Department of Fisheries : ข่าวกิจกรรม หน่วยงานภายในกรมประมง

ภารกิจประจำวันที่ 12 มีนาคม 2568 สำนักงานประมงจังหวัดสระบุรี NEWS สำนักงานประมงอำเภอบ้านหมอ ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบ (อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี) ตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วันพุธ ที่ 12 มีนาคม 2568 นายสัญชัย คชประดิษฐ์ ประมงอำเภอบ้านหมอ ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบ (อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี) ตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รายนางนันทา แสงทอง ภายในแปลงมีการบริหารจัดการพื้นที่ตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ มีการปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงปลาบ่อดิน และเลี้ยงปลาในนาข้าว โดยมีชนิดพันธุ์สัตว์น้ำ อาทิ ปลาสลิด ปลาหมอ ปลาตะเพียน แยกปล่อยในแต่ละแปลง ซึ่งมีการทยอยจับผลผลิตสัตว์น้ำที่ได้ขนาดบริโภคในครัวเรือน และจำหน่ายในตลาดชุมชน สร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์การเฝ้าระวังสัตว์น้ำในช่วงฤดูร้อน และแนวทางในการพัฒนาเป็นศูนย์เครือข่ายด้านการประมงเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่ต่อไป NEWS สำนักงานประมงอำเภอบ้านหมอ ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบ (อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี) ตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สำหรับกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภทการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง ทั้งนี้ได้ออกสุ่มตรวจการทำการประมงในแหล่งน้ำสาธารณะ เพื่อป้องกันมิให้มีการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย วันพุธ ที่ 12 มีนาคม 2568 นายสัญชัย คชประดิษฐ์ ประมงอำเภอบ้านหมอ ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบ (อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี)ตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สำหรับกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภทการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง บริเวณพื้นที่ตำบลเริงราง อำเภอเสาไห้ พร้อมทั้งแจ้งเตือนเกษตรกรให้เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมในการดูแลสัตว์น้ำในช่วงฤดูร้อน และแนะนำให้ทยอยจับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดขึ้นจากกระชังเพื่อจำหน่าย ทั้งนี้ได้ออกสุ่มตรวจการทำการประมงในแหล่งน้ำสาธารณะ เพื่อป้องกันมิให้มีการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และตรวจบริเวณเขตรักษาพืชพันธุ์ปลาหน้าวัด เพื่อให้เป็นไปตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผลการดำเนินงาน : เกษตรกรผู้ประกอบกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภทการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง มีการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อม ในการดูแลสัตว์น้ำในช่วงฤดูร้อน ทั้งยังมีการทยอยจับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดขึ้นจากกระชังเพื่อจำหน่าย ในส่วนของการทำการประมงในแหล่งน้ำสาธารณะและเขตรักษาพืชพันธุ์ปลาหน้าวัด ไม่พบการกระทำการผิดกฎหมายในเขตพื้นที่ NEWS สำนักงานประมงจังหวัดสระบุรี ร่วมพิธีเปิดงาน Saraburi Central of Food Expo งานแสดงศักยภาพด้านอาหารครั้งยิ่งใหญ่ของจังหวัดสระบุรี วันพุธ ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๗.๐๐ น. นางอภิชญา ห้อยมาลา ประมงจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยนางสาวนิตยา ราชประเสริฐ หัวหน้ากลุ่มบริหารและยุทธศาสตร์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดสระบุรี ร่วมพิธีเปิดงาน Saraburi Central of Food Expo งานแสดงศักยภาพด้านอาหารครั้งยิ่งใหญ่ของจังหวัดสระบุรี โดยมีนายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน งกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ ๑๒ - ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๘ ณ เต็นท์โดมติดแอร์ บริเวณลานจอดรถ ศูนย์การค้า โรบินสันไลฟ์สไตล์ สระบุรี NEWS สำนักงานประมงอำเภอพระพุทธบาท เข้าร่วมเยี่ยมเสริมพลังการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล (พชต) และการดำเนินงานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ) ระดับตำบล วันพุธ ที่ 12 มีนาคม 2558 เวลา 09 30 น. นางอรุณ เจริญสุข ประมงอำเภอพระพุทธบาท ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบ (อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี) เข้าร่วมเยี่ยมเสริมพลังการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล (พชต) และการดำเนินงานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ) ระดับตำบล เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนภายใต้แนวคิดระบบสุขภาพอำเภอ โดยมีคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ) เป็นพี่เลี้ยงรวมถึงเป็นกลไกการขับเคลื่อนสู่การกำหนดคุณภาพชีวิตระดับตำบล (พชต) ผู้ให้บริการสาธารณสุข ด้านภาวะผู้นำการบริหารจัดการการสร้างความร่วมมือในการทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน สอดคล้องกับการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ) การแก้ไขปัญหายาเสพติดการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) รวมถึงปัญหาคุณภาพชีวิตด้านอื่นๆในพื้นที่ ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลหน้าพระลาน โดยมี ร้อยตำรวจตรี สิงห์คำ คำยอด นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี เป็นประธาน

