สัตว์น้ำประจำหน่่วยงาน : เขียดแลว

 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดแม่ฮ่องสอน


สัตว์น้ำประจำหน่่วยงาน : เขียดแลว 

ข้อมูลการดำเนินงาน

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

HOT สัตว์น้ำประจำหน่่วยงาน : เขียดแลว..คลิก

ชื่อไทย : เขียดแลว
ชื่อสามัญ : Wild Mountain Frog 
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rana  blythii (Boulenger, 1920)

ความเป็นมา

     เขียดแลว หรือ กบทูด เป็นกบภูเขาชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก พบตามบริเวณภูเขาสูงในประเทศไทยแถบภาคเหนือ ภาคกลาง จะพบเขียดแลว บริเวณลำธารภูเขาที่มีป่าชุ่มชื้น มีอากาศเย็น ความชื้นสัมพัทธ์สูง และมีหมอกมาก ส่วนภาคใต้จะพบตามแถบป่าสวนยางและป่าชุ่มชื้นที่มีแหล่งน้ำลำธาร ปัจจุบัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศให้เขียดแลวเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๔ (๒๕๓๗) ลงวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ ตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ 
     กรมประมง ได้เริ่มดำเนินการศึกษาวิจัยเขียดแลวและประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์ที่สถานีประมงน้ำจืดจังหวัดแม่ฮ่องสอน มาตั้งแต่ปี ๒๕๓๐ ปัจจุบันสามารถผลิตลูกเขียดแลวได้ในปริมาณ ๕๐,๐๐๐ ตัวต่อปี และได้นำลูกเขียดแลวที่เพาะพันธุ์ได้ในแต่ละปีปล่อยลงในแหล่งธรรมชาติเพื่ออนุรักษ์พันธุ์และได้ขยายผลดังแนวทางตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานให้กรมประมง เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๔ ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ คือ “ให้กรมประมงดำเนินการเพาะขยายพันธุ์ปลาในแม่น้ำปาย และพันธุ์เขียดแลว เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติและศึกษาทดลองเพื่อขยายผลไปสู่ราษฎรต่อไป” แนวทางในการอนุรักษ์พันธุ์เขียดแลวตามพระราชดำริ คือ การจัดการและจัดแนวเขตสงวนพันธุ์เขียดแลว โดยกำหนดจุดไม่ให้ราษฎรเข้าไปจับพ่อแม่พันธุ์เขียดแลว ห้ามการตัดไม้ทำลายป่าตลอดจนการเผาป่า เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยและการขยายพันธุ์ของเขียดแลวตามธรรมชาติ และรักษาความสมดุลย์ของแมลงที่จะเป็นอาหาร ตลอดจนศึกษาวิธีการเพาะพันธุ์เขียดแลวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๔ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์เกี่ยวกับการอนุรักษ์เขียดแลว กับคณะทำงานโครงการธนาคารอาหารชุมชน ตามพระราชดำริ ความว่า “ให้กรมประมง กรมชลประทาน และกรมป่าไม้ ร่วมกันดำเนินการเพาะและขยายพันธุ์เขียดแลว แล้วปล่อยคืนสู่ป่าให้มาก ซึ่งเขียดแลวนั้นสามารถเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้ดีในสภาพธรรมชาติที่มีน้ำไหล จึงต้องอาศัยการบูรณาการของหน่วยงานทั้งสาม” กรมประมง จึงได้ดำเนินการตามพระราชเสาวนีย์ ร่วมกับกรมชลประทาน และกรมป่าไม้ จัดทำโครงการหุบเขาเขียดแลว ขึ้นที่ บ้านรวมไทย หมู่ที่ ๕ ตำบลนาป่าแปก อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจะขยายผลสู่พื้นที่อื่น ๆ ต่อไป

การเพาะพันธุ์
     โดยใช้พ่อแม่พันธุ์เขียดแลวขนาดน้ำหนักประมาณ ๓๕๐ กรัม จำนวน ๑๐๐ คู่ ที่ได้จากการรวบรวมในธรรมชาติบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำมาเลี้ยงในบ่อคอนกรีตขนาด ๕๐ ตารางเมตร ซึ่งภายในจัดทำสภาพภายในบ่อให้เหมือนกับธรรมชาติ โดยมีต้นไม้และลำธารที่มีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา และให้หนอนนก (mill worm) เป็นอาหารในปริมาณที่เกินพอวันละครั้งในตอนเย็น เขียดแลวจะทำการผสมพันธุ์และวางไข่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม

การผสมพันธุ์
     การวางไข่ของเขียดแลวจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนจนถึงรุ่งเช้า จากการตรวจสอบหลุมไข่แต่ละหลุมจะพบว่ามีไข่ประมาณ ๑,๕๐๐-๓,๒๐๐ ฟอง เมื่อพบหลุมไข่จึงรวบรวมไข่ในตอนเช้า โดยใช้ผ้ามุ้งโอล่อนแก้วทำเป็นถุงล้อมบริเวณหลุมไข่ด้านล่าง ทำการดักการไหลของน้ำให้ผ่านหลุมไข่แล้วค่อย ๆ นำก้อนกรวดออกจากหลุมไข่ เพื่อให้ไข่ลอยกระจายขึ้นตามกระแสน้ำที่ไหลผ่านไปยังถุงรองรับไข่แล้วย้ายไข่ลงอ่างกลมกระทำต่อจนไม่พบไข่

การฟักไข่
     นำไข่ที่รวบรวมได้มาทำความสะอาดด้วยน้ำประมาณ ๓-๔ ครั้ง แล้วแช่ไข่ด้วยน้ำยาเมททิลีนบลู ความเข้มข้น ๐.๑ ppm. นาน ๕ นาที และทำการล้างไข่อีกครั้งหนึ่ง นำไข่ที่ทำความสะอาดเรียบร้อย ไปเพาะฟักในถาดฟักไข่ที่เตรียมไว้ในรางฟักไข่ที่เปิดให้น้ำไหลผ่านอย่างสม่ำเสมอ ใส่น้ำให้มีระดับความลึก ๑๐–๑๕ เซนติเมตร. โรยไข่ให้กระจายทั่ว พร้อมติดตั้งปั๊มอากาศและปรับระดับความแรงของลมให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการรวมเป็นกระจุกของไข่ ซึ่งจะทำให้เปอร์เซ็นต์การฟักต่ำ เปอร์เซ็นต์การฟักไข่ในการเพาะพันธุ์จะต่ำกว่าไข่ที่ผสมในธรรมชาติซึ่งเปอร์เซ็นต์การฟักไข่ออกเป็นตัวสูง เนื่องจากกระแสน้ำไหลผ่านตลอดเวลา แต่ส่วนมากตามธรรมชาติจะประสบปัญหาเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในลำธาร เมื่อไข่ฟักออกเป็นตัวลูกอ๊อดเขียดแลวแล้ว จึงนำไปอนุบาลต่อไป

การอนุบาลลูกอ๊อดเขียดแลว
     การอนุบาลลูกอ๊อดเขียดแลวหลังจากฟักออกเป็นตัวแล้ว นำไปอนุบาลในบ่อคอนกรีต โดยใส่น้ำ ๑๐–๑๕ เซนติเมตร ติดตั้งระบบลมและทำการถ่ายน้ำพร้อมดูดตะกอนทุกวัน ระยะเวลาอนุบาล ๕-๗ วัน เขียดแลวมีความยาวเฉลี่ย ๐.๘–๐.๙ เซนติเมตร น้ำหนักเฉลี่ย ๐.๐๑๔ กรัม โดยให้ไข่ตุ๋น ผักกาดขาวลวก ไรแดง และแพลงค์ตอนเทียม เป็นอาหาร 
     เมื่อลูกเขียดแลววัยอ่อนออกขาหน้าและหลังพร้อมที่จะขึ้นบกเป็นระยะที่อ่อนแอที่สุด ระยะนี้จะต้องหมั่นสังเกตอยู่ตลอดเวลา ใช้ก้อนกรวดโรยปูกับพื้นก้นบ่อตามแนวขอบบ่อทั้ง ๔ ด้าน และลดระดับน้ำลงพร้อมทำการพ่นน้ำให้เป็นละอองเพื่อให้ก้อนกรวดมีความเปียกชื้นตลอดเวลา โดยให้ก้อนกรวดสูงกว่าระดับน้ำเล็กน้อย เพื่อที่จะให้ลูกกบที่ขึ้นฝั่งมาหลบซ่อนอาศัยความชุ่มชื้นในการหล่อเลี้ยงตัวให้แข็งแรงประมาณ ๑-๒ วัน ก่อนที่จะขึ้นฝั่ง ถ้าหากไม่ทำที่หลบซ่อนให้ลูกกบในระยะนี้ ลูกกบจะแห้งตาย เมื่อเกาะตามขอบบ่อหรือจมน้ำตาย เนื่องจากเป็นระยะที่ลูกกบอ่อนแอที่สุด  ลูกเขียดแลวที่ขึ้นฝั่งมีน้ำหนักเฉลี่ย ๐.๑๖๗-๐.๑๘๓ กรัม มีอัตรารอดตาย ๖๘.๐–๘๕.๐ เปอร์เซ็นต์ เมื่อนับระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของลูกอ๊อดเขียดแลวเป็นลูกเขียดแลวที่ขึ้นฝั่งจากการอนุบาลด้วยอาหารผง และอาหารกุ้งสำเร็จรูป พบว่าระยะเวลาที่เริ่มกลายเป็นลูกเขียดแลว ๓๓–๓๕ วัน และระยะเวลาสิ้นสุดในกลายเป็นลูกเขียดแลวโดยสมบูรณ์จนหมด ๔๓–๔๕ วัน 
     ในธรรมชาติศัตรูของลูกเขียดแลวที่ยังอาศัยอยู่ตามหลุมไข่ที่มีกรวดทับถมอยู่นั้น จะมีศัตรูจำพวกตัวอ่อนของลูกแมลงปอ มวนกรรเชียง ลูกปลา แมลงดาสวน จิงโจ้น้ำ ตลอดจนแมงมุมน้ำ จะจับลูกเขียดแลวกินเป็นอาหาร และศัตรูของเขียดแลวที่เป็นสัตว์บก เช่น แมงมุมป่า หนู, นก สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก เช่น งู เป็นต้น ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ เป็นปัจจัยควบคุมที่ทำให้ปริมาณเขียดแลวในธรรมชาติลดจำนวนลง

