข้อตกลงว่าด้วยมาตรการรัฐเจ้าของท่า (Port State Measures Agreement: PSMA) ในภูมิภาคเอเชีย จัดโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับสถานะของ PSMA ในภูมิภาคเอเชีย ร่วมกันหารือแนวทางการรับมือกับความท้าทายในการดำเนินงาน การใช้งานระบบ Global Information Exchange System (GIES) รวมถึงการกำหนดกลยุทธ์ระดับภูมิภาค และจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับประสิทธิภาพของการบังคับใช้ PSMA ในการนี้ ผู้แทนกรมประมงได้บรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับความสำเร็จ ความท้าทาย และโอกาสของประเทศไทยในการดำเนินงานตาม PSMA โดยเน้นบทบาทเชิงรุกของไทยในฐานะผู้นำของภูมิภาค ทั้งด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ การฝึกอบรม และการส่งเสริมแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศให้แก่ประเทศสมาชิกในภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย นอกจากนี้ ยังได้ย้ำถึงบทบาทของประเทศไทยในฐานะที่เป็นศูนย์เครือข่ายอาเซียนเพื่อการต่อต้านการทำการประมงผิดกฎหมาย (ASEAN Network for Combating IUU Fishing: AN–IUU Network Centre) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านการติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวัง (MCS) รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อกฎหมายและแนวทางปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (IUU) ในระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการประมงผิดกฎหมายให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 45 อ่าน : 3 เดือน

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นายธีระพงษ์ อภัยภักดี ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง พร้อมด้วยนายถิร รอดชีวิต นักวิช.. 

กรมประมง เปิดอบรม “ทิศทางการจัดการประมงทะเล เสียงสะท้อนจากคนรักษ์ทะเล” อธิบดีบัญชา...ดึงวิทยากรญี่ปุ่นร่วมแชร์กลยุทธ์การจัดการประมงอย่างยั่งยืน นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดอบรมหลักสูตร “ทิศทางการจัดการประมงทะเล เสียงสะท้อนจากคนรักษ์ทะเล” เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมกุลาดำ ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ เพื่อร่วมกันวางแนวทางการจัดการที่เหมาะสม และตอบสนองต่อทิศทางการจัดการทรัพยากรประมงในระดับสากล โดยอบรบแบบ onsite และระบบประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meetings นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดว่า...ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับปัญหาการทำประมงเกินศักยภาพของทรัพยากรประมง (Overfishing) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของระบบนิเวศและความมั่นคงทางอาหารของภาคการประมงโดยรวม เป็นเหตุให้ประเทศไทยได้ดำเนินการปฏิรูประบบการบริหารจัดการประมงอย่างจริงจัง ผ่านการประกาศใช้ พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ซึ่งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการจัดการจากระบบเสรี มาเป็นระบบ “จำกัดสิทธิ” มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม ตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว ภายใต้กรอบกฎหมายใหม่นี้ กรมประมงได้จัดทำ แผนบริหารจัดการประมงทะเล (Fisheries Management Plan: FMP) มาแล้ว 2 ฉบับ ได้แก่ FMP ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2558–2562 และFMP ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2563–2565 และได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นนโยบายและแผนบริหารจัดการประมง พ.ศ. 2566–2570 ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยนโยบายและแผนฯ ฉบับดังกล่าว มีเป้าหมายหลักในการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล และส่งเสริมศักยภาพการประมงไทยทั้งในประเทศและนอกน่านน้ำอย่างมีระบบ ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศทางทะเล ภาวะโลกร้อน และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่หลากหลายของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อให้การบริหารจัดการประมงทะเลของไทยอยู่บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมและมีทิศทางที่เหมาะสม กรมประมงจึงจัดโครงการฝึกอบรม “ทิศทางการจัดการประมงทะเล เสียงสะท้อนจากคนรักษ์ทะเล” เพื่อเปิดเวทีให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคการประมงทะเล ทั้งผู้เกี่ยวข้องในการกำหนดนโยบาย นักวิชาการ ชาวประมงพื้นบ้าน ชาวประมงพาณิชย์ และชาวประมงนอกน่านน้ำ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ ประสบการณ์ มุมมอง และข้อเสนอแนะที่สะท้อนจากการปฏิบัติจริง เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการจัดการประมงที่เหมาะสมและสอดรับกับแนวโน้มการบริหารจัดการทรัพยากรประมงในระดับโลก การฝึกอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.มัทซึอิชิ ทาคาชิ ฟริส จากมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการประมงทะเลในระดับสากล ร่วมเป็นวิทยากรและบรรยายพิเศษในหัวข้อต่าง ๆ ได้แก่ หลักการจัดการประมงในระดับสากล ระบบการจัดการประมงในประเทศญี่ปุ่น และผลสำเร็จของการจัดการประมงระดับพื้นที่ พร้อมทั้งถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวคิดด้านการจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนจากประสบการณ์ในประเทศญี่ปุ่นและนานาชาติ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกรณีศึกษาที่สามารถนำมาปรับใช้ในบริบทของประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างแนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเลอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืนต่อไปในอนาคต การจัดอบรมในครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญของกระบวนการส่งเสริม “การมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม” โดยเปิดโอกาสให้ “คนรักษ์ทะเล” จากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ทรัพยากรทางทะเลโดยตรง หรือผู้มีบทบาทในการกำหนดนโยบาย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการจัดการประมงของประเทศไทยให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนไปสู่ความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์อย่างแท้จริง กรมประมงเชื่อมั่นว่า เสียงสะท้อนจากผู้มีส่วนร่วมในครั้งนี้ จะเป็นข้อมูลสำคัญในการขับเคลื่อนการจัดทำแผนการบริหารจัดการประมงทะเลไทยในอนาคต…อธิบดีกรมประมง กล่าวทิ้งท้าย  

