กลุ่มพัฒนาระบบบริหารเข้าร่วมการประชุมสัมมนาโครงการวิเคราะห์และปรับกระบวนการทำงาน (Re-Process) และจัดทำระบบต้นแบบ (Prototype) เพื่อการบริการภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล

[2023-05-30] กรมประมงรับรางวัลหน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์การประกวดเว็บไซต์ที่ทุกคนเข้าถึงไ.. [2023-05-19] กรมประมง คว้ารางวัลชนะเลิศ Ombudsman Awards ประจำปี 2565.. [2023-05-18] เปิดรับสมัครการประกวดหน่วยงานกรมประมงที่มีแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practi.. [2023-04-25] การตรวจประเมินรางวัล Ombudsman Awards ในขั้นตอนที่ 3 สาขาองค์กรดีเด่นด.. [2023-04-21] การร่วมหารือกับที่ปรึกษาโครงการ และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานของ ก.พ.ร. ใน.. [2023-04-21] การประชุมเตรียมความพร้อมการตรวจประเมินรางวัล Ombudsman Awards ของสำนัก.. [2023-04-21] ความพึงพอใจต่อการให้บริการอนุมัติ อนุญาตของกรมประมงตามคู่มือประชาชน ปร.. [2023-04-10] PMQA Application Report.. [2023-04-07] "ดร.ช่อน" นำทีมนำเสนอผลงาน (SMART FSW) เพื่อคัดเลือกรางวัล Ombudsman A.. [2023-03-22] กรมประมงเข้ารับการตรวจประเมินรางวัล Ombudsman Awards ประจำปี 2565.. อ่านทั้งหมด 

กลุ่มพัฒนาระบบบริหารเข้าร่วมการประชุมสัมมนาโครงการวิเคราะห์และปรับกระบวนการทำงาน (Re-Process) และจัดทำระบบต้นแบบ (Prototype) เพื่อการบริการภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล 

ส่ง email ทวิต Tweeter ส่ง Line แชร์ Facebook

?? กลุ่มพัฒนาระบบบริหารเข้าร่วมการประชุมสัมมนาโครงการวิเคราะห์และปรับกระบวนการทำงาน (Re-Process) และจัดทำระบบต้นแบบ (Prototype) เพื่อการบริการภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 2-3 ??

?? วันที่ 18 มกราคม 2566 สำนักงาน ก.พ.ร. จัดประชุมสัมมนาโครงการวิเคราะห์และปรับกระบวนการทำงาน (Re-Process) และจัดทำระบบต้นแบบ (Prototype) เพื่อการบริการภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายผลการพัฒนากระบวนการทำงานและการให้บริการไปยังหน่วยงานภาครัฐอื่น ซึ่งมีผู้แทนส่วนราชการเข้าร่วมจำนวน 130 คน จาก 60 หน่วยงาน โดยมีนางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร กล่าวเปิดการประชุมสัมมนาฯ ซึ่งได้กล่าวถึงความสำคัญของการปรับตัวของภาครัฐและการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนางานบริการภาครัฐ เนื่องจากวิกฤตโควิด-19 และเทรนด์ใหม่ในยุค VUCA World ส่งผลให้ภาครัฐในอนาคตต้องมีการปรับตัว เช่น การนำนวัตกรรมมาปรับใช้ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความสามารถในการรวมความหลากหลายของคนในองค์กรที่มีทักษะความรู้ที่แตกต่างกัน ซึ่งแนวคิดการอออกแบบงานภาครัฐรูปแบบใหม่ ได้แก่ 1) ส่งเสริมการให้บริการในรูปแบบอัตโนมัติ (Automated Processing) 2) นำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาให้บริการ ประชาชนไม่ต้องมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ (Zero-touch) 3) ลดขั้นตอนการอนุมัติ อนุญาต และ 4) ทบทวนปัญหาอุปสรรคของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติ อนุญาต ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามหมุดหมายที่ 13 ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ซึ่งต้องการให้ประเทศไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน

?? นางสาวนิชา สาทรกิจ ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ได้กล่าวชี้แจงการคัดเลือกและจัดกลุ่มงานบริการในโครงการทั้งหมดจำนวน 20 งานบริการ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 งานบริการออกใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มที่ 2 งานบริการขึ้นทะเบียนหรือรับจดทะเบียน และกลุ่มที่ 3 งานอื่น ๆ ได้แก่ งานบริการเกี่ยวกับระบบรับข้อมูลเพื่อจัดทำรายงาน (e-Filing & e-Report) ระบบทะเบียนรายชื่อ ระบบรับยื่นความประสงค์ขออบรม จองสิทธิ์การเข้าอบรมและรองรับการเรียนรู้ออนไลน์ ระบบจองสิทธิ์การเข้าพื้นที่ (e-Ticket) และระบบขอเอกสารรับรอง (e-Stamp) โดยการประชุมสัมมนาฯ ครั้งนี้เป็นการขยายผลการศึกษาและพัฒนางานบริการในกลุ่มที่ 1 ซึ่งประกอบด้วยงานบริการ ดังนี้

?? งานบริการที่ 1 ระบบการรับรองมาตรฐาน GAP ประมง

?? งานบริการที่ 2 ระบบการรับรองมาตรฐาน GAP พืช

?? งานบริการที่ 3 การยื่นรับการจัดที่ดินแทนที่เกษตรกรผู้ได้รับการจัดให้เข้าทำประโยชน์ซึ่งสละสิทธิ

?? งานบริการที่ 4 การขอความยินยอมหรือใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน

?? งานบริการที่ 5 ระบบ e-Service การบริหารจัดการสัตว์ป่าควบคุมในการรับแจ้งการครอบครอง การขออนุญาตเพาะพันธุ์ และขออนุญาตค้า

?? งานบริการที่ 6 การอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (กรณีการขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์)

?? งานบริการที่ 7 การอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (การขอรับใบอนุญาตให้ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์)

?? จากนั้น ดร.ชนะกัญจน์ ศรีรัตนบัลล์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และทีมที่ปรึกษาได้นำเสนอแนวทางและแผนการดำเนินงาน ในการปรับกระบวนการทางาน (Re-Process) เพื่อรับคำขอหรือให้บริการในรูปแบบดิจิทัลได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน (24/7) ในแต่ละกลุ่มความพร้อมในรูปแบบ Web Service และระบบต้นแบบ (Prototype) ของหน่วยงานภาครัฐนำร่องในงานกลุ่มที่ 1 พร้อมทั้งได้นำเสนอการวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการปรับปรุงกระบวนงาน (Re-Process) เห็นได้ว่าจะมีการประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้รับบริการในแต่ละงานไม่ต่ำกว่ารายละ 1,000 บาท นอกจากนี้งานบริการในกลุ่มนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานบริการอื่น ๆ ได้ เช่น การรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีด้านปศุสัตว์ (GAP) สำหรับสถานที่ฟักไข่สัตว์ปีก การขอโอนสิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุ การยื่นขออนุญาติใช้ประโยชน์ในที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์ การขออนุญาตและจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมการค้า/หอการค้า การขออนุญาตนำสินค้าออก หรือกลับคืนโรงอุตสาหกรรม คลังสินค้าทัณฑ์บน หรือสถานที่อื่น เป็นต้น นอกจากนี้ หน่วยงานยังให้ความสนใจเกี่ยวกับการเชื่อมโยงข้อมูลและระบบงานของหน่วยงานภาครัฐอื่น อาทิเช่น การชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบ e-Payment Portal of Government ของกรมบัญชีกลาง การยืนยันตัวตนผ่าน D.DOPA และการเชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนราษฎร ของกรมการปกครอง เพื่อใช้ประโยชน์จากการระบบที่ได้พัฒนาไว้แล้ว และยังเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐผ่านดิจิทัลด้วย

 

?? วันที่ 19 มกราคม 2566 สำนักงาน ก.พ.ร. จัดประชุมสัมมนาโครงการวิเคราะห์และปรับกระบวนการทำงาน (Re-Process) และจัดทำระบบต้นแบบ (Prototype) เพื่อการบริการภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายผลการพัฒนากระบวนการทำงานและการให้บริการไปยังหน่วยงานภาครัฐอื่น ซึ่งมีผู้แทนส่วนราชการเข้าร่วมจำนวน 151 คน จาก 60 หน่วยงาน โดยมีนายชัยณรงค์ โชไชย ที่ปรึกษาการขับเคลื่อนระบบราชการด้านนวัตกรรมดิจิทัลภาครัฐ สำนักงาน ก.พ.ร. กล่าวเปิดการประชุมสัมมนาฯ โดยให้ความสำคัญในเรื่องการปรับกระบวนการทำงาน (Re-Process) การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาในใช้ และการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้รองรับการทำงานในยุคดิจิทัล ผลการดำเนินการของโครงการนี้จะเป็นแนวทางให้หน่วยงานภาครัฐได้นำไปพัฒนางานบริการของหน่วยงานต่อไป ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนภาครัฐให้ก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล จากนั้น ได้กล่าวชี้แจงวัตถุประสงค์ แผนการดำเนินงาน การคัดเลือกและจัดกลุ่มงานบริการในโครงการทั้งหมดจำนวน 20 งานบริการ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 งานบริการออกใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มที่ 2 งานบริการขึ้นทะเบียนหรือรับจดทะเบียน และกลุ่มที่ 3 งานอื่น ๆ ได้แก่ งานบริการเกี่ยวกับระบบรับข้อมูลเพื่อจัดทำรายงาน (e-Filing & e-Report) ระบบทะเบียนรายชื่อ ระบบรับยื่นความประสงค์ขออบรม จองสิทธิ์การเข้าอบรมและรองรับการเรียนรู้ออนไลน์ ระบบจองสิทธิ์การเข้าพื้นที่ (e-Ticket) และระบบขอเอกสารรับรอง (e-Stamp) โดยการประชุมสัมมนาฯ ครั้งนี้เป็นการขยายผลการศึกษาและพัฒนางานบริการในกลุ่มที่ 2 ซึ่งประกอบด้วยงานบริการ ดังนี้

?? งานบริการที่ 8 การขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ขึ้นทะเบียนเกษตรกรประมง ทบ.1, ทบ.3)

?? งานบริการที่ 9 การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการด้านประมง (ทบ.2)

?? งานบริการที่ 10 งานขึ้นทะเบียนสถานประกอบการส่งออกสัตว์น้ำ

?? งานบริการที่ 11 การจดทะเบียนผู้ส่งออกผักและผลไม้ไปต่างประเทศ

?? งานบริการที่ 12 การขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช

?? งานบริการที่ 13 การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ

?? งานบริการที่ 14 การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ

?? จากนั้น ดร.ธนาวิชญ์ จินดาประดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และทีมที่ปรึกษาได้นำเสนอแนวทางและแผนการดำเนินงาน ในการปรับกระบวนการทำงาน (Re-Process) เพื่อรับคำขอหรือให้บริการในรูปแบบดิจิทัลได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน (24/7) ในแต่ละกลุ่มความพร้อมในรูปแบบ Web Service และระบบต้นแบบ (Prototype) ของหน่วยงานภาครัฐนำร่องในงานกลุ่มที่ 2 ซึ่งการพัฒนาระบบต้นแบบได้มีแนวคิดหลัก 2 ประเด็น ได้แก่ 1) Digital Transformation การแปรรูปทางดิจิทัล และ 2) Digital Collaborative Technology การผสานการทำงานร่วมกันทางดิจิทัล เพื่อยกระดับประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้รับบริการ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่อีกด้วย พร้อมทั้งได้นำเสนอวิธีการสมัครการเข้าใช้ระบบต้นแบบด้วยระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) และความคุ้มค่าในการปรับปรุงกระบวนทำงาน (Re-Process) ซึ่งนอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้รับบริการเฉลี่ยรายละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทแล้ว ยังช่วยให้ประหยัดเวลาในการติดต่อขอรับบริการ และสามารถติดตามสถานะการขอรับบริการได้อีกด้วย นอกจากนี้งานบริการในกลุ่มนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานบริการอื่น ๆ ได้ เช่น การขึ้นทะเบียนเกษตรผู้เลี้ยงหม่อนไหม การลงทะเบียนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP การออกหนังสือแจ้งการนำเข้าซึ่งอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักร (นส.4) (อาหารสัตว์น้ำ) การขึ้นทะเบียนสิทธิผู้ประกอบการสมุนไพร การขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งผลิตพืชควบคุม การยื่นคำขอการช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา การยื่นคำขอรับทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัดคืน เป็นต้น

? ภายในงานได้นำระบบต้นแบบงานบริการต่าง ๆ ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ทดลองใช้ นอกจากนี้ หน่วยงานยังให้ความสนใจนำระบบต้นแบบไปพัฒนาต่อ การพัฒนาในฟังก์ชันต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับใช้กับงานบริการของหน่วยงาน รวมถึงให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์เพื่อพัฒนางานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น Digital ID สำหรับการเข้าใช้งานบริการภาครัฐควรมีชุดเดียว เพื่อสะดวกต่อการใช้งานของประชาชน เป็นต้น