กรมประมง เตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง รับมือสถานการณ์สภาพอากาศแปรปรวน และผลกระทบของพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” 

 สำนักงานประมงจังหวัดสระแก้ว


กรมประมง เตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง รับมือสถานการณ์สภาพอากาศแปรปรวน และผลกระทบของพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี”  

ข่าวประชาสัมพันธ์

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

NEW กรมประมง เตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง รับมือสถานการณ์สภาพอากาศแปรปรวน และผลกระทบของพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ..คลิก

กรมประมง เตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง รับมือสถานการณ์สภาพอากาศแปรปรวน และผลกระทบของพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” 
          นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ในห้วงเวลาปัจจุบันประเทศไทยกำลัง เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนมีฝนตกชุกในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบถึงเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงขณะนี้มีประกาศแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ส่งผลให้ในช่วงวันที่  7–9 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จากสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศให้ติดตาม เฝ้าระวังพร้อมให้คำแนะนำ รวมถึงให้จัดเตรียมเครื่องมือ เช่น เครื่องสูบน้ำ อวน กระชัง เรือตรวจการประมง รถยนต์ พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง  
          สำหรับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ กรมประมงเล็งเห็นถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น หากประสบอุทกภัย จึงขอให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ให้พร้อม โดยดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ทบ1.) ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อความสะดวกในการรับการช่วยเหลือ และหากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรวางแผนการเพาะเลี้ยงให้เหมาะสม  
          กรณีเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงแบบปิด ควรปรับปรุงและเสริมคันบ่อให้สูงพอหรือสูงกว่าปริมาณน้ำที่เคยเจอสถานการณ์ ขุดลอกตะกอนดินในร่องระบายน้ำให้ทางน้ำไหลผ่านได้สะดวก ควบคุมและรักษาระดับน้ำในบ่อเลี้ยงให้อยู่ในระดับ 2 ใน 3 ส่วนของน้ำที่มีอยู่ในบ่อ และเริ่มทยอยจับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดขึ้นมาจำหน่ายเพื่อลดการสูญเสีย ตลอดจนจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น อวน เครื่องสูบน้ำ เครื่องเพิ่มออกซิเจนไว้ให้พร้อมสำหรับรับมือกับสถานการณ์  
          กรณีที่เลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังแหล่งน้ำแบบเปิด ควรตรวจสอบความแข็งแรงของกระชัง ล้างกระชัง อย่างสม่ำเสมอ ลดปริมาณการให้อาหารและเริ่มทยอยจับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดขึ้นมาจำหน่าย ลดความหนาแน่นของปริมาณสัตว์น้ำในกระชังเพื่อลดการสูญเสีย ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องเพิ่มอากาศเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ พร้อมเฝ้าระวังคุณภาพน้ำโดยเฉพาะอุณหภูมิและปริมาณออกซิเจนในน้ำ ที่อาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สัตว์น้ำที่เลี้ยงในกระชังน็อคน้ำ เนื่องจากเกิดการขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง 
          ทั้งนี้ เมื่อจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือภัยพิบัติในพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ได้รับผลกระทบ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนด้านประมงกับหน่วยงานของกรมประมงก่อนเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติ สามารถขอรับการช่วยเหลือได้ ดังนี้  
          1. กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล หรือหอยทะเล จะได้รับการช่วยเหลือ ไร่ละ 11,780 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่ 
          2. ปลาหรือสัตว์น้ำอื่นนอกเหนือจากข้อที่ 1 ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าว หรือร่องสวน (คิดเฉพาะพื้นที่เลี้ยง) ไร่ละ 4,682 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่  
          3. สัตว์น้ำตามข้อที่ 1 และข้อที่ 2 ที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ หรือที่เลี้ยงลักษณะอื่นที่คล้ายคลึงกันตารางเมตรละ 368 บาท รายละไม่เกิน 80 ตารางเมตร  
          ทั้งนี้ หากคิดคำนวณพื้นที่เลี้ยงแล้วได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินต่ำกว่า 368 บาท ให้ช่วยเหลือในอัตรารายละ 368 บาท 
          อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า ขอให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศ และสถานการณ์จากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากประสบปัญหาสามารถติดต่อขอคำแนะนำและการช่วยเหลือได้ที่สำนักงานประมงอำเภอ สำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ หรือกลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรและชาวประมง กองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ กรมประมง โทร 0-2558-0236 ต่อ 14727กรมประมง เตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง รับมือสถานการณ์สภาพอากาศแปรปรวน และผลกระทบของพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” 
          นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ในห้วงเวลาปัจจุบันประเทศไทยกำลัง เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนมีฝนตกชุกในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบถึงเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงขณะนี้มีประกาศแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ส่งผลให้ในช่วงวันที่  7–9 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จากสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศให้ติดตาม เฝ้าระวังพร้อมให้คำแนะนำ รวมถึงให้จัดเตรียมเครื่องมือ เช่น เครื่องสูบน้ำ อวน กระชัง เรือตรวจการประมง รถยนต์ พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง  
          สำหรับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ กรมประมงเล็งเห็นถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น หากประสบอุทกภัย จึงขอให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ให้พร้อม โดยดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ทบ1.) ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อความสะดวกในการรับการช่วยเหลือ และหากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรวางแผนการเพาะเลี้ยงให้เหมาะสม  
          กรณีเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงแบบปิด ควรปรับปรุงและเสริมคันบ่อให้สูงพอหรือสูงกว่าปริมาณน้ำที่เคยเจอสถานการณ์ ขุดลอกตะกอนดินในร่องระบายน้ำให้ทางน้ำไหลผ่านได้สะดวก ควบคุมและรักษาระดับน้ำในบ่อเลี้ยงให้อยู่ในระดับ 2 ใน 3 ส่วนของน้ำที่มีอยู่ในบ่อ และเริ่มทยอยจับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดขึ้นมาจำหน่ายเพื่อลดการสูญเสีย ตลอดจนจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น อวน เครื่องสูบน้ำ เครื่องเพิ่มออกซิเจนไว้ให้พร้อมสำหรับรับมือกับสถานการณ์  
          กรณีที่เลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังแหล่งน้ำแบบเปิด ควรตรวจสอบความแข็งแรงของกระชัง ล้างกระชัง อย่างสม่ำเสมอ ลดปริมาณการให้อาหารและเริ่มทยอยจับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดขึ้นมาจำหน่าย ลดความหนาแน่นของปริมาณสัตว์น้ำในกระชังเพื่อลดการสูญเสีย ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องเพิ่มอากาศเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ พร้อมเฝ้าระวังคุณภาพน้ำโดยเฉพาะอุณหภูมิและปริมาณออกซิเจนในน้ำ ที่อาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สัตว์น้ำที่เลี้ยงในกระชังน็อคน้ำ เนื่องจากเกิดการขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง 
          ทั้งนี้ เมื่อจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือภัยพิบัติในพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ได้รับผลกระทบ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนด้านประมงกับหน่วยงานของกรมประมงก่อนเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติ สามารถขอรับการช่วยเหลือได้ ดังนี้  
          1. กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล หรือหอยทะเล จะได้รับการช่วยเหลือ ไร่ละ 11,780 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่ 
          2. ปลาหรือสัตว์น้ำอื่นนอกเหนือจากข้อที่ 1 ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าว หรือร่องสวน (คิดเฉพาะพื้นที่เลี้ยง) ไร่ละ 4,682 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่  
          3. สัตว์น้ำตามข้อที่ 1 และข้อที่ 2 ที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ หรือที่เลี้ยงลักษณะอื่นที่คล้ายคลึงกันตารางเมตรละ 368 บาท รายละไม่เกิน 80 ตารางเมตร  
          ทั้งนี้ หากคิดคำนวณพื้นที่เลี้ยงแล้วได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินต่ำกว่า 368 บาท ให้ช่วยเหลือในอัตรารายละ 368 บาท 
          อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า ขอให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศ และสถานการณ์จากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากประสบปัญหาสามารถติดต่อขอคำแนะนำและการช่วยเหลือได้ที่สำนักงานประมงอำเภอ สำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ หรือกลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรและชาวประมง กองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ กรมประมง โทร 0-2558-0236 ต่อ 14727

