ข่าวกรมประมง

ณ บริเวณหนองเล็งทราย ตำบลป่าแฝก ตำบลเจริญราษฎร์ อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา  วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 ณ บริเวณหนองเล็งทราย ตำบลป่าแฝก ตำบลเจริญราษฎร์ อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมคณะผู้บริหารกรมประมง เข้าตรวจเยี่ยมโครงการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนประมงท้องถิ่น ณ ท่าเรืออเมซอน บ้านสันสลี หมู่ 7 ตำบลเจริญราษฎร์ อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ซึ่งเข้าร่วมโครงการฯ ในปีงบประมาณ 2565 โดยบูรณาการทำงานของหน่วยงานกรมประมงในจังหวัดพะเยา มีการจัดตั้งเขตอนุรักษ์ทรัพยากรประมง พื้นที่ 200 ไร่ สนับสนุนเครื่องมือทำการประมง ปล่อยพันธุ์ปลาและกุ้งก้ามกราม และชุมชนได้ร่วมกันสร้างอาหารธรรมชาติในแหล่งน้ำเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรประมงในพื้นที่ สำหรับ 'หนองเล็งทราย' มีพื้นที่ประมาณ 6,000 ไร่ เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติมีลำห้วยเล็ก ๆ หลายสายไหลเข้าสู่หนองน้ำ เช่น ห้วยหลวงใน ห้วยแม่กระทบ ห้วยเกี๋ยง ห้วยสะแล่ง เป็นต้น บริเวณตอนใต้ของหนองมีฝายน้ำล้น น้ำที่ล้นไหลลงแม่น้ำอิงสู่กว๊านพะเยา ปัจจุบันหนองเล็งทรายมีคูขุดน้ำลึก ดินที่ขุดลอกนำไปสร้างคันดิน ถมหนองน้ำบางส่วน หนองเล็งทราย เป็นระบบนิเวศน้ำจืดที่เป็นน้ำนิ่ง พื้นที่ส่วนใหญ่น้ำท่วมในฤดูฝน และบางส่วนน้ำท่วมตลอดปี เป็นแหล่งทำการประมงของชุมชน ปัจจุบันมีชาวประมงพื้นบ้านจำนวน 40 คน เครื่องมือทำการประมงส่วนใหญ่ใช้ไซดักกุุ้งฝอย ข่าย รันปลาไหล ซึ่งพบว่า ชาวประมงใช้ไซดักกุ้งฝอยจำนวน 10 คน จำหน่าย กิโลกรัมละ 250 บาท สามารถสร้างรายได้กว่าวันละ 400-500 บาท นอกจากนี้ยังมีการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต แบบอารยเกษตรตามแนวพระราชดำริ (ด้านการประมง) โดยการบูรณาการทำงานร่วมกันหลายหน่วยงาน ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมครั้งนี้ได้มี นายสงกรานต์ ไชยา ประธานองค์กรชุมชนฯ และกรรมการกลุ่มฯ ร่วมให้ข้อมูลการดำเนินงาน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มมีสมาชิกทั้งหมด 70 ราย มีพื้นที่ดำเนินงานกว่า 400 ไร่ โดยหน่วยงานกรมประมงในพื้นที่ได้ให้การสนับสนุนพันธ์ุปลา พันธ์ุกุ้ง พร้อมให้ความรู้เรื่องการอนุบาลลูกปลา ลูกกุ้ง และวิธีการลดต้นทุนด้านอาหารสัตว์น้ำโดยนำฟางข้าวเหลือใช้จากการทำนามาสร้างอาหารสัตว์น้ำจากธรรมชาติ (การทำแซนวิชอาหารปลา) ซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาส่งผลให้สมาชิกกลุ่ม และประชาชนในพื้นที่โดยรอบได้รับประโยชน์จากการทำประมงพื้นบ้านเป็นอย่างดี นอกจากนี้ สำนักงานประมงจังหวัดพะเยา ยังได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตรตามแนวพระราชดำริ ด้านการบริหารจัดการน้ำการประมงและปศุสัตว์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายจัดทำโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทฤษฎีใหม่ประยุกต์ อารยเกษตรของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) มาดำเนินโครงการฯ เพื่อขับเคลื่อนงานตามพระราชปณิธาน "สืบสาน รักษาและต่อยอด" ช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งของประชาชนและพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อให้เกิดการพัฒนาแบบบูรณาการอย่างยั่งยืนต่อไป #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 120 อ่าน : 1 ปี

วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 ณ บริเวณหนองเล็งทราย ตำบลป่าแฝก ตำบลเจริญราษฎร์ อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อม.. 