การอนุบาลลูกเขียดแลว
     นำลูกเขียดแลวที่แข็งแรงที่ขึ้นฝั่งมาอนุบาลในบ่อขนาด ๒ หรือ ๔ ตารางเมตร โดยโรยก้อนกรวด ทั่วทั้งบ่อและให้ก้อนกรวดมีความเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลาอย่าให้น้ำท่วมก้อนกรวด จะทำให้ลูกเขียดแลวจมน้ำตาย และทำกะบะให้อาหาร อาหารที่ให้จำพวกปลวก, หนอนนก, หนอนแมลงวัน, ไส้เดือนฝอย ผสมกับอาหารผงสำเร็จรูป อาหารที่ให้ลูกเขียดแลวในระยะแรกต้องมีขนาดเล็ก การอนุบาลในระยะนี้จะต้องหมั่นคัดให้ลูกเขียดแลวให้มีขนาดใกล้เคียงกันมากที่สุด มิเช่นนั้นลูกเขียดแลวจะกัดกินกันเอง โดยใช้เวลาอนุบาล ๓๐–๖๐ วัน ได้ขนาดโตและแข็งแรงพอที่จะนำไปปล่อย

การปล่อยเขียดแลวในแหล่งธรรมชาติ
     ในแต่ละปี สถานีประมงน้ำจืดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ปล่อยลูกเขียดแลวในแหล่งธรรมชาติในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปีละ ๕๐,๐๐๐ – ๑๐๐,๐๐๐ ตัว โดยประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ และราษฎรในพื้นที่ร่วมปล่อยและร่วมดูแลพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อติดตามผลการปล่อยเขียดแลว พบว่า ในแหล่งธรรมชาติที่มีสภาพเหมาะสม อาทิเช่น ลำห้วยปางตอง, ลำห้วยมะเขือส้ม สามารถพบการขุดหลุมวางไข่ของเขียดแลว นับเป็นคำตอบได้ว่า หากมีการกำหนดพื้นที่อาศัยของเขียดแลวที่เหมาะสม เขียดแลวจะสามารถเจริญเติบโตและแพร่ขยายพันธุ์ได้

การเพาะพันธุ์
     โดยใช้พ่อแม่พันธุ์เขียดแลวขนาดน้ำหนักประมาณ ๓๕๐ กรัม จำนวน ๑๐๐ คู่ ที่ได้จากการรวบรวมในธรรมชาติบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำมาเลี้ยงในบ่อคอนกรีตขนาด ๕๐ ตารางเมตร ซึ่งภายในจัดทำสภาพภายในบ่อให้เหมือนกับธรรมชาติ โดยมีต้นไม้และลำธารที่มีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา และให้หนอนนก (mill worm) เป็นอาหารในปริมาณที่เกินพอวันละครั้งในตอนเย็น เขียดแลวจะทำการผสมพันธุ์และวางไข่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม

การผสมพันธุ์
     การวางไข่ของเขียดแลวจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนจนถึงรุ่งเช้า จากการตรวจสอบหลุมไข่แต่ละหลุมจะพบว่ามีไข่ประมาณ ๑,๕๐๐-๓,๒๐๐ ฟอง เมื่อพบหลุมไข่จึงรวบรวมไข่ในตอนเช้า โดยใช้ผ้ามุ้งโอล่อนแก้วทำเป็นถุงล้อมบริเวณหลุมไข่ด้านล่าง ทำการดักการไหลของน้ำให้ผ่านหลุมไข่แล้วค่อย ๆ นำก้อนกรวดออกจากหลุมไข่ เพื่อให้ไข่ลอยกระจายขึ้นตามกระแสน้ำที่ไหลผ่านไปยังถุงรองรับไข่แล้วย้ายไข่ลงอ่างกลมกระทำต่อจนไม่พบไข่

การฟักไข่
     นำไข่ที่รวบรวมได้มาทำความสะอาดด้วยน้ำประมาณ ๓-๔ ครั้ง แล้วแช่ไข่ด้วยน้ำยาเมททิลีนบลู ความเข้มข้น ๐.๑ ppm. นาน ๕ นาที และทำการล้างไข่อีกครั้งหนึ่ง นำไข่ที่ทำความสะอาดเรียบร้อย ไปเพาะฟักในถาดฟักไข่ที่เตรียมไว้ในรางฟักไข่ที่เปิดให้น้ำไหลผ่านอย่างสม่ำเสมอ ใส่น้ำให้มีระดับความลึก ๑๐–๑๕ เซนติเมตร. โรยไข่ให้กระจายทั่ว พร้อมติดตั้งปั๊มอากาศและปรับระดับความแรงของลมให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการรวมเป็นกระจุกของไข่ ซึ่งจะทำให้เปอร์เซ็นต์การฟักต่ำ เปอร์เซ็นต์การฟักไข่ในการเพาะพันธุ์จะต่ำกว่าไข่ที่ผสมในธรรมชาติซึ่งเปอร์เซ็นต์การฟักไข่ออกเป็นตัวสูง เนื่องจากกระแสน้ำไหลผ่านตลอดเวลา แต่ส่วนมากตามธรรมชาติจะประสบปัญหาเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในลำธาร เมื่อไข่ฟักออกเป็นตัวลูกอ๊อดเขียดแลวแล้ว จึงนำไปอนุบาลต่อไป

การอนุบาลลูกอ๊อดเขียดแลว
     การอนุบาลลูกอ๊อดเขียดแลวหลังจากฟักออกเป็นตัวแล้ว นำไปอนุบาลในบ่อคอนกรีต โดยใส่น้ำ ๑๐–๑๕ เซนติเมตร ติดตั้งระบบลมและทำการถ่ายน้ำพร้อมดูดตะกอนทุกวัน ระยะเวลาอนุบาล ๕-๗ วัน เขียดแลวมีความยาวเฉลี่ย ๐.๘–๐.๙ เซนติเมตร น้ำหนักเฉลี่ย ๐.๐๑๔ กรัม โดยให้ไข่ตุ๋น ผักกาดขาวลวก ไรแดง และแพลงค์ตอนเทียม เป็นอาหาร 
     เมื่อลูกเขียดแลววัยอ่อนออกขาหน้าและหลังพร้อมที่จะขึ้นบกเป็นระยะที่อ่อนแอที่สุด ระยะนี้จะต้องหมั่นสังเกตอยู่ตลอดเวลา ใช้ก้อนกรวดโรยปูกับพื้นก้นบ่อตามแนวขอบบ่อทั้ง ๔ ด้าน และลดระดับน้ำลงพร้อมทำการพ่นน้ำให้เป็นละอองเพื่อให้ก้อนกรวดมีความเปียกชื้นตลอดเวลา โดยให้ก้อนกรวดสูงกว่าระดับน้ำเล็กน้อย เพื่อที่จะให้ลูกกบที่ขึ้นฝั่งมาหลบซ่อนอาศัยความชุ่มชื้นในการหล่อเลี้ยงตัวให้แข็งแรงประมาณ ๑-๒ วัน ก่อนที่จะขึ้นฝั่ง ถ้าหากไม่ทำที่หลบซ่อนให้ลูกกบในระยะนี้ ลูกกบจะแห้งตาย เมื่อเกาะตามขอบบ่อหรือจมน้ำตาย เนื่องจากเป็นระยะที่ลูกกบอ่อนแอที่สุด  ลูกเขียดแลวที่ขึ้นฝั่งมีน้ำหนักเฉลี่ย ๐.๑๖๗-๐.๑๘๓ กรัม มีอัตรารอดตาย ๖๘.๐–๘๕.๐ เปอร์เซ็นต์ เมื่อนับระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของลูกอ๊อดเขียดแลวเป็นลูกเขียดแลวที่ขึ้นฝั่งจากการอนุบาลด้วยอาหารผง และอาหารกุ้งสำเร็จรูป พบว่าระยะเวลาที่เริ่มกลายเป็นลูกเขียดแลว ๓๓–๓๕ วัน และระยะเวลาสิ้นสุดในกลายเป็นลูกเขียดแลวโดยสมบูรณ์จนหมด ๔๓–๔๕ วัน 
     ในธรรมชาติศัตรูของลูกเขียดแลวที่ยังอาศัยอยู่ตามหลุมไข่ที่มีกรวดทับถมอยู่นั้น จะมีศัตรูจำพวกตัวอ่อนของลูกแมลงปอ มวนกรรเชียง ลูกปลา แมลงดาสวน จิงโจ้น้ำ ตลอดจนแมงมุมน้ำ จะจับลูกเขียดแลวกินเป็นอาหาร และศัตรูของเขียดแลวที่เป็นสัตว์บก เช่น แมงมุมป่า หนู, นก สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก เช่น งู เป็นต้น ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ เป็นปัจจัยควบคุมที่ทำให้ปริมาณเขียดแลวในธรรมชาติลดจำนวนลง