# สำนักงานประมงจังหวัดสระบุรี

15 อ่าน : 4 เดือน

NEWS สำนักงานประมงอำเภอบ้านหมอ ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบ (อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี) ตรวจติดตา..

กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง” ดันดาวเด่น 13 กลุ่มสินค้าประมง ร่วมยกระดับการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ในปี 2568 กรมประมง...เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งให้มีการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในระดับชุมชนท้องถิ่น ให้อยู่ดีกินดี ด้วยการสร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุน ตามหลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” พร้อมวางเป้าหมายในการส่งเสริมพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง ทั้งด้านพืช แมลงเศรษฐกิจ และบริการเชิงสร้างสรรค์/ ด้านปศุสัตว์/ และด้านประมง รวมจำนวน 500 ตำบล ดันรายได้สุทธิทางการเกษตรให้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายในปี 2570 หนุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และขยายช่องทางการตลาด เพื่อให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงการผลักดันโครงการฯ ในด้านประมงว่า ได้ดำเนินงานภายใต้คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ของกรมประมง ซึ่งมีนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เป็นประธาน โดยได้ทำการคัดเลือกพื้นที่และสินค้าเกษตรมูลค่าสูง จำแนกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มสินค้าเกษตรมูลค่าสูงเพื่อส่งออก ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการรวมกลุ่มกันผลิตและจำหน่าย โดยมีผลผลิตออกสู่ตลาดต่างประเทศเป็นหลัก 2. กลุ่มสินค้ามูลค่าสูง ที่มีการแปรรูปเป็นสินค้า มีตลาดภายในประเทศ และมีการจำหน่ายเป็นผลผลิตโดยตรงหรือแปรรูป 3. กลุ่มสินค้าเกษตรและบริการเชิงสร้างสรรค์ เป็นสินค้าที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์และเสน่ห์ชุมชนซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้สามารถยกระดับการพัฒนาอาชีพและสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน ซึ่งการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2567 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ ในด้านประมงจำนวน 24 ตำบล 23 อำเภอ 19 จังหวัด รวม 24 กลุ่มเกษตรกร ใน 7 กลุ่มสินค้า ได้แก่ ปลาสวยงาม กุ้งทะเลต้มสุก/แช่แข็ง กุ้งทะเลมีชีวิต กุ้งก้ามกราม ปลานิล ปลากะพง และปูม้า โดยผลจากการประเมินโครงการฯ ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร พบว่า ในภาพรวมเกษตรกรมีรายได้สุทธิครัวเรือนเฉลี่ยหลังเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.98 จึงได้ต่อยอดสู่การขยายผลดำเนินโครงการฯ อย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ 64 ตำบล 61 อำเภอ 52 จังหวัด รวม 65 กลุ่มเกษตรกร ใน 13 กลุ่มสินค้า ได้แก่ ปลาสวยงาม ปลาน้ำจืดมีชีวิต กุ้งทะเลมีชีวิต กุ้งก้ามกราม ปลากะพงขาว ปูทะเล กบนา หอยนางรม จระเข้ ปลานิล สินค้าแปรรูปจากสัตว์น้ำจืด สินค้าทะเลต้มสุก/แช่แข็ง และสินค้าแปรรูปจากสัตว์น้ำเค็ม