ข่าวกรมประมง

ดร.ถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานพิจารณาการสมัครรับรางวัลเลิศรัฐ ครั้งที่ 1/2567  วันอังคารที่ 12 มีนาคม? พ.ศ. 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมปากเปี่ยน ชั้น 5 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง ดร.ถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานพิจารณาการสมัครรับรางวัลเลิศรัฐ ครั้งที่ 1/2567 และผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาผลงาน/โครงการที่หน่วยงานเสนอสมัครรับรางวัลเลิศรัฐประจำปี พ.ศ. 2567 รวมถึงการดำเนินการและกำหนดระยะเวลาในการส่งใบสมัครทางระบบออนไลน์? เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 82 อ่าน : 1 ปี

วันอังคารที่ 12 มีนาคม? พ.ศ. 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมปากเปี่ยน ชั้น 5 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง

ดร.ถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง เป็นป.. 

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ ครั้งที่ 1/2567  เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 14.45 น. ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ ครั้งที่ 1/2567 ผ่านระบบ Hybrid Meeting ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้ตรวจราชการกรม ผู้เชี่ยวชาญด้านความหลากหลายทางชีวภาพด้านการประมงน้ำจืด ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง และหน่วยงานระดับกองที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง? กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กองวิจัยเเละพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล กองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ และกองกฎหมาย รวมถึงสำนักงานประมงจังหวัดที่พบการระบาดของปลาหมอสีคางดำ โดยที่ประชุมได้มีการรายงานผลการดำเนินการโครงการเปิดปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ และได้ร่วมกันพิจารณาร่างแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ ซึ่งมี 5 มาตรการ ประกอบด้วย มาตรการที่ 1 การกำจัดปลาหมอสีคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติด้วยวิธีการจับออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยการจับออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติด้วยเครื่องมือประมงที่มีประสิทธิภาพและเหมาะกับสภาพพื้นที่ มาตรการที่ 2 การกำจัดปลาหมอสีคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติโดยการปล่อยปลาผู้ล่าอย่างต่อเนื่อง มาตรการที่ 3 การกำจัดปลาหมอสีคางดำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ มาตรการที่ 4 การนำปลาหมอสีคางดำที่กำจัดไปใช้ประโยชน์ มาตรการที่ 5 การสร้างความรู้ ความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในการกำจัดปลาหมอสีคางดำ ทั้งนี้ เพื่อควบคุม ป้องกัน และกำจัดประชากรปลาหมอสีคางดำก่อนที่จะรุกรานในวงกว้าง พร้อมติดตามและป้องกันการรุกราน ในพื้นที่ที่ยังไม่พบการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อคืนความสมดุลให้ระบบนิเวศและฟื้นฟูทรัพยากรประมงของไทย #กรมประมง

 65 อ่าน : 1 ปี

เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 14.45 น. ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เป็นประธาน.. 

ณ ห้องประชุม 331 อาคาร 3 สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ  วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 331 อาคาร 3 สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิชาการพิจารณามาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มสัตว์น้ำเพื่อการบริโภค ครั้งที่ 18-1/2567 โดยที่ประชุมรับทราบผลการสัมมนาระดมความเห็นต่อร่างมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มสัตว์น้ำเศรษฐกิจเพื่อการบริโภค เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 และสรุปผลการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองมาตรฐานสินค้าเกษตรด้านประมงและผลิตภัณฑ์ เมื่อวันที่ 15 และ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้นำมาปรับปรุงร่างมาตรฐานสินค้าเกษตรฯ สำหรับพิจารณาในการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาร่างมาตรฐานสินค้าเกษตรฯ โดยเห็นชอบชื่อมาตรฐานภาษาไทยเป็น “มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับสัตว์น้ำเพื่อการบริโภคของอาเซียน” รวมทั้งเห็นชอบให้ปรับปรุงโครงสร้าง (Structure) ของมาตรฐาน เป็น 4 ด้าน ได้แก่ 1.ความปลอดภัยด้านอาหาร 2.ด้านสุขภาพและสวัสดิภาพสัตว์ 3.ด้านสิ่งแวดล้อม และ 4.ด้านเศรษฐกิจ-สังคม เช่นเดียวกับ ASEAN GAqP for Food Fish #กรมประมง

 63 อ่าน : 1 ปี

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 331 อาคาร 3 สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ

นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธ.. 

นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมง ครั้งที่ 1/2567   วันจันทร์ ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมปากเปี่ยน ชั้น 5 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมง ครั้งที่ 1/2567 ผ่านประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meeting พร้อมด้วย นางสาวสรินดา เปลี่ยนแก้ว ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน นายอำนวย คงพรหม ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล นางสาวอังคณา ผลเจริญ ผู้อำนวยการกองบริหารการคลัง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมบัญชีกลาง กรมเจ้าท่า สมาคมต่อเรือและซ่อมเรือไทย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาคุณสมบัติและหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยา สำหรับเรือประมงที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ กลุ่มเรือ 1,007 ลำ และประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 65 อ่าน : 1 ปี

วันจันทร์ ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมปากเปี่ยน ชั้น 5 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง

นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธา.. 

ณ ห้องประชุม 134-135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2567? เวลา? 09.30 น.? ณ ห้องประชุม 134-135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.ถาวร? ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนางสาวณัฐพร สนธิ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 1/2567 และผ่านระบบการประชุมออนไลน์ โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานฯ? โดยที่ประชุมได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานกลั่นกรองการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่มเติม พร้อมทั้งพิจารณาการขอปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวชี้วัดตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รอบ 6 เดือน #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 52 อ่าน : 1 ปี

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2567? เวลา? 09.30 น.? ณ ห้องประชุม 134-135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ดร.ถาวร? ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนา.. 

เข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง เทคโนโลยีกับการขับเคลื่อนสหกรณ์เข้มเเข็ง  วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 9.30 น. ณ โรงเเรมปรินซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพมหานคร นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง เทคโนโลยีกับการขับเคลื่อนสหกรณ์เข้มเเข็ง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า) เป็นประธานเปิดการประชุมฯ ภายในงานมีการจัดเเสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการดำเนินกิจการสหกรณ์ทั่วประเทศ ภายใต้หัวข้อ "เทคโนโลยีกับการขับเคลื่อนสหกรณ์เข้มเเข็ง" จากนั้นได้ร่วมรับฟังปาฐกถาพิเศษจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ โดยท่านได้มอบนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติงาน รวมถึงการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ได้รับความสะดวก รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของสหกรณ์ให้เกิดผลสำเร็จ ให้แก่ข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เเละข้าราชการจากหน่วยงานอื่นๆ ที่เข้าร่วมการประชุมสัมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้กว่า 500 ท่านอีกด้วย #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 52 อ่าน : 1 ปี

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 9.30 น. ณ โรงเเรมปรินซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพมหานคร

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เข้าร่วมในพิธีเปิดการป.. 

ดร.พลพิศิลป์ สุวรรณชัย รักษาการในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการประมง เป็นประธานการประชุมผู้เชี่ยวชาญ กรมประมง โดยมีผู้เชี่ยวชาญกรมประมงเข้าร่วมการประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณางบประมาณด้านการวิจัยของกรมประมง แผนปฏิบัติการด้านการวิจัยและนวัตกรรมกรมประมง ระยะ 5 ปี (พ.ศ 2566 - 2570)  วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง ดร.พลพิศิลป์ สุวรรณชัย รักษาการในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการประมง เป็นประธานการประชุมผู้เชี่ยวชาญ กรมประมง โดยมีผู้เชี่ยวชาญกรมประมงเข้าร่วมการประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณางบประมาณด้านการวิจัยของกรมประมง แผนปฏิบัติการด้านการวิจัยและนวัตกรรมกรมประมง ระยะ 5 ปี (พ.ศ 2566 - 2570) ปรับปรุงคำสั่งต่างๆ แนวทางการติดตามงานวิจัย การจัดการประชุมทางวิชาการ ประจำปี 2567 ปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาการเผยแพร่เอกสารที่ใช้ประกอบการพิจารณาในการปรับระดับ ตลอดจนบทบาทหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญกรมประมง เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจหลักของกรมประมงและแนวนโยบายการปฏิบัติราชการของนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 97 อ่าน : 1 ปี

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง

ดร.พลพิศิลป์ สุวรรณชัย รักษาการในตำแหน่งผู้ทรงค.. 