ณ ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนา พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช  วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 08.00 น. ณ ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนา พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย นายกอบศักดิ์ เกตุเหมือน ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอาคม สิงหบุญ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาประมงพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายสำรอง อินเอก หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง นางสาวศิริวรรณ ศรีรัตน์ ประมงอำเภอปากพนัง และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ รองอธิบดีกรมประมงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตกราบบังคมทูลถวายรายงานผลการสนับสนุนการดำเนินงานด้านการประมงในพื้นที่โครงการฯ ในระยะที่ผ่านมา ดังนี้ 1. ผลการดำเนินโครงการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำบริเวณประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิถึงปากอ่าวปากพนัง ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์จากลำคลอง และสร้างความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำระหว่างหน่วยงานของรัฐและชุมชน เพื่อให้เกิดการปรับตัวให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ รวมถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนร่วมกับชุมชนประมงในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม และสามารถใช้ข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญในการจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำให้สอดคล้องกับระบบเปิด - ปิดของประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงค่าคุณภาพน้ำบางประการที่สำคัญ เช่น ค่าความเค็ม ค่าออกซิเจนที่ละลายน้ำ รวมถึงค่าอัลคาไลนิตี้ ค่าความเป็นกรดด่าง แอมโมเนีย ไนไตรท์ หรือค่าออกซิเจนที่แบคทีเรียต้องการ 2. ผลการผลิตพันธุ์สัตว์น้ำจืดเพื่อปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อาทิ กุ้งก้ามกราม ปลาชะโอน ปลาตะเพียนขาว เป็นต้น ซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในลุ่มน้ำปากพนัง ทำให้ชาวประมงมีการจับสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น 3. ผลความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ไสใหญ่ ในการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เรืองแสงสำหรับใช้ในการบำบัดคุณภาพน้ำในการเลี้ยงสัตว์น้ำ และคลองสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันได้ต่อยอดให้เกษตรกรสามารถนำไปขยายใช้ในบ่อเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปู แหล่งน้ำสาธารณะในพื้นที่ของตนเองและที่อื่นได้ ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ มีพระราชปฏิสันถารกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ ให้มีการต่อยอดและขยายผลงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีอาหารบริโภคในครัวเรือน สร้างอาชีพให้แก่ครอบครัวและชุมชน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานความมั่นคงทางอาหารแก่ประชาชนชาวไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในความมั่นคงที่สำคัญของประเทศ #กรมประมง

 91 อ่าน : 1 ปี

วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 08.00 น. ณ ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนา พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรี.. 

การประชุมหน่วยงานกรมประมงในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี  วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ สำนักงานประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดร.ถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานในการประชุมหน่วยงานกรมประมงในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายกำพล ลอยชื่น ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานกรมประมงในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการปฏิบัติงานด้านประมงในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และรับฟังปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานจากข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ต่อมาเวลา? 13.30 น.? รองอธิบดีกรมประมง? ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล "ศรีวิชัยฟาร์ม" เพื่อศึกษาข้อมูลระบบการเลี้ยงกุ้ง? รวมถึงปัญหา?และอุปสรรคในการเพาะเลี้ยง? เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงกุ้งไทยให้เกิดความอย่างยั่งยืนต่อไป #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 57 อ่าน : 1 ปี

วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ สำนักงานประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ดร.ถาวร ทันใจ รอ.. 