โดยวางเป้าหมายการยกระดับรายได้ของกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการปีแรก มีรายได้สุทธิครัวเรือนเพิ่มขึ้น 1.15 เท่าของปีฐาน ปีที่ 2 มีรายได้สุทธิครัวเรือนเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า ปีที่ 3 เพิ่มขึ้น 2 เท่า และสามารถเพิ่มรายได้เป็น 3 เท่าภายใน 4 ปี ตามกรอบแนวทางของนโยบายที่วางไว้ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการติดตามผลการดำเนินโครงการฯ ล่าสุด พบว่า มีหลายกลุ่มสินค้าประมงเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง สามารถพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดต้นทุน เพิ่มความสามารถในการแปรรูป การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ไปจนถึงการเชื่อมโยงสู่การตลาดได้อย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม เช่น กลุ่มสินค้ากุ้งก้ามกราม ซึ่งปัจจุบันมี 6 กลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ และได้มีการยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าจนสามารถเปิดช่องทางตลาดการส่งออกกุ้งก้ามกรามแบบมีชีวิตไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง และสร้างมูลค่าได้จำนวนมาก กลุ่มสินค้ากบนา มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 2 กลุ่ม โดยมีจุดเด่นในด้านการลดต้นทุน เนื่องจากใช้น้ำน้อย ระยะเวลาการเลี้ยงสั้น อีกทั้งสามารถบริโภคได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งลูกอ๊อด และเนื้อกบ อีกทั้งยังเป็นสินค้าส่งออกแบบแช่แข็งไปยังตลาดต่างประเทศได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม กรมประมงยังได้เร่งส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการฯ ในการจัดทำแผนธุรกิจจากความต้องการของเกษตรกรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยอาศัยกลไกการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ภายในชุมชนท้องถิ่น ในการบูรณาการทำงานร่วมกัน ทั้งเกษตรกร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เพื่อให้มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมส่งเสริมการพัฒนาทักษะ องค์ความรู้ และนำเทคโนโลยีนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ประโยชน์ในการผลิตและแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์น้ำ เน้นส่งเสริมความเข้มแข็งในการรวมกลุ่ม รวมถึงสนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น จุลินทรีย์ ปม.1 นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมการเปิดช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ใหม่ ๆ รวมถึงการนำเข้าจำหน่ายภายในร้าน Fisherman Shop ของกรมประมงซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และขยายสู่การส่งออกในตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรได้อย่างยั่งยืน รองอธิบดีกรมประมง กล่าวทิ้งท้ายว่า เชื่อมั่นว่า โครงการ 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ภายใต้การดำเนินงานของกรมประมง จะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายในปี 2570 ตามเป้าหมายที่วางไว้ สามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว พร้อมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคตต่อไป

# กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

282 อ่าน : 4 เดือน

กรมประมง...เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ..

แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต สำนักงานปรัมงจังหวัดลพบุรี

# สำนักงานประมงจังหวัดลพบุรี

28 อ่าน : 4 เดือน

รมช.อัครา ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจืดเศรษฐกิจ 7 ชนิด ฟื้นฟูทรัพยากรประมงในอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม จังหวัดพะเยา มุ่งสร้างความมั่นคงทางอาหาร ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม ตำบลท่าจำปี อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา กรมประมงจัดงานปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ จังหวัดพะเยา มุ่งฟื้นฟูทรัพยากรประมง พร้อมเสริมสร้างความเข้มแข็งในการบริหารจัดการแหล่งน้ำให้เป็นแหล่งอาหารโปรตีนของชุมชน เกิดการสร้างรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน ยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจาก นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานฯ และ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารหน่วยงานในพื้นที่ ตลอดจน เกษตรกร ชาวประมง และประชาชนร่วมให้การต้อนรับ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายให้กรมประมงเร่งเพิ่มผลผลิตทรัพยากรสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติให้คงความอุดมสมบูรณ์ และเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งน้ำในชุมชนที่ถือได้ว่าเป็นแหล่งอาหารโปรตีนสำคัญที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย สามารถสร้างรายได้และลดรายจ่ายในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี กรมประมงจึงได้จัดงานดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการแหล่งน้ำในท้องถิ่นให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุด สำหรับ “อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม” เป็นแหล่งน้ำปิดที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา มีพื้นที่กว่า 324 ไร่ มีประชาชนอาศัยอยู่โดยรอบประมาณ 1,300 ครัวเรือน ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำส่วนใหญ่เพื่อการอุปโภคและการเกษตร รวมทั้งเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งน้ำที่มีศักยภาพเหมาะสมในการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสัตว์น้ำของชุมชน โดยกิจกรรมในวันนี้มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ทั้งหมด 1,076,000 ตัว แบ่งเป็น พันธุ์ปลาตะเพียนที่ได้จากการเพาะพันธุ์ด้วยชุดเพาะพันธุ์ปลาเคลื่อนที่ (Mobile hatchery) จำนวน 1,000,000 ตัว และพันธุ์สัตว์น้ำจืดเศรษฐกิจ 7 ชนิด จำนวน 76,000 ตัว ประกอบด้วย กุ้งก้ามกราม ปลาตะเพียน ปลาบ้า ปลายี่สกเทศ ปลานิล ปลาเกล็ดเงิน และปลาบึก นอกจากนี้ ยังมีการมอบปัจจัยการผลิต ได้แก่ ฟางข้าว มูลสัตว์ และพันธุ์สัตว์น้ำ ให้แก่ตัวแทนคณะกรรมการแหล่งน้ำ จำนวน 5 แหล่งน้ำ เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการฯ การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการฟางมาปลาโตที่ส่งเสริมให้เกษตรกรนำฟางจากการทำนามาเป็นวัตถุดิบในการสร้างอาหารสัตว์น้ำธรรมชาติ เพื่อลดต้นทุนด้านอาหารสัตว์น้ำ ลดการเผาวัสดุทางการเกษตรหลังการเก็บเกี่ยว และลดการเกิดมลพิษจากฝุ่น PM 2.5 นอกจากนี้ กรมประมงยังมีการดำเนินโครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง กิจกรรมบริหารจัดการทรัพยากรประมงน้ำจืด การเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชนเพื่อเพิ่มรายได้ และลดค่าครองชีพของประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีเป้าหมายดำเนินการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจืดเศรษฐกิจ 7 ชนิด จำนวน 116.4 ล้านตัว ลงในแหล่งน้ำชุมชน 1,500 แห่ง ทั่วประเทศ โดยในส่วนของจังหวัดพะเยามีแผนปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ทั้งหมด 2,172,800 ตัว ลงสู่แหล่งน้ำชุมชน 28 แห่ง ในพื้นที่ 9 อำเภอ พร้อมส่งเสริมให้มีการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว มาเป็นวัตถุดิบในการสร้างอาหารสัตว์น้ำจากธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดการเผาฟางข้าวที่เหลือจากการทำนาในพื้นที่จังหวัดพะเยาได้มากกว่า 20 ตัน อธิบดีฯ กล่าวในตอนท้ายว่า กรมประมงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติดังกล่าว จะเกิดผลผลิตสัตว์น้ำที่กลายเป็นแหล่งอาหารโปรตีนสำคัญให้กับประชาชนในพื้นที่ กลายเป็นต้นแบบการบริหารจัดการแหล่งน้ำให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสัตว์น้ำของชุมชน สามารถลดรายจ่ายในครัวเรือน สร้างรายได้จากอาชีพประมงและอาชีพต่อเนื่องโดยรอบแหล่งน้ำชุมชน ภายใต้การบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดความยั่งยืนด้วยการมีส่วนร่วมของชุมชน เกิดความมั่นคงทางอาหาร ยกระดับรายได้ของประชาชน นำไปสู่การดำรงชีวิตที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

# กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

103 อ่าน : 4 เดือน

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม ตำบลท่าจำปี อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา กรมประมงจัดงานปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่ม..

รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ” จำนวน 923 ลำ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ว่า ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 “เห็นชอบ” โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน จำนวน 923 ลำ วงเงิน 1,622.6 ล้านบาท โดยใช้แหล่งงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรประมงทะเลด้วยการบริหารจัดการจำนวนเรือให้มีความเหมาะสม และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงในพื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเล โดยส่งเสริมให้สามารถนำเรือประมงไปใช้ในกิจการอื่นนอกภาคประมงช่วยให้เกิดการสร้างรายได้ในการประกอบอาชีพ สำหรับเรือประมง จำนวน 923 ลำ ที่จะนำออกนอกระบบนั้น คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ได้มีการพิจารณาตรวจสอบประวัติ ความถูกต้องและคุณสมบัติของเรือประมงและเจ้าของเรือ ผ่านการประเมินราคาค่าชดเชยเรือประมง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 1,622,605,300 บาท รวมทั้งได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินค่าชดเชยเยียวยาเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ค.ร.ม. ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอัครา พรหมเผ่า) ได้มอบหมายให้กรมประมงเร่งขับเคลื่อนกระบวนการต่าง ๆ เพื่อจ่ายเงินเยียวยาให้กับพี่น้องชาวประมงและได้มอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือออกนอกระบบ (อธิบดีกรมประมงเป็นประธาน) ดำเนินการโดยเร็วที่สุด ซึ่งทางกรมประมงรับลูกต่อเร่งดำเนินการจัดประชุมเพื่อขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วนโดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการขอรับจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบฯ ตามขั้นตอน และคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ มอบหมายกรมประมงเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับสำนักงานประมงจังหวัดเพื่อเตรียมความพร้อมในการที่จะดำเนินการตามขั้นตอนให้กับเรือประมงที่จอดอยู่ในแต่ละจังหวัด และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจ่ายเงิน ชดเชยเยียวยาเรือประมงในโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบฯ จำนวน 923 ลำ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวประมง

# กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

217 อ่าน : 4 เดือน

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ค..

แผนปฏิบัติงานในการประหยัดพลังงานกรมประมง

# ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศเเละการสื่อสาร

38 อ่าน : 4 เดือน

คู่มือมือแนวทางการปฏิบัติตน (Dos&Don'ts) ของบุคลากรกรมประมง ตามประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน

# สำนักงานประมงจังหวัดปราจีนบุรี

23 อ่าน : 4 เดือน

ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถิติการประมงทะเล ปี 2538-2566 ประชาสัมพันพันธ์ข้อมูลสถิการประมงไทยในรูปแบบ Infographic โดยกองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง กลุ่มสถิติการประมง สามารถเข้าไปหาข้อมูลได้จากเวบไซต์กลุ่มสถิติการประมง https://www.fisheries.go.th/strategy-stat

# ด่านตรวจประมงกระบี่

16 อ่าน : 4 เดือน

ประชาสัมพันพันธ์ข้อมูลสถิการประมงไทยในรูปแบบ Infographic โดยกองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง กลุ่มสถิติการประมง สามารถเข้าไปหาข้อมูลได้..

ประชาสัมพันธ์ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 3 (กรุงเทพมหานคร) ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2568

# ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 3 (กรุงเทพมหานคร)

49 อ่าน : 4 เดือน

ประกาศขายทอดตลาดครุภัณฑ์ที่ชำรุดใช้การไม่ได้ จำนวน 1 รายการ หน่วยขุดลอกและกำจัดวัชพืชบึงบอระเพ็ด จะขายทอดตลาดครุภัณฑ์ที่ชำรุด ใช้การไม่ได้ และหมดความจำเป็นใช้ในราชการ จำนวน 1 รายการ ในวันจันทร์ ที่ 31 มีนาคม 2568 เวลา 10.30 น. ณ หน่วยขุดลอกและกำจัดวัชพืชบึงบอระเพ็ด เลขที่ 31 ตำบลแควใหญ่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้โทรศัพท์หมายเลข 0 5627 4559 และขอดูครุภัณฑ์ที่จะขายทอดตลาดได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 28 มีนาคม 2568 ในวันและเวลาราชการ

# หน่วยขุดลอกและกำจัดวัชพืชบึงบอระเพ็ด

42 อ่าน : 4 เดือน

หน่วยขุดลอกและกำจัดวัชพืชบึงบอระเพ็ด จะขายทอดตลาดครุภัณฑ์ที่ชำรุด ใช้การไม่ได้ และหมดความจำเป็นใช้ในราชการ จำนวน 1 ร..