ณ หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร  เมื่อวันพุธที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมประมงได้มอบหมายให้ นายอำนวย คงพรหม ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล เข้าร่วมการประชุมสามัญประจำปีงบประมาณ 2566 ของมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยมีพลเอกศิวะ ภระมรทัต ผู้แทนพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เป็นประธานการประชุม ร่วมกับคณะกรรมการมูลนิธิฯ โดยในการประชุมครั้งนี้คณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ในปีงบประมาณ 2566 และแผนการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ในปีงบประมาณ 2567 พร้อมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการ ผลการดำเนินโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยฯ เทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน และการบริหารจัดการขยะ กรมประมงในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานกิจกรรมโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการรณรงค์ปลูกจิตสำนึก ได้นำเสนอนิทรรศการผลการดำเนินงานที่สำคัญในปีงบประมาณ 2566 ภายใต้แผนการดำเนินการรณรงค์ ปลูกจิตสำนึกและสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก ด้านการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล และด้านการจัดการขยะทะเล ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานสนองพระดำริฯ เพื่อให้การดำเนินโครงการได้ลุล่วงตามวัตถุประสงค์ ในการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ทะเลหายาก สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล และการจัดการขยะทางทะเล อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นและปลูกจิตสำนึก ให้เยาวชน ชาวประมง และประชาชนได้เห็นถึงคุณค่าของทรัพยากร และรักษาสิ่งแวดล้อมของท้องทะเลให้ประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

 59 อ่าน : 1 ปี

เมื่อวันพุธที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

อธิบดีกรมประมงได้.. 

ณ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายบัญชา สุขแก้ว อธิบกรมประมง มอบหมายให้ นายพลพิศิลป์ สุวรรณชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร? และรักษาราชการในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการประมง ในฐานะหัวหน้าโครงการ เข้าดำเนินการรับข้อตกลง และเซ็นสัญญารับทุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นประโยชน์แก่หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาคเอกชน เกษตรกร และประชาชนที่เกี่ยวข้อง โดยกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่สนับสนุนในการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้มีการอนุมัติการจัดสรรเงินกองทุนฯ ตามกรอบนโยบายด้านเกษตรดิจิทัล (Digital Agriculture) ให้แก่กรมประมง? เพื่อดำเนินโครงการระบบดิจิทัลต้นแบบการตรวจวินิจฉัยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคของสัตว์น้ำระยะไกล (Telemedicine for Aquaculture Animal Health) ซึ่งโครงการนี้เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มต้นแบบการตรวจวินิจฉัยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคของสัตว์น้ำระยะไกล โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยการตรวจวินิจฉัยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคของสัตว์น้ำระยะไกล ให้แก่เกษตรกร ในรูปแบบง่ายๆ รวดเร็ว ทันเวลาและประหยัด ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพื่อประกอบการตัดสินใจเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อผลผลิตสัตว์น้ำและหรือรวมไปถึงการวางแผนการบริหารการเลี้ยง การตรวจวินิจฉัยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคของสัตว์น้ำระยะไกล #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์    

 65 อ่าน : 1 ปี

เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบกรมประมง มอบหมายให้ นา.. 