 35 อ่าน : 3 เดือน

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดอบรมหลักสูตร “ทิศทางการจัดการประมงทะเล เสียงสะท้อนจากคนรักษ์ทะเล” เมื่อวั.. 

เปิดโครงการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามและของดีอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามและของดีอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ พร้อมด้วย นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง และคณะผู้บริหารกรมประมง เข้าร่วมฯ โดยมี นางสาวศิราณี งอยจันทร์ศรี ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการฯ และนายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายอำเภออุบลรัตน์ ผู้นำชุมชน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับและร่วมปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามลงสู่อ่างเก็บน้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ จำนวน 1,000,000 ตัว จากนั้น อธิบดีฯ ได้มอบรางวัลการประกวดวาดภาพของนักเรียนในหัวข้อ วิถีประมงเคียงคู่เขื่อนอุบลรัตน์ และผลงานภาพถ่ายในหัวข้อ Unseen Ubolratana Reservoir พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการความรู้ด้านการประมงที่นำมาจัดแสดงภายในงาน สำหรับ "กุ้งก้ามกรามเขื่อนอุบลรัตน์" เป็นสัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจของท้องถิ่น เนื่องจากมีมูลค่าสูงและเนื้อมีรสชาติดี ซึ่งกรมประมงได้เล็งเห็นความสำคัญและดำเนินการปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ตั้งแต่ปี 2524 จนปัจจุบันได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น ดำเนินการปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามลงสู่แหล่งน้ำโดยรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ประมาณ 5 ล้านตัว/ปี ซึ่งจากการติดตามผลการปล่อยกุ้งก้ามกรามระหว่างปี 2563-2567 พบว่ามีปริมาณผลผลิตเฉลี่ย 1,700 กิโลกรัม ทำให้ในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มีผลจับกุ้งก้ามกรามรวมประมาณ 9,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 7.2 ล้านบาท สามารถสร้างความเข้มแข็งในการประกอบอาชีพ และสร้างรายได้เสริมให้กับประชาชนในพื้นที่โดยรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ได้เป็นอย่างดี #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 42 อ่าน : 3 เดือน

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เ.. 

เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ข้อเสนอแนวทางการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ให้สอดคล้องกับแนวทางการตรวจราชการกรมประมงและแนวทางการตรวจราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รุ่นที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.30 น. ณ โรงแรมวารี วัลเล่ย์ รีสอร์ท ตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ข้อเสนอแนวทางการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ให้สอดคล้องกับแนวทางการตรวจราชการกรมประมงและแนวทางการตรวจราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รุ่นที่ 2 พร้อมให้เกียรติปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "กรมประมง สถาบันที่สร้างความมั่นคงต่ออาชีพประมง ภายใต้กฎหมายประมง เพื่อความยั่งยืน" โดยมีนายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง คณะผู้บริหารหน่วยงานกรมประมงจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตลอดจน บุคลากรของสำนักงานประมงจังหวัด สังกัดราชการบริหารส่วนภูมิภาค และหน่วยงานกรมประมง สังกัดราชการบริหารส่วนกลางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด เข้าร่วมกว่า 200 ราย สำหรับการประชุมดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 - 25 กรกฎาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่ สามารถบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาด้านการประมงให้เป็นไปตามแนวทางที่กรมประมงและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้วางไว้ โดยภายในงานมีการบรรยายให้ความรู้จากผู้บริหารกรมประมง เพื่อเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ นโยบายสำคัญตามแผนปฏิบัติงานกรมประมง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 - 2569 การบริหารจัดการด้านการประมงเพื่อขับเคลื่อนงานภายใต้นโยบายและแผนบริหารจัดการการประมง พ.ศ. 2566 - 2570 ฯลฯ พร้อมจัดเวทีเสวนา "ทุกคำถาม มีคำตอบ" โดยอธิบดีกรมประมง และคณะผู้ตรวจราชการกรม รวมถึงแบ่งกลุ่มเพื่อฝึกปฏิบัติการ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถซักถามและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในพื้นที่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 43 อ่าน : 3 เดือน

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.30 น. ณ โรงแรมวารี วัลเล่ย์ รีสอร์ท ตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

นายบัญชา สุขแก้ว..