 Tags

  •   Hits
  • ขอขอบคุณ ท่านฐานิสร์ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว และคณะ ขอขอบคุณ ท่านฐานิสร์ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว และคณะ  จำนวนผู้อ่าน 100  เข้าร่วมพิธีมอบนมให้กับนักเรียนตามโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปี 2568 เข้าร่วมพิธีมอบนมให้กับนักเรียนตามโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปี 2568  จำนวนผู้อ่าน 87 ถ่ายทอดองค์ความรู้ และสาธิตการเพาะพันธุ์ปลาด้วยชุดเพาะฟักเคลื่อนที่ (Mobile hatchery) ถ่ายทอดองค์ความรู้ และสาธิตการเพาะพันธุ์ปลาด้วยชุดเพาะฟักเคลื่อนที่ (Mobile hatc... จำนวนผู้อ่าน 83 กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน และกำหนดเครื่องมือ วิธีทำการประมง และเงื่อนไขในการทำการประมง พ.ศ. 2568 กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน และกำหนดเครื... จำนวนผู้อ่าน 81 อบรมเกษตรกร หลักสูตรการพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดธุรกิจปลาตะเพียนแปรรูป ภายใต้โครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 อบรมเกษตรกร หลักสูตรการพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดธุรกิจปลาตะเพียนแปรรูป ภายใต้โครงก... จำนวนผู้อ่าน 77 เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสา... จำนวนผู้อ่าน 74 เข้าร่วมโครงการนำร่องการปลูกไผ่หนามเป็นรั้วธรรมชาติเสริมแนวคูกันช้าง เข้าร่วมโครงการนำร่องการปลูกไผ่หนามเป็นรั้วธรรมชาติเสริมแนวคูกันช้าง  จำนวนผู้อ่าน 70 ประกาศจังหวัดสระแก้ว เรื่อง ผลการคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดสระแก้ว ประกาศ ณ วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ประกาศจังหวัดสระแก้ว เรื่อง ผลการคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการประมงปร... จำนวนผู้อ่าน 66 ติดตามการเลี้ยงปลาและให้คำแนะนำการเลี้ยงปลาดุก ภายใต้โครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มการผลิตด้านประมง กิจกรรมสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ติดตามการเลี้ยงปลาและให้คำแนะนำการเลี้ยงปลาดุก ภายใต้โครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ... จำนวนผู้อ่าน 65 มอบปัจจัยการผลิตโครงการสนับสนุนด้านการประมงตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2568 มอบปัจจัยการผลิตโครงการสนับสนุนด้านการประมงตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า... จำนวนผู้อ่าน 64 ประชาสัมพันธ์งดทำการประมงฤดูน้ำแดง 2568 ฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัววัยอ่อน และกำหนดเครื่องมือ ประชาสัมพันธ์งดทำการประมงฤดูน้ำแดง 2568 ฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัว... จำนวนผู้อ่าน 64  เข้าร่วมตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม  เข้าร่วมตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม  จำนวนผู้อ่าน 62 ติดตามการดำเนินงาน ภายใต้โครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มการผลิตด้านประมง กิจกรรมสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ติดตามการดำเนินงาน ภายใต้โครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มการผลิตด้านประมง กิจกรรมสร... จำนวนผู้อ่าน 62 ร่วมรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่และร่วมหาทางช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ร่วมรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่และร่วมหาทางช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน  จำนวนผู้อ่าน 61 ประชาสัมพันธ์งดทำการประมงฤดูน้ำแดง 2568 ฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัววัยอ่อน และกำหนดเครื่องมือ วิธีการและเงื่อนไขในการทำการประมง ประชาสัมพันธ์งดทำการประมงฤดูน้ำแดง 2568 ฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัว... จำนวนผู้อ่าน 61


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 สำนักงานประมงจังหวัดสระแก้ว

    รายละเอียด เลขที่ 2 ถนนเทศบาล 18 ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว 27000  email  fpo-sakaew@dof.in.th  โทรศัพท์ 037241729  FAX 037242773  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6