“ธรรมนัส” มุ่งขับเคลื่อน 9 นโยบายหลัก ย้ำ! กรมประมงเร่งเดินหน้า 7 ข้อสั่งการ เพื่อพัฒนาภาคการประมงไทยสู่การเป็นจ้าวสมุทร  วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การขับเคลื่อนนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กรมประมง” โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมประมงเข้าร่วมกว่า 600 คน ณ ห้องประชุมอานนท์ กรมประมง พร้อมถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ไปยังหน่วยงานส่วนภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ว่า กิจกรรมในวันนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงาน และบุคลากรในสังกัดกรมประมง รวมถึงสร้างการรับรู้ในแนวทางการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิบัติราชการที่ถูกต้อง ชัดเจน เกิดประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายที่กำหนด โดยได้รับเกียรติจาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการเปิดงาน ซึ่งได้เน้นย้ำให้กรมประมงขับเคลื่อนงานตามนโยบายสำคัญและเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการทั้ง 7 ข้อ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวประมง เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนโดยเร็ว ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ภาคการประมงถือเป็นแหล่งสร้างรายได้สำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งการผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือ GDP ภาคการประมงมีมูลค่าสูงถึง 126,240 ล้านบาท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกรมประมงที่ต้องอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรประมง ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องเกษตรกรให้มีความกินดีอยู่ดี ตามเป้าหมายและนโยบายของรัฐบาลด้านการเกษตร ผ่านการขับเคลื่อน 9 นโยบายสำคัญ ดังนี้ 1) จัดตั้งศูนย์บริการประชาชน สนับสนุนการทำงานของศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช และขับเคลื่อนดำเนินงานโครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการประมงให้เกิดผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาด้านการประมงที่มีเอกภาพและเป็นรูปธรรมในภาพรวม 2) ขับเคลื่อนภารกิจ ยกระดับ MR. สินค้าเกษตรด้านประมง ได้แก่ MR. ปลานิล กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล และปลากะพงขาว พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำอย่างต่อเนื่อง 3) ป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟู รับมือภัยแล้ง/ภัยพิบัติธรรมชาติ โดยประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ด้านการวางแผนการรับมือภัยจากธรรมชาติ ควบคู่กับการวางแผนการผลิตลูกพันธุ์สัตว์น้ำจืดและปล่อยลงสู่แหล่งน้ำเพื่อทดแทนสัตว์น้ำที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ภายในปี 2567 จำนวนทั้งสิ้น 256,000,000 ตัว 4) ปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าประมงผิดกฎหมาย โดยบูรณาการทำงานร่วมกับทีมเฉพาะกิจพญานาคราช และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการนำเข้าส่งออกสินค้าประมงผิดกฎหมาย เพื่อยกระดับความเข้มข้นในการป้องกันการลักลอบการนำเข้าและส่งออกสินค้าประมง 5) ผลักดันสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง เป้าหมายกลุ่มเกษตรกรจำนวน 23 กลุ่ม 7 สินค้ามูลค่าสูง ได้แก่ ปลาสวยงาม กุ้งทะเลต้มสุก/แช่แข็ง กุ้งทะเลมีชีวิต ปลานิล กุ้งก้ามกราม ปลากะพงขาว และปูม้า พร้อมวางแผนผลักดันสัตว์น้ำไทยสู่ Soft power ในอนาคต เช่น ปลากัดไทย ปลาพลวงชมพู ปลานิลน้ำไหล เป็นต้น 6) ส่งเสริมเกษตรกร/สถาบันเกษตรกรเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรครบวงจร สนับสนุนโครงการสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น โดยส่งเสริมและพัฒนาอาชีพด้านการประมงจำนวน 200 ชุมชนทั่วประเทศ และเดินหน้าโครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2567 มีเป้าหมายดำเนินการในแหล่งน้ำ 200 แห่งทั่วประเทศ 7) ทำการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พัฒนาสินค้าประมงที่ผลิตภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ได้แก่ สาหร่ายทะเล ไข่น้ำ ปูม้า และกุ้งก้ามกราม รวมถึงมีการดำเนินโครงการฟางมา ปลาโต สนับสนุนให้มีการนำฟางเหลือใช้จากการทำนามาเป็นวัตถุดิบในการสร้างอาหารสัตว์น้ำจากธรรมชาติ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบและลดฝุ่น pm 2.5 จากการเผาฟาง สร้างระบบประกันภัย เกษตรกรไทย สุขใจถ้วนหน้า ผ่านการดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับพี่น้องเกษตรกรและชาวประมง อาทิ โครงการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล โครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง โครงการประกันภัยเรือประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน ฯลฯ 9) บริการทางการเกษตรที่ใช่ เลือกใช้ให้เหมาะสม ด้วยการสนับสนุนโครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มการผลิตด้านประมง นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้มีข้อสั่งการด้านการประมงเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกรและชาวประมงอย่างเร่งด่วนอีก 7 ข้อสั่งการ ประกอบด้วย 1) แก้ไขปัญหาการทำประมง โดยปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายที่มีผลกระทบต่อพี่น้องชาวประมงโดยตรง ซึ่งปัจจุบันกรมประมงได้มีการแก้ไขกฎหมายประมงลำดับรอง จำนวน 19 ฉบับ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... เพื่อให้บทบัญญัติบางประการสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมง เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม และสามารถทำการประมงได้อย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ 2) เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยแปลงสินทรัพย์ภาคการประมงด้วยการเพิ่มมูลค่าบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหรือกระชังและจัดตั้งเป็นกองทุนการประมง 3) สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้เกษตรกรที่ได้รับการพักชำระหนี้ ด้วยการดำเนินโครงการที่ส่งเสริมพัฒนาอาชีพชาวประมงและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำและปล่อยลงสู่แหล่งน้ำเพื่อเป็นแหล่งอาหารและสร้างรายได้ให้กับพี่น้องชาวประมง ซึ่งปัจจุบันมีการดำเนินการแล้วกว่า 107.808 ล้านตัว แบ่งเป็นสัตว์น้ำจืด 48 ชนิด จำนวน 83.490 ล้านตัว และสัตว์ทะเล 11 ชนิด จำนวน 24.318 ล้านตัว 4) พัฒนาพันธุ์สัตว์น้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่งเสริมการใช้สัตว์น้ำพันธุ์คุณภาพดี มูลค่าสูง โดยมีแผนปรับปรุงพันธุ์สัตว์น้ำพันธุ์ดีทั้งหมด 14 สายพันธุ์ เช่น กุ้งก้ามกราม มาโคร 1, ตะเพียนขาวนีโอเมล ฯลฯ และพัฒนาสัตว์น้ำพันธุ์ใหม่ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ กุ้งขาว เพชรดา 1 และกุ้งขาว ศรีดา 1 เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภค 5) การเปิด / ขยายตลาดสินค้าเกษตรต่างประเทศ โดยส่งเสริมการแปรรูปสินค้าประมง และการเจรจาขยายตลาดสินค้าสัตว์น้ำไปยังต่างประเทศ เช่น การส่งออกกุ้งก้ามกรามไปยังประเทศจีน เป็นต้น 6) การขยายผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพัฒนาพื้นที่โครงการหลวงด้านการประมงอย่างต่อเนื่อง 7) ติดตามการดำเนินงานด้านการประมง โดยลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค และรายละเอียดการดำเนินโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม “ผมให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหากฎหมายที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อพี่น้องชาวประมง ซึ่งกรมประมงก็สามารถแก้ไขกฎหมายประมงลำดับรองได้เรียบร้อยแล้วทั้ง 19 ฉบับ การขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) ที่ต้องบูรณาการการทำงานกับหลายภาคส่วน การแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้าประมงเถื่อน ที่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าสัตว์น้ำภายในประเทศ เกษตรกรเสียโอกาสทางการตลาดซึ่งถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศที่จะต้องเร่งแก้ไข โดยมีเป้าหมายเดียวคือช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ชาวประมง ตลอดจนผู้ประกอบธุรกิจภาคประมง ให้มีอาชีพที่มั่นคง และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายในการสร้างศูนย์กลางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด และมีแผนสนับสนุนให้มีการแปรรูปสินค้าประมงทุกจังหวัด เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต กระจายรายได้สู่ชุมชนต่อไป” ...รัฐมนตรีฯกล่าว สำหรับงานในวันนี้ ยังมีการมอบแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิบัติราชการของกรมประมง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยอธิบดีกรมประมง และการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ทำงานให้สนุก ในยุคการเปลี่ยนแปลง” จาก นายเสน่ห์ ศรีสุวรรณ นักพูดชื่อดังที่จะมาบอกเล่าเคล็ดลับในการทำงานอย่างไรให้มีความสุขและเกิดประสิทธิภาพภายใต้การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมอภิปรายประเด็นปัญหา แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์การปฏิบัติราชการกรมประมง เพื่อสร้างความเข้าใจ สร้างแรงจูงใจให้เกิดการต่อยอดแนวความคิดใหม่ ๆ ที่ส่งผลให้การทำงานประสบความสำเร็จ กรมประมงพร้อมที่จะขับเคลื่อนภารกิจตามข้อสั่งการดังกล่าว เพื่อสนับสนุนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการธุรกิจประมง ชาวประมง และเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน อันจะเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการประมงของประเทศไทยต่อไป ...อธิบดีฯ กล่าว

 85 อ่าน : 1 ปี

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ก..