การอนุบาลลูกเขียดแลว
     นำลูกเขียดแลวที่แข็งแรงที่ขึ้นฝั่งมาอนุบาลในบ่อขนาด ๒ หรือ ๔ ตารางเมตร โดยโรยก้อนกรวด ทั่วทั้งบ่อและให้ก้อนกรวดมีความเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลาอย่าให้น้ำท่วมก้อนกรวด จะทำให้ลูกเขียดแลวจมน้ำตาย และทำกะบะให้อาหาร อาหารที่ให้จำพวกปลวก, หนอนนก, หนอนแมลงวัน, ไส้เดือนฝอย ผสมกับอาหารผงสำเร็จรูป อาหารที่ให้ลูกเขียดแลวในระยะแรกต้องมีขนาดเล็ก การอนุบาลในระยะนี้จะต้องหมั่นคัดให้ลูกเขียดแลวให้มีขนาดใกล้เคียงกันมากที่สุด มิเช่นนั้นลูกเขียดแลวจะกัดกินกันเอง โดยใช้เวลาอนุบาล ๓๐–๖๐ วัน ได้ขนาดโตและแข็งแรงพอที่จะนำไปปล่อย

การปล่อยเขียดแลวในแหล่งธรรมชาติ
     ในแต่ละปี สถานีประมงน้ำจืดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ปล่อยลูกเขียดแลวในแหล่งธรรมชาติในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปีละ ๕๐,๐๐๐ – ๑๐๐,๐๐๐ ตัว โดยประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ และราษฎรในพื้นที่ร่วมปล่อยและร่วมดูแลพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อติดตามผลการปล่อยเขียดแลว พบว่า ในแหล่งธรรมชาติที่มีสภาพเหมาะสม อาทิเช่น ลำห้วยปางตอง, ลำห้วยมะเขือส้ม สามารถพบการขุดหลุมวางไข่ของเขียดแลว นับเป็นคำตอบได้ว่า หากมีการกำหนดพื้นที่อาศัยของเขียดแลวที่เหมาะสม เขียดแลวจะสามารถเจริญเติบโตและแพร่ขยายพันธุ์ได้

  •   Hits
  • พันธุ์สัตว์น้ำที่พร้อมจำหน่ายระหว่างวันที่ 18  สิงหาคม  2568 - 22  สิงหาคม  2568  พันธุ์สัตว์น้ำที่พร้อมจำหน่ายระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม 2568 - 22 สิงหาคม 2568... จำนวนผู้อ่าน 127  พิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ พิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉ... จำนวนผู้อ่าน 57 ร่วมต้อนรับคณะประสานงานความสัมพันธ์ระหว่างไทย - อัฟกานิสถาน โดยมี พล.ท.ธนยศ ศิริกุล ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาราษฎรชาวไทยภูเขาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะ เยี่ยมชมเรียนรู้งานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ และโครงการสำคัญในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมต้อนรับคณะประสานงานความสัมพันธ์ระหว่างไทย - อัฟกานิสถาน โดยมี พล.ท.ธนยศ ศิริ... จำนวนผู้อ่าน 40 ปล่อยพันธุ์เขียดแลวในโครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย ในพื้นที่บ้านปางคอง  ปล่อยพันธุ์เขียดแลวในโครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย ในพื้นที... จำนวนผู้อ่าน 38 พิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ  เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 พิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร... จำนวนผู้อ่าน 35 เข้าร่วมพิธีเปิดการฝึกอบรมการสร้างจิตสำนึกการรักสถาบัน/การฝึกกำลังประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำโดยกระบวนการถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรแบบบูรณาการฝึกภาคปฏิบัติ ร่วมกับ ร ๒๑ รอ. เข้าร่วมพิธีเปิดการฝึกอบรมการสร้างจิตสำนึกการรักสถาบัน/การฝึกกำลังประชาชนในพื้นท... จำนวนผู้อ่าน 34 เข้าร่วมพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ  เข้าร่วมพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศล เนื่องในโอ... จำนวนผู้อ่าน 34 ร่วมปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม ขนาด ๕ - ๗ เซนติเมตร ลงในแหล่งน้ำชุมชน ภายใต้โครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง กิจกรรมบริหารจัดการทรัพยากรประมงน้ำจืด การเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้และลดค่าครองชีพของประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘ ร่วมปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม ขนาด ๕ - ๗ เซนติเมตร ลงในแหล่งน้ำชุมชน ภายใต้โครงการ... จำนวนผู้อ่าน 34 มอบพันธุ์สัตว์น้ำให้เกษตรกร ในกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โครงการศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ มอบพันธุ์สัตว์น้ำให้เกษตรกร ในกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น... จำนวนผู้อ่าน 33 ปล่อยพันธุ์ปลา ในโครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย ปล่อยพันธุ์ปลา ในโครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย  จำนวนผู้อ่าน 33 มอบบ่อพลาสติกขนาด ๓.๕ ? ๖ เมตร ให้เกษตรกร มอบบ่อพลาสติกขนาด ๓.๕ ? ๖ เมตร ให้เกษตรกร  จำนวนผู้อ่าน 33 เข้าตรวจประเมินฟาร์มใหม่ ตามมาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ.๗๔๓๖-๒๕๖๓ พร้อมเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำเพื่อส่งตรวจหาสารตกค้าง เข้าตรวจประเมินฟาร์มใหม่ ตามมาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ.๗๔๓๖-๒๕๖๓ พร้อมเก็บตัวอย่างสั... จำนวนผู้อ่าน 32 ร่วมปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม ขนาด ๕ - ๗ เซนติเมตร ลงในแหล่งน้ำชุมชน ภายใต้โครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง กิจกรรมบริหารจัดการทรัพยากรประมงน้ำจืด การเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้และลดค่าครองชีพของประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘ ร่วมปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม ขนาด ๕ - ๗ เซนติเมตร ลงในแหล่งน้ำชุมชน ภายใต้โครงการ... จำนวนผู้อ่าน 32 ร่วมปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม ขนาด ๕ - ๗ เซนติเมตร ลงในแหล่งน้ำชุมชน ภายใต้โครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง กิจกรรมบริหารจัดการทรัพยากรประมงน้ำจืด การเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้และลดค่าครองชีพของประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘ โดยมีคณะกรรมการตรวจรับพัสดุงานจัดซื้อพันธุ์สัตว์น้ำ กำกับคุณภาพลูกกุ้งก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ จำนวน ๔ แหล่งน้ำ ดังนี้  ร่วมปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม ขนาด ๕ - ๗ เซนติเมตร ลงในแหล่งน้ำชุมชน ภายใต้โครงการ... จำนวนผู้อ่าน 31 ตรวจติดตามและประเมินการพัฒนาของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพประมง ตรวจติดตามและประเมินการพัฒนาของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพประมง  จำนวนผู้อ่าน 29


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดแม่ฮ่องสอน

    รายละเอียด 61 ม.5  ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 58000  email  ifmaehongson@gmail.com  โทรศัพท์ 053-684194,053-684242  FAX 053-684194,053-684242 ต่อ 20  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6