ข่าวกรมประมง

ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เข้าร่วมการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 2/2567 โดยมีร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม พน้อมด้วยนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำ และการแก้ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย ความก้าวหน้าผลการทำข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับหน่วยงานภายนอก และแผนการติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนนโยบายและข้อสั่งการสำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์    

 46 อ่าน : 1 ปี

วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เข้าร่วมการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเ.. 

ดร.พลพิศิลป์ สุวรรณชัย รักษาการในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการประมง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานและบุคคลภายนอกกรมประมง ครั้งที่ 1/2567  วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง หรือผ่านระบบการประชุมทางไกล Zoom Cloud Meetings ดร.พลพิศิลป์ สุวรรณชัย รักษาการในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการประมง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานและบุคคลภายนอกกรมประมง ครั้งที่ 1/2567 โดยมีกองยุทธศาสตร์และแผนงาน ทำหน้าที่เลขานุการการประชุม เพื่อทราบการขอความอนุเคราะห์บุคลากรกรมประมงร่วมเป็นคณะทำงานในโครงการวิจัย เรื่อง การศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ วิถีชีวิต ความมั่นคงทางอาหารและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาระบบนิเวศวิทยาทางน้ำลุ่มน้ำยม และรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการพิจารณาการทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานและบุคคลภายนอกกรมประมง ปีงบประมาณ 2566 รวมถึงพิจารณาโครงการวิจัยที่ขอรับการพิจารณาการทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานและบุคคลภายนอกกรมประมงปีงบประมาณ 2567 โดยมี ผู้เชี่ยวชาญกรมประมง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ทั้งนี้ ผู้ร่วมวิจัยที่เป็นบุคลากรกรมประมงได้ชี้แจงข้อมูลความร่วมมือโครงการวิจัยร่วมฯ ดังนี้ กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จำนวน 1 เรื่อง ได้แก่ โครงการวิจัย การติดฉลากสีในหอยทะเล เพื่อประเมินผลสำเร็จการปล่อยลูกพันธุ์ลงแหล่งน้ำธรรมชาติ (ระยะที่ 1) กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล จำนวน 3 เรื่อง ได้แก่ (1) โครงการวิจัย Implementation of Ecosystem-based Fisheries Management - Combining Aggregate Production Models and Ecosystem Indicators in the Gulf of Thailand (การประยุกต์แนวทางการบริหารจัดการประมงเชิงระบบนิเวศ โดยการผสมผสานแบบจำลองเชิงผลผลิตหลายชนิดพันธุ์ และตัวชี้วัดของระบบนิเวศในอ่าวไทย) (2) โครงการวิจัย การปนเปื้อนของขยะประเภทไมโครพลาสติกในปูม้า (Portunus pelagicus Linnaeus, 1758) ที่ได้จากการทำการประมงพื้นบ้านในพื้นที่จังหวัดระยอง (3) โครงการวิจัย การปนเปื้อนของขยะประเภทไมโครพลาสติกในหอยหวาน (Babylonia areolate Link, 1807) ที่ได้จากการทำการประมงพื้นบ้านในพื้นที่จังหวัดระยอง ราชการบริหารส่วนกลาง (ผู้เชี่ยวชาญ) จำนวน 1 เรื่อง ได้แก่ โครงการวิจัย การประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพและทดสอบการใช้แบคทีเรียโปรไบโอติกที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อแบคทีเรียก่อโรค (Streptococcus agalactiae, Aeromonas jandaei และ A. veronii) ในปลานิล/ปลาทับทิมในฟาร์มเพาะเลี้ยงจริง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณากำหนดขั้นตอนและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานและบุคคลภายนอกกรมประมง เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประโยชน์โดยรวมสูงสุด #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 78 อ่าน : 1 ปี

วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมพะยูน ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง หรือผ่านระบบการประชุมทางไกล Zoom Cloud Meetings

<.. 