ร่วมให้ข้อมูลในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 2/2567  วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 -12.00 น. ณ.หอประชุมพญางำเมือง มหาวิทยาลัยพะเยา นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมให้ข้อมูลในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 2/2567 โดยในช่วง เวลา 09.00 น. อธิบดีกรมประมง ร่วมให้การต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรีและคณะผู้บริหาร ในการตรวจเยี่ยมชมบูธวิสาหกิจชุมชนบ้านโป่งเกลือ (นิลลา) ที่กรมประมงให้การสนับสนุนตามโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นเพื่อแปรรูปสัตว์น้ำและเพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำ มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลานิลตามหลัก BCG Model เช่น กรอบเค็มผสมเนื้อปลานิลแคลเซียมสูง ผงโรยข้าวปลานิลผสมแคลเซียม คุกกี้ปลานิลผสมก้างปลานิล ทั้งนี้ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโป่งเกลือ มีผลผลิต 24,000 กิโลกรัมต่อปี สร้างรายได้ 600,000 บาทต่อปี ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มได้รับการรับรองมาตรฐานประมงธงเขียว และสินค้า OTOP สี่ดาว ต่อจากนั้นในช่วงเวลา 10.00 น คณะรัฐมนตรีได้มีการประชุม และเห็นชอบผ่านกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์รอบปีการทำประมง 67 - 68 โดยมีสาระสำคัญดังนี้ 1. ขยายระยะเวลาให้ชาวประมงชำระค่าธรรมเนียมได้อีก 90 วันตามความจำเป็น 2. เปิดโอกาสให้ชาวประมงที่เรือจมหรือไหม้สามารถนำเรืออื่นมาทดแทนเพื่อทำการประมงต่อไป 3. เพิ่มวิธีการนำเรือออกจากระบบให้สามารถใช้หลักฐานการถอนทะเบียนเรือจากกรมเจ้าท่าอ้างได้เลย 4. ผู้ได้รับใบอนุญาตทำการประมงสามารถขอเครื่องมือเพิ่มเติมหลังได้รับใบอนุญาต 5. สามีหรือทายาทของผู้รับอนุญาตที่เสียชีวิตสามารถขอโอนใบอนุญาตได้โดยไม่ต้องได้รับการโอนกรรมสิทธิ์จากเจ้าท่า 6. ลดข้อกำหนดและเอกสารที่ไม่จำเป็นเพื่อลดภาระในการยื่นคำขอใบอนุญาต 7. ผู้รับอนุญาตสามารถขอย้ายพื้นที่ทำการประมงระหว่างอ่าวไทยและอันดามันได้โดยไม่กระทบสัตว์น้ำในบางช่วงเวลา ซึ่งสาระสำคัญดังกล่าว จะเป็นการช่วยให้พี่น้องชาวประมงได้ผ่อนคลายและสามารถประกอบอาชีพประมงได้อย่างมั่นคงสอดคล้องกับวิถีชาวประมงของประเทศไทย และกรมประมงจะเร่งเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามในประกาศกระทรวงฯ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 78 อ่าน : 1 ปี

วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 -12.00 น. ณ.หอประชุมพญางำเมือง มหาวิทยาลัยพะเยา

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง และคณะผู้บริหาร เข.. 

นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมงเป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานตามประกาศกรมประมง   วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมปากเปี่ยน ชั้น 5 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมงเป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานตามประกาศกรมประมง เรื่อง มาตรฐานด้านสุขอนามัยสำหรับสถานประกอบการแปรรูปสัตว์น้ำและหลักเกณฑ์ในการออกหนังสือรับรอง พ.ศ. 2564 ผ่านระบบการประชุม Hybrid Meeting ร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดทุกจังหวัด โดยมี นางกฤษณา จันทร์แก้ว ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบการรับรองมาตรฐานสินค้าประมงและหลักฐานเพื่อการสืบค้น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม โดยการประชุม ดังกล่าว เป็นการชี้แจงแนวทางการส่งเสริมมาตรฐานด้านสุขอนามัยสำหรับสถานประกอบการแปรรูปสัตว์น้ำ และสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติงานตามประกาศฯ ดังกล่าว ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นแนวทางการส่งเสริมให้ผู้ประกอบกิจการการประมงนำไปใช้ปฏิบัติในกิจการของตน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงสถานประกอบการให้ได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อให้ได้มาตรฐานด้านสุขอนามัยและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 54 อ่าน : 1 ปี

วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมปากเปี่ยน ชั้น 5 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง

นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกร.. 

