ผู้พิชิตแห่งท้องทะเล

ผู้พิชิตแห่งท้องทะเล 


ผู้พิชิตแห่งท้องทะเล
ยุคแห่งการค้นพบ

ยุคแห่งการค้นพบเริ่มขึ้นด้วยนักผจญภัยทางทะเลผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งค้นหาเส้นทางการค้าเครื่องเทศในแถบตะวันออกไกล เมื่อเส้นทางด้านทะเลเมดิเตอเรเนียนตะวันออกถูกสกัดกั้นไว้ด้วยคู่แข่งที่มีอำนาจมาก เมื่อวาสโก ดากามา แล่นเรือรอบแหลมกู๊ดโฮปเพื่อเดินทางไปสู่อินเดียใน ค.ศ. 1488 เป็นช่วงที่ชาวโปรตุเกสต่างพยายามหาทางเดินทางไปสู่ทางใต้และทางตะวันออก ส่วนชาวสเปนที่ได้ตกลงกับชาวโปรตุเกสให้แบ่งโลกเป็นสองส่วนตามสนธิสัญญาทอร์เดซิลิอัส เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1494 ได้แล่นเรือไปทางตะวันตก โดยที่ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับทวีปอเมริกาเลย และก็ไม่มีใครรู้ว่ามีมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (ค.ศ. 1451-1506) ชาวอิตาลีซึ่งได้ย้ายไปอยู่ประเทศสเปน ได้เสนอทฤษฎีไว้ว่า ในเมื่อโลกเป็นทรงกลม เรือก็ควรจะไปยังฝั่งตะวันออกไกลได้จากทิศทางที่ตรงกันข้าม เขาได้โน้มน้าวให้กษัตริย์และพระราชินีช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางค้นหาของเขา โดยเริ่มออกเรือในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1492 เมื่อเวลาผ่านไป 10 สัปดาห์ เขาก็มองเห็นเกาะแห่งหนึ่งในบาฮามาส ซึ่งเขาตั้งชื่อว่าซาน ซัลวาดอร์ โคลัมบัสคิดว่าพบเกาะที่อยู่ใกล้ญี่ปุ่น เขาจึงเดินเรือต่อไปจนถึงคิวบา (ซึ่งเขาคิดว่าเป็นประเทศจีน) และเฮติ แล้วเขาก็ได้พบผู้คนผิวคล้ำซึ่งเขาเรียกว่า “ชาวอินเดีย” เพราะคิดว่าตนเองได้แล่นเรือมาถึงมหาสมุทรอินเดียแล้ว

โคลัมบัสได้เดินทางสู่โลกใหม่ที่เขาคิดว่าเป็นซีกโลกตะวันออก อีก 3 ครั้ง ใน ค.ศ. 1493 ค.ศ. 1497 และ ค.ศ. 1502 โดยสำรวจไปทางเปอร์โตริโก เวอร์จินไอส์แลนด์ จาเมก้า และตรินิแดด แต่เขาไม่เคยไปถึงทวีปอเมริกาเหนือ และคิดว่าตนได้ไปถึงทวีปเอเชียแล้วจนกระทั่งเขาเสียชีวิตลง

ทวีปอเมริกาเหนือถูกค้นพบแล้ว

เรือไวกิ้งได้แล่นไปถึงอเมริกาเหนือก่อนที่โคลัมบัสจะเริ่มเดินเรือเกือบ 500 ปี บิอาร์นี่ เฮริออล์ฟซอน เริ่มเดินเรือจากไอซ์แลนด์ในช่วงกลาง ค.ศ. 990 แล้วเรือของเขาก็ถูกพัดออกนอกเส้นทางและไปขึ้นฝั่งที่ดินแดนแห่งหนึ่งซึ่งไม่รู้จัก แต่เขาไม่ได้สำรวจหรือตั้งชื่อดินแดนดังกล่าว ใน ค.ศ. 1002 เลฟร์ เอริกสัน ( ได้เดินทางซ้ำรอยของบิอาร์นี่ และไปถึงชายฝั่งที่เป็นประเทศแคนาดาในปัจจุบัน ในตอนนั้นเขาได้เดินเรือไปทางใต้และพบเกาะที่เขาเรียกชื่อว่าวินแลนด์ (ปัจจุบันคือนิวฟันด์แลนด์) ที่ซึ่งเขาตั้งอาณานิคม และทำการค้าอยู่เป็นเวลา 3 ปี กับชาวพื้นเมืองที่เรียกกันว่าชาวสเกรลลิ่ง ในที่สุดชาวสเกรลลิ่งก็ไล่เขาออกไป แต่ชาวไวกิ้งก็ยังคงแล่นเรือไปยังแคนาดาเพื่อหาซุงต่อไป

"ดินแดนที่ค้นพบใหม่"

ใน ค.ศ. 1497 กษัตริย์เฮนรี่ที่ 8 มีพระบรมราชานุญาตให้ จอห์น คาบอท (ค.ศ. 1450-1498) เดินทางสำรวจ ดังนั้นในวันที่ 2 พฤษภาคม คาบอทและคณะจำนวน 18 คน ออกเดินทางจากเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ ด้วยเรือลำเล็กๆ ชื่อ “แมทธิว” เขาแล่นเรือไปทางเหนือไกลกว่าที่โคลัมบัสเคยไป ซึ่งออกนอกอาณาเขตของสเปน ในวันที่ 24 มิถุนายน คณะเดินทางก็มองเห็นแผ่นดิน โดยคาบอทเชื่อว่าเขาได้พบเกาะนอกชายฝั่งของทวีปเอเชีย และตั้งชื่อว่า "ดินแดนที่ค้นพบใหม่” (new found land) ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางสู่นิวฟันด์แลนด์ครั้งแรก ที่ได้รับการบันทึกไว้นับตั้งแต่สมัยที่ชาวไวกิ้งเดินทาง คาบอทได้เดินทางกลับสู่ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1497 และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้นำเครื่องเทศหรือสมบัติใดๆ กลับไปด้วย แต่เขาก็เป็นคนแรกที่เดินทางสำรวจชายฝั่งอเมริกาเหนืออย่างจริงจัง

การตั้งชื่อ "อเมริกา"

เส้นแบ่งเขตแดนโปรตุเกสและสเปนนั้นได้ลากผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก โดยที่สเปนได้ดินแดนทางด้านตะวันตก รวมทั้งอเมริกา ส่วนบราซิลเป็นของโปรตุเกส ซึ่งได้ดินแดนแอฟริกาตะวันออก และอินเดีย แต่ด้วยเหตุที่ว่าไม่มีการวัดขนาดพื้นที่อย่างชัดเจน จึงยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเส้นแบ่งเขตแดนที่แท้จริง ใน ค.ศ. 1501 กษัตริย์มานูเอลที่ 1 แห่งโปรตุเกสจึงจัดส่งกองเรือเดินทางไปยังบราซิล โดยมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง เป็นชาวอิตาลี มีนามว่า อเมริโก เวสปุสซี่ เขาเป็นหนึ่งในนักสำรวจกลุ่มแรกที่ รายงานว่าอเมริกาใต้นั้นเป็นทวีป ไม่ใช่แค่เกาะ โดยเขาขนานนามว่า "โลกใหม่" และเวสปุสซี่นักทำแผนที่ชั้นยอด ก็ได้ขายสำเนาแผนที่ของเขาหลายฉบับ ให้แก่นักเขียนแผนที่ชาวเยอรมันชื่อมาร์ติน วาล์ดเซมุลเลอร์ ผู้ให้เกียรติเวสปุสซี่ โดยเขียนชื่อแรกของเขาลงในทวีปอเมริกาใต้ เมื่อวาล์ดเซมุลเลอร์ได้เขียนแผนที่นั้นใหม่ใน ค.ศ. 1507 ตั้งแต่นั้นมาทวีปที่อยู่ทางด้านใต้นี้จึงเป็นที่รู้จักกันในนาม "อเมริกา"