กรมประมง...คว้า “รางวัลการพัฒนาดีเด่น” จากกรมบัญชีกลาง ในงานทุนหมุนเวียนฯ ประจำปี 66   วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องจูปิเตอร์ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง เข้ารับรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2566 “ด้านการพัฒนาดีเด่น” จาก นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในงาน “ทุนหมุนเวียน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน” ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมบัญชีกลาง เพื่อยกย่อง เชิดชู หน่วยงานที่มีผลการดำเนินงานเงินทุนหมุนเวียนระดับดีเลิศในด้านต่าง ๆ นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังเข้ารับรางวัลฯ ว่า กรมประมงได้มีการดำเนินงานเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตพันธุ์ปลา พันธุ์กุ้ง และพันธุ์สัตว์น้ำอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 2523 จนถึงปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงลูกพันธุ์สัตว์น้ำที่มีคุณภาพดี ด้วยการเพาะพันธุ์และจำหน่ายในราคาที่เหมาะสมผ่านหน่วยงานในสังกัดกรมประมงทั้ง 88 แห่งทั่วประเทศ โดยมีแผนการผลิตลูกพันธุ์สัตว์น้ำครอบคลุมสัตว์น้ำ 206 ชนิด จำนวนกว่า 280 ล้านตัวต่อปี ซึ่งกรมประมงได้มีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตพันธุ์สัตว์น้ำ วิเคราะห์สถานการณ์ด้านการผลิตและด้านการตลาดพันธุ์สัตว์น้ำที่สำคัญทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ติดตามและประเมินผลความพึงพอใจของลูกค้าต่อการรับบริการ และพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้ได้ลูกพันธุ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียนฯ โดยส่งเสริมให้มีการพัฒนาประสิทธิภาพบุคลากรในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปฏิบัติงาน และเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง Facebook, LineOA, Tiktok, Youtube รวมถึงในปีนี้ได้มีการพัฒนาระบบจำหน่ายลูกพันธุ์สัตว์น้ำออนไลน์ (FisheriesFry Shop) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองและเลือกซื้อลูกพันธุ์สัตว์น้ำผ่านเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับงานมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2566 จัดขึ้นเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่หน่วยงานที่มีผลการดำเนินงานผ่านเกณฑ์มาตรฐาน สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ โดยมีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติทั้งหมด 5 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลเกียรติยศ รางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น รางวัลการพัฒนาดีเด่น รางวัลประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการดีเด่น และรางวัลผู้บริหารทุนหมุนเวียนดีเด่น โดยกรมประมงได้รับรางวัลการพัฒนาดีเด่นซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่หน่วยงานที่ผลการดำเนินงานมีการพัฒนาอย่างโดดเด่น และผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งหมด 6 ด้าน ได้แก่ ด้านการเงิน ด้านการสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้านการปฏิบัติการ ด้านการบริหารจัดการทุนหมุนเวียน ด้านการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริหาร ผู้บริหารทุนหมุนเวียน พนักงานและลูกจ้าง และด้านการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล จึงนับเป็นรางวัลที่แสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของกรมประมงที่จะพัฒนางานเงินทุนหมุนเวียนฯ รวมถึงเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานแก่ผู้บริหารตลอดจนผู้ปฏิบัติงานเงินทุนหมุนเวียนฯ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป...รองอธิบดีฯ กล่าวในตอนท้าย

 55 อ่าน : 1 ปี

วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องจูปิเตอร์ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง เข้ารับรางว.. 

พิธีถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี   วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 08.00 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมี นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง นายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง คณะผู้บริหารหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมพิธีฯ ณ บริเวณด้านหน้าอาคาร 1 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #กรมประมง

 81 อ่าน : 1 ปี

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 08.00 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีถวายความจงรักภักดีและสำนึ.. 