ณ ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 7(สุราษฎร์ธานี) ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี  เมื่อวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 7(สุราษฎร์ธานี) ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดร.ถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง ลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายกำพล ลอยชื่น ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายนพดล จินดาพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสุราษฎร์ธานี นางธีรยา สรรพวรพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและตรวจสอบคุณภาพสินค้าประมงสุราษฎร์ธานี นายนิธิวัฒน์ วงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ โดยเดินทางเข้าตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 7 สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามความก้าวหน้าการปฏิบัติงานในภารกิจด้านต่าง ๆ เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการสำคัญ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำเสนอผลการปฏิบัติงานและแนวทางการปฏิบัติงานของศูนย์ ฯ ในโอกาสนี้ รองอธิบดีกรมประมง ได้มอบนโยบายในการดำเนินงาน ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหา และสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่ รวมถึงมอบนโยบายในการปฏิบัติงานเพื่อให้การดำเนินงานภารกิจต่าง ๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย?และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ได้เดินทางเข้าพบผู้ประกอบการแปรรูป "ปูทะเล" เพื่อสอบถามปัญหาและอุปสรรคในการประกอบกิจการโดยได้แนะนำการลดขั้นตอนซื้อสัตว์น้ำจากเรือประมงพื้นบ้านเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชาวประมงมากยิ่งขึ้น ต่อมาเวลา 16.00 น. ได้เดินทางเข้าพบผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงหอยนางรม ณ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสอบถามปัญหาและอุปสรรคในการเพาะเลี้ยงหอยนางรม รวมถึงการรวมกลุ่มแปลงใหญ่หอยนางรม เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยนางรมอย่างยั่งยืนต่อไป #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 77 อ่าน : 1 ปี

เมื่อวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 7(สุราษฎร์ธานี) ตำบลบางกุ้ง อำเภอเ.. 

ณ ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช  วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. ณ ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย นางสาวชอุ่ม สุขช่วย หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง รักษาราชการแทนประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช นางสาวนิภา กาลศรี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครศรีธรรมราช นางสาวศิรประภา ชินรัตน์ ประมงอำเภอทุ่งสง และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินโครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ รองอธิบดีกรมประมงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต ถวายรายงานผลการสนับสนุนของกรมประมงด้านต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินงานสำเร็จลุล่วงเป็นไปตามพระราชประสงค์ อาทิ การสนับสนุนงานทางวิชาการ ตลอดจนเป็นพี่เลี้ยงฝึกปฎิบัติให้กับเจ้าหน้าที่กองกำลัง มณฑลทหารบกที่ 43 ในเรื่องเกี่ยวกับการเพาะขยายพันธุ์กบจานนา จนได้ผลผลิตลูกพันธุ์กบดังกล่าว สามารถนำไปต่อยอด ขยายผลสู่ชุมชนและโรงเรียนต่าง ๆ รวมถึงการสนับสนุนจุลินทรีย์ ปม.1 เพื่อนำไปใช้บำบัด และปรับปรุงคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงกบให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องด้วย #กรมประมง

 151 อ่าน : 1 ปี

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. ณ ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประม.. 

เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานประมงในพื้นที่ ลงพื้นที่จังหวัดพะเยา  วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย ผู้บริหารกรมประมง ประกอบด้วย นายสุชาติ แสงจันทร์ และนางธิติพร หลาวประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกรม นายเดชา ปรัชญารัตน์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย นายพัฒนพงศ์ ชูแสง ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ นายวรัณญู ขุนเจริญรักษ์ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานประมงในพื้นที่ ลงพื้นที่จังหวัดพะเยา ร่วมกับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามภารกิจ ดังนี้ เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมศูนย์บัญชาการ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดพะเยา เข้าร่วมการประชุมกรณีสภาประชาชนยื่นหนังสือร้องเรียน โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม เวลา 14.30 น. ร่วมกับคณะนายกรัฐมนตรี เข้าตรวจ ติดตามงานจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวกอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและการพัฒนาพื้นที่ก่อสร้างที่ทำการด่านชายแดน ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก โดยมี นายกิตติพัทธ์ แก้วใส ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 1 (เชียงราย) ให้การต้อนรับและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าด้านประมงที่เข้า - ออก ยังบริเวณด่านชายแดนแห่งนี้ เวลา 17.00 น นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะฯ ได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 510,099 ตัว ลงสู่กว๊านพะเยาเพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศและเป็นแหล่งโปรตีนให้กับพี่น้องชาวพะเยา โดยพันธุ์สัตว์น้ำที่ทำการปล่อย ประกอบด้วย ปลาบึก ขนาด 8-10 กก. จำนวน 9 ตัว, ปลาบึก ขนาด 5-7 นิ้ว จำนวน 90 ตัว, กุ้งก้ามกราม ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 100,000 ตัว, ปลากินพืช (ปลาตะเพียนขาว, ปลาปีกแดง) ขนาด 1-2 นิ้ว 400,000 ตัว และปลายี่สกไทย ขนาด 2 นิ้ว 10,000 ตัว ในโอกาสนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้กรมประมงเร่งดำเนินการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วประเทศเพื่อเป็นแหล่งอาหารและสร้างอาชีพให้ราษฎร โดยโอกาสนี้ คณะรัฐมนตรีและคณะผู้บริหารได้เดินทางมายังอุทยานการเรียนรู้ TK Park ริมกว๊านพะเยา เพื่อรับชมการนำเสนอนิทรรศการข้อมูลการบริหารจัดการกว๊านพะเยาในภาคการประมง #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 72 อ่าน : 1 ปี

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย ผู้บริหารกรมประมง ประกอบด้วย นายสุชาติ แสงจันทร์ และนางธิติพร หลาวประเสริฐ ผู.. 

อธิบดีกรมประมง...เยี่ยมชมความสำเร็จ “โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำ แหล่งน้ำหนองบัว จ.พะเยา” หลังเปิดจับสัตว์น้ำ 3 ปี ได้มากกว่า 4.6 ตัน สร้างรายได้คืนชุมชนกว่า 3 แสนบาท  นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากนโยบายของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการส่งเสริมเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ภายใต้การดำเนินการขององค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น ก่อให้เกิดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมา กรมประมงได้ขับเคลื่อนการดำเนิน “โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม” อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชนให้เป็นแหล่งผลิตสัตว์น้ำของชุมชน ภายใต้หลักการ “ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผลประโยชน์ และร่วมติดตามประเมินผล” ส่งผลให้ปัจจุบันมีธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำเกิดขึ้นกว่า 160 แห่ง ในพื้นที่ 50 จังหวัดทั่วประเทศ มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 10,851 ราย มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตในแหล่งน้ำกว่า 26 ล้านตัว สามารถจับสัตว์น้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่า 457 ตัน เกิดรายได้เข้ากองทุนโครงการฯ กว่า 15.8 ล้านบาท และปันผลคืนให้แก่สมาชิกแล้วมากกว่า 1.4 ล้านบาท โดยในปี 2567 กรมประมงเตรียมขยายการดำเนินการในแหล่งน้ำใหม่เพิ่มเติมอีก 20 แห่ง และยังคงติดตามการดำเนินการในแหล่งน้ำเก่า 60 แห่ง เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน สำหรับธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม “แหล่งน้ำหนองบัว” ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านไคร้ป่าคา ตำบลน้ำแวน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา มีเนื้อที่กว่า 29 ไร่ เดิมแหล่งน้ำแห่งนี้มีการใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรเท่านั้น แต่เมื่อปี 2564 กรมประมงได้เข้ามาดำเนินการจัดตั้งโครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วมโดยการบริหารจัดการแหล่งน้ำหนองบัว และจดทะเบียนเป็นองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มรายได้และสร้างเป็นแหล่งอาหารสัตว์น้ำให้กับคนในชุมชน จนปัจจุบันมีสมาชิกเข้าร่วมโครงการจำนวน 148 ราย ระดมหุ้นได้เป็นเงิน 38,500 บาท มีการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำโดยร่วมกันอนุบาลลูกปลาในกระชังเพื่อเพิ่มอัตราการรอดก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำและจำหน่าย จำนวน 415,010 ตัว มีการเลี้ยงหอยขมในกระชังเพื่อเป็นทางเลือกในการเสริมรายได้ให้กับคนในชุมชน และลดต้นทุนด้านอาหารสัตว์น้ำโดยนำฟางข้าวเหลือใช้จากการทำนามาสร้างอาหารสัตว์น้ำจากธรรมชาติ (การทำแซนวิชอาหารปลา) นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม หนองบัว ฟิชชิ่ง ปาร์ค เปิดโอกาสให้คนในชุมชนสามารถจับสัตว์น้ำจากแหล่งน้ำหนองบัวได้ โดยสัตว์น้ำภายใต้โครงการฯ ที่สามารถจับได้ ประกอบด้วย ปลานิล ปลานวลจันทร์เทศ ปลายี่สกเทศ ปลากระแห ปลาสร้อยขาว ปลาไน และกุ้งก้ามกราม ซึ่งจากการเปิดจับสัตว์น้ำตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบันสามารถสร้างรายได้เข้ากองทุนโครงการฯ ทั้งหมด 147,000 บาท มีการจับสัตว์น้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้กว่า 4.65 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 แสนบาท อธิบดีฯ กล่าวในตอนท้ายว่า โครงการฯ แหล่งน้ำหนองบัวแห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ประสบผลสำเร็จเห็นเป็นรูปธรรมกลายเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการแหล่งน้ำให้เป็นศูนย์กลางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของชุมชน สามารถผลิตอาหารสัตว์น้ำให้เพียงพอต่อการบริโภค เสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร เป็นการลดรายจ่ายและสร้างรายได้ ภายใต้แนวคิด “สร้าง การมีส่วนร่วม เสริม ทักษะองค์ความรู้ เพิ่ม ผลผลิตสัตว์น้ำ ยก ระดับคุณภาพชีวิต พัฒนา ความยั่งยืนของเครือข่าย” เกิดเงินทุนหมุนเวียนสร้างเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนได้อย่างยั่งยืนต่อไป

 57 อ่าน : 1 ปี

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากนโยบายของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการส่งเสริมเกษตรกรและสถา.. 

การประชุมคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ภายใต้กรอบ Southern Indian Ocean Fisheries Agreement (SIOFA) ครั้งที่ 9 (The 9th Scientific Committee Meeting: SC9)  วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 ณ โรงแรม เดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ อธิบดีกรมประมงมอบหมายให้ นางสาวสัมพันธ์ ปานจรัตน์ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง กรมประมง เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ภายใต้กรอบ Southern Indian Ocean Fisheries Agreement (SIOFA) ครั้งที่ 9 (The 9th Scientific Committee Meeting: SC9) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเข้าร่วมพิธี ซึ่งการประชุมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 27 มีนาคม 2567 ณ โรงแรม เดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนจากประเทศภาคีสมาชิก SIOFA และนักวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมการประชุม เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ระหว่างกลุ่มภาคีสมาชิก SIOFA และองค์กรระหว่างประเทศ ในการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำและระบบนิเวศทางทะเล ภายใต้เขตพื้นที่ SIOFA ให้มีความยั่งยืน และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

 59 อ่าน : 1 ปี

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 ณ โรงแรม เดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ อธิบดีกรมประมงมอบหมายให้ นางสาวสัมพันธ์ ปานจรัตน์ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผน..