การลงพื้นที่ติดตามโครงการ “ครัวเรือนพ้นจน คนอุบลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” จำนวน 4 ครัวเรือน ในพื้นที่ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี


[2025-11-19] ประมงอำเภอวารินชำราบ ติดตามผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่อำ.. [2025-11-19] ประมงอุบลฯ ประชุมเตรียมความพร้อมจัดงาน “กินปลาฮักโขง ซอฟท์พาวเวอร์จากส.. [2025-11-19] ประมงอำเภอวารินชำราบลงพื้นที่ ประชาสัมพันธ์-รับสมัครเกษตรกรร่วมโครงกา.. [2025-11-19] ประมงอำเภอสิรินธร เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนตำบลนิคมสร้า.. [2025-11-19] ประมงอำเภอนาจะหลวย ประชาสัมพันธ์รับสมัครเกษตรกรร่วมโครงการส่งเสริมการ.. [2025-11-19] ประมงอุบล ร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนงานด้านการเกษตรระดับจังหวัด จั.. [2025-11-19] ประมงอำเภอตระการพืชผล รับสมัครเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง เข้.. [2025-11-17] ประมงอำเภอศรีเมืองใหม่ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและเตรียมความพร้อมเกษตรกรเพ.. [2025-11-17] ประมงอำเภอศรีเมืองใหม่ ลงพื้นที่พบปะและเยี่ยมเยียนเตรียมความพร้อมเกษตร.. [2025-11-17] ประมงอุบลฯ ร่วมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมร.. อ่านทั้งหมด 

การลงพื้นที่ติดตามโครงการ “ครัวเรือนพ้นจน คนอุบลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” จำนวน 4 ครัวเรือน ในพื้นที่ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี 

 บริการประชาชน  เพาะเลี้ยง / ส่งเสริมเกษตรกร

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

 วันที่ 14 ธันวาคม 2563 เวลา 14.00 น. นายประชุม ดวนใหญ่ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง ร่วมกับนางสาวกานต์รวี รักผล ประมงอำเภอสิรินธร และเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง ลงพื้นตรวจเยี่ยมครอบครัวครัวเรือนที่สำนักงานประมงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นหน่วยงานพี่เลี้ยง ตามโครงการ “ครัวเรือนพ้นจน คนอุบลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” จำนวน 4 ครัวเรือน ในพื้นที่ ม.11,13  ต. คันไร่ ม.8,13 ต.นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อเข้าไปพบปะ พูดคุย ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ ติดตามและประเมินผลการสนับสนุนปัจจัยการผลิตและยังชีพ ได้แก่ เมล็ดพันธุ์ผัก ปลาดุกในกระชังบก  โดยพบว่า เมล็ดพันธุ์ผักที่ทางสำนักงานมอบให้แก่ครัวเรือนทั้ง 4 ครัวเรือน ได้นำไปปลูกและใช้ประโยชน์โดยการนำมาบริโภคในครัวเรือน จำนวน 3 ครัวเรือน ได้แก่ ครัวเรือนนายจันทรี มงคลกุล  ครัวเรือนนางเฮือน ฝางคำ และครัวเรือนนางบุญเพ็ง เยาวบุตร ซึ่งการปลูกผักทั้ง 3 ครัวเรือนใช้น้ำจากการเปลี่ยนถ่ายจากกระชังเลี้ยงปลาเพื่อนำมารด และเมื่อเจ้าหน้าลองชิม พบว่ามีรสชาติหวาน กรอบ เนื่องจากปลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ส่วนการเลี้ยงปลาดุกในกระชังบก พบว่า ทั้ง 4 ครัวเรือน เล็งเห็นแล้วว่าเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง จากการที่เจ้าหน้าที่สอบถาม ก็พบว่า นอกจากการบริโภคในครัวเรือนแล้ว   ยังสามารถทำให้เกิดรายได้เสริมในครัวเรือน โดยขายในชุมชน กิโลกรัมละ 60 – 70 บาท เฉลี่ย 20 – 30 กิโลกรัม/ครัวเรือน เป็นเงินประมาณ 2,100 บาท (ยังมีปลาดุกหมุนเวียนขายตลอด) ที่เป็นเงินรายได้ใช้เมื่อจำเป็น  (#)และในกรณียายเฮือน ฝางคำ อายุ 80 ปี สามารถตอบคำถามเจ้าหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า เลี้ยงปลาดุกต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำ นำน้ำในกระชังปลามารดผัก และเมื่ออาหารปลาหมดก็นำเงินที่ได้จากการขายปลามาซื้