กรมประมง...รุดแจ้งความดำเนินคดี 3 บริษัท ตรวจพบ “สวมสิทธิ” เอกสารการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไปต่างประเทศ  เมื่อเวลา 13.40 น. วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการนำเข้า - ส่งออก สินค้าประมงผิดกฎหมาย กรมประมง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเอกชนผู้ส่งออก 3 บริษัท กรณีสวมสิทธิเอกสารการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไปต่างประเทศ หวั่น!! เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อการส่งออกสินค้าประมงทั้งระบบ จ่อกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศไทย นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากกรณีที่ผู้แทนสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยได้เข้าพบเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อขอให้กรมประมงดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบริษัทเอกชนผู้ส่งออกสินค้าสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ถูกสวมสิทธิเอกสารการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไปยังต่างประเทศ กรมประมง โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการนำเข้า - ส่งออก สินค้าประมงผิดกฎหมาย ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามการนำเข้า – ส่งออกสินค้าประมง จึงได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการส่งออกของผู้ส่งออกที่ยื่นขอแจ้งดำเนินการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำต่อกรมประมงเพื่อหาข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ซึ่งปรากฎว่า พบการแจ้งข้อมูลในเอกสารยื่นขอแจ้งดำเนินการส่งออกเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยมีการปลอมแปลงเอกสารราชการ ใช้เอกสารราชการปลอม และยังพบการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จลงในระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการนำเข้า - ส่งออก สินค้าประมงผิดกฎหมาย จึงได้ทำการขยายผลการตรวจสอบเพิ่มเติมในบริษัทเอกชนอีกหลายแห่ง พบว่ามีพฤติกรรมการยื่นขอส่งออกสินค้าสัตว์น้ำโดยผิดกฎหมายในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว สร้างความเสียหายต่อการส่งออกสินค้าประมงทั้งระบบ อีกทั้งยังกระทบความมั่นคงทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศไทย ถึงขั้นอาจทำให้ประเทศคู่ค้าระงับการนำเข้าสินค้าประมงของไทยได้ อธิบดีกรมประมง กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการป้องกัน ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าประมงผิดกฎหมาย กรมฯ จึงมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการนำเข้า - ส่งออก สินค้าประมงผิดกฎหมาย ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับบริษัทผู้ส่งออกและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จำนวน 3 บริษัท ในข้อกล่าวหาตามมาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 158 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม, มาตรา 137 มาตรา 265 มาตรา 268 แห่งประมวลกฎหมายอาญา, มาตรา 14 (2) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต่างกรรมต่างวาระกัน รวมจำนวน 15 กรรม และหากพนักงานสอบสวนพบการกระทำความผิดในข้อกล่าวหาตามกฎหมายอื่นเพิ่มเติม ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป

 53 อ่าน : 1 ปี

เมื่อเวลา 13.40 น. วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการนำเข.. 

ณ ห้องประชุมมูลนิธิชัยพัฒนา "โครงการรวมกันสู้ อยู่อย่างพร้อม" อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี  เมื่อวันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมมูลนิธิชัยพัฒนา "โครงการรวมกันสู้ อยู่อย่างพร้อม" อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย นายโยธิน เทอดวงศ์วรกุล ผู้อำนวยการกองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ นางพรทิพย์ นวลอนงค์ ประมงจังหวัดลพบุรี นางณพัชร สงวนงาม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลพบุรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตามผลความก้าวหน้าการพัฒนาความสามารถ การเสริมสร้างศักยภาพ การสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม และการแก้ไขปัญหา รวมถึงการส่งเสริมอาชีพด้านการประมง ภายใต้ โครงการ "นำร่อง" การแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตร โดยน้อมนำแนวพระราชดำริปรับใช้ในพื้นที่ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ซึ่งโครงการดังกล่าว ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายประยูร อินสกุล) ได้มีดำริให้ทุกส่วนราชการในสังกัด ร่วมบูรณาการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรแบบครบวงจร เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึง ได้รับการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบปัญหาอุทกภัย สามารถสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารในชุมชนได้อย่างพอเพียงและยั่งยืน สำหรับการดำเนินงานพื้นที่ดังกล่าว กรมประมงได้ดำเนินกิจกรรมเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชน โดยได้ร่วมกับชุมชนดำเนินการบริหารจัดการด้านการประมงในแหล่งน้ำ เพื่อให้เกิดแหล่งอาหารประจำหมู่บ้าน จำนวน 14 บ่อ โดยเน้นการมีส่วนร่วม และสนับสนุนให้มีการจัดตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นในการเลี้ยงสัตว์น้ำ และต่อยอดไปถึงการแปรรูปสัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ ซึ่งจากการประเมินผลการดำเนินกิจกรรมด้านการประมงที่ผ่านมา พบว่า ชุมชนได้ให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานอย่างเป็นระบบ และมีความตั้งใจในการดำเนินกิจกรรม ส่งผลให้มีผลผลิตด้านการประมงอย่างต่อเนื่อง สามารถนำมาแปรรูปและจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ประมงของโครงการ นอกจากนี้ เกษตรกรยังได้พัฒนาความสามารถในการเพาะพันธุ์ปลาโดยใช้ชุดเพาะฟักแบบเคลื่อนที่ (Mobile Hatchery) เพื่อนำพันธุ์สัตว์น้ำไปปล่อยเพิ่มผลผลิตในแหล่งน้ำชุมชน ซึ่งจะสามารถทดแทนการสนับสนุนลูกพันธุ์ปลาจากหน่วยงานภาครัฐและพึ่งพาตัวเองได้ในอนาคต จากนั้น รองอธิบดีกรมประมง ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมและติดตามการดำเนินกิจกรรมประมงโรงเรียน ในพื้นที่โรงเรียนวัดหนองเมือง อำเภอบ้านหมี่ ซึ่งกรมประมงได้ให้การสนับสนุนความรู้ทางวิชาการ สร้างจุดเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ และการเลี้ยงกบในกระชัง ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าโรงเรียนสามารถดำเนินกิจกรรมได้เป็นอย่างดี มีผลผลิตสัตว์น้ำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารให้นักเรียนบริโภคเป็นอาหารกลางวัน และเหลือจำหน่ายในชุมชนเป็นรายได้เข้าสหกรณ์โรงเรียน ทั้งนี้ ในปัจจุบันโรงเรียนได้ประสบปัญหาบ่อดินที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์น้ำตื้นเขิน จึงได้ร่วมหาแนวทางแก้ไข โดยวางแผนการขุดลอกพื้นบ่อ และปรับคันดินโดยรอบ เพื่อให้เหมาะสมในการเลี้ยงสัตว์น้ำ และใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ต่อไป โดยในการลงพื้นที่ดังกล่าว มี ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ฤทธิ์ ทองดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพุคา กำนัน คณะผู้บริหาร ผู้แทนชุมชน เกษตรกร นางสาวกาญจนา กันหาภัย ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหนองเมือง และคณะครู ให้การต้อนรับและสนับสนุนข้อมูลเป็นอย่างดียิ่ง หลังจากนั้นในช่วงเย็นได้เดินทางตรวจเยี่ยมการดําเนินงาน และให้กำลังใจในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่กรมประมง ณ สำนักงานประมงจังหวัดลพบุรีด้วย   #กรมประมง

 84 อ่าน : 1 ปี

เมื่อวันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมมูลนิธิชัยพัฒนา "โครงการรวมกันสู้ อยู่อย่างพร้อม" อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบ.. 

ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ CA 429 อาคารรัฐสภา  วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ CA 429 อาคารรัฐสภา นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนางสาวสรินดา เปลี่ยนแก้ว ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน? นายอานันต์ อัลมาตร์ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบเรือประมง สินค้าสัตว์น้ำและปัจจัยการผลิต และนางพิชญา ชัยนาค รักษาการแทนผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง? เข้าร่วมประชุมชี้แจงงบประมาณต่อคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษายุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2567 ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ 2561 - 2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ 2566 - 2580) (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (พ.ศ. 2566 - 2570) และนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในส่วนของกรมประมง #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 72 อ่าน : 1 ปี

วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ CA 429 อาคารรัฐสภา

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยนางสา.. 

เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ครั้งที่ 1/2567 (ครั้งที่ 253)  วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.00 น. ณ? ห้องประชุมทูน่า ชั้น 6 อาคารจุฬาภรณ์? กรมประมง นายประพันธ์? ลีปายะคุณ? รองอธิบดีกรมประมง? พร้อมด้วยนางสาวณาตยา ศรีจันทึก ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการประมง และเจ้าหน้าที่จากกองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง? เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ครั้งที่ 1/2567 (ครั้งที่ 253) โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ผ่านการประชุมทางไกลระบบ VDO Conference Zoom Meeting จากห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมได้นำเสนอการอนุมัติแผนการดำเนินงานกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร, การปรับแผนการช่วยเหลือสินค้าเกษตร ภายใต้แผนการดำเนินงานกองทุนรวม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร, รายงานผลการอนุมัติเงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และรายงานสถานะการเงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ประจำปีงบประมาณ 2567? รวมถึงได้มีการพิจารณาและเห็นชอบการเพิ่มเติมกรอบการใช้เงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ประจำปีงบประมาณ 2567 และประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้อง? #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  

 52 อ่าน : 1 ปี

วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.00 น. ณ? ห้องประชุมทูน่า ชั้น 6 อาคารจุฬาภรณ์? กรมประมง

นายประพันธ์? ลีปายะคุณ? รองอธิบดีกรมประมง.. 

การประชุมการดำเนินงานภายใต้แผนปฏิบัติการแห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์และการบริหารจัดการฉลามของประเทศไทย (NPOA? - Sharks) ครั้งที่ 1/2567  วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.?2567 เวลา 13.30 น. นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นางสาวสัมพันธ์ ปานจรัตน์ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง เป็นประธาน การประชุมการดำเนินงานภายใต้แผนปฏิบัติการแห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์และการบริหารจัดการฉลามของประเทศไทย (NPOA? - Sharks) ครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องประชุมอินทรี ชั้น 4 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง ร่วมกับประชุมทางไกลออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom cloud meetings จัดโดย กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล ในการนี้มีผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สมาคมการ ประมงแห่งประเทศไทย สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยบูรพา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร องค์กรไวล์ดเอด และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF ประเทศไทย) พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานกรมประมง โดยที่ประชุมได้รายงานถึงความก้าวหน้าของการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการแห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์และการบริหารจัดการฉลามของประเทศไทย (NPOA - Sharks) ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2564 - 2567)? ตามวัตถุประสงค์และรายกิจกรรม/โครงการ/การดำเนินงานที่ดำเนินการแล้วเสร็จ กิจกรรมที่ต้องดำเนินการ ต่อเนื่อง และเพื่อรับทราบแนวทางการจัดทำต้นร่างของแผนปฏิบัติการแห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์และการบริหารจัดการฉลามของประเทศไทย (ฉบับที่ปรับปรุง พ..ศ.....)? ตามวัตถุประสงค์ กิจกรรม/โครงการ/การดำเนินงาน เป้าหมาย หน่วยงานผู้รับผิดชอบ สาระสำคัญของกิจกรรม และกรอบระยะเวลาดำเนินการ รวมถึงพิจารณาองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรปลากระดูกอ่อนของประเทศไทย? ตลอดจนกรอบระยะเวลาในการจัดทำร่างแผนปฏิบัติการแห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์และการบริหารจัดการฉลาม ของประเทศไทย (ฉบับที่ปรับปรุง พ.ศ... ...) เพื่อให้การดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรปลาฉลามและปลากระดูกอ่อนของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องตามมาตรการอนุรักษ์ และพันธกรณีระหว่างประเทศ #กรมประมง #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์

 89 อ่าน : 1 ปี

วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.?2567 เวลา 13.30 น. นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง มอบหมายให้นางสาวสัมพันธ์ ปานจรัตน์ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนพัฒ.. 

กรมประมง...เปิดติวเข้ม!!! “Post - harvest Practice Workshop for Fisheries Cold Chain Development” แก่เจ้าหน้าที่ประมง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ และผู้ประกอบการประมง ในภูมิภาคอาเซียนและฮ่องกง จาก 11 ประเทศ   กรมประมงจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดการห่วงโซ่ความเย็นภายหลังการจับสัตว์น้ำ หลักสูตร “Post - harvest Practice Workshop for Fisheries Cold Chain Development” ระหว่างวันที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมโนโวเทล บางนา กรุงเทพ และฟาร์มในจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเพิ่มความรู้ และศักยภาพให้แก่เจ้าหน้าที่ประมง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ และผู้ประกอบการประมง ในภูมิภาคอาเซียนและฮ่องกงจาก 11 ประเทศ ในเรื่องการจัดการห่วงโซ่ความเย็นภายหลังการจับสัตว์น้ำ การควบคุมคุณภาพปลาทั้งกายภาพและเคมี กลไกการเสื่อมสภาพของปลา และการประเมินอายุการเก็บรักษาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ประมง ดร.ถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงได้ให้ความสำคัญ และเห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาห่วงโซ่ความเย็นเพื่อรักษาคุณภาพของสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาซึ่งเป็นอาหารที่เน่าเสียง่าย จึงควรมีระบบห่วงโซ่ความเย็นหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค ประกอบกับศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC) ได้พัฒนาแนวทางปฏิบัติระดับภูมิภาคว่าด้วยการจัดการห่วงโซ่ความเย็นของสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ประมงในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่นำมาใช้ และปรับเปลี่ยนเพื่อการจัดการห่วงโซ่ความเย็นและโลจิสติกส์สินค้าประมงในปี พ.ศ. 2566 กองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง จึงได้ดำเนินการจัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดการห่วงโซ่ความเย็นภายหลังการจับสัตว์น้ำ (Post-harvest Practice Workshop for Fisheries Cold Chain Development) โดยเน้นไปที่ปลากะพงขาว ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และมีการเพาะเลี้ยงมากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี ดร.ชุติมา ขมวิลัย ผู้อำนวยการกองวิจัยเเละพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง เป็นประธานพิธีเปิด ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นเจ้าหน้าที่ประมง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ และผู้ประกอบการประมง ในภูมิภาคอาเซียนและฮ่องกง จาก 11 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สหพันธรัฐมาเลเซีย สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เนการาบรูไนดารุสซาลาม สาธารณรัฐสิงคโปร์ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศไทย เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปถ่ายทอดให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาห่วงโซ่ความเย็นในสินค้าปลากะพงขาวในภูมิภาคอาเซียนร่วมกัน โฆษกกรมประมงกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการฝึกอบรมในหลักสูตรดังกล่าว จะมีการเยี่ยมชมการปฏิบัติงานการจับสัตว์น้ำ ณ ฟาร์มเลี้ยงปลากะพงขาว จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยได้เชิญวิทยากรผู้คร่ำหวอดด้านการจัดการและพัฒนา ห่วงโซ่ความเย็นที่จะมาให้ข้อมูลเชิงลึก จากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐสิงคโปร์ พร้อมทั้งวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากกรมประมง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจต่าง ๆ มากมาย อาทิ การพัฒนาห่วงโซ่ความเย็นในเอเชีย แนวทางการจัดการห่วงโซ่ความเย็นในสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ประมงในภูมิภาคอาเซียน แนวคิดพื้นฐานของการรักษาคุณภาพสัตว์น้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ กรมประมงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดโครงการฝึกอบรมในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรและชาวประมงมีแนวทางการเก็บรักษาผลผลิตสัตว์น้ำให้มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และเพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์น้ำ อีกทั้งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมายโดยรวมของข้อตกลงการค้าอาเซียน - ฮ่องกง (AHKFTA) แผนยุทธศาสตร์ขององค์กรสาขาต่าง ๆ ของอาเซียน และ AEC Blueprint ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนให้เติบโตมากยิ่งขึ้นต่อไป

 95 อ่าน : 1 ปี

กรมประมงจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดการห่วงโซ่ความเย็นภายหลังการจับสัตว์น้ำ หลักสูตร “Post - harvest Practice Workshop for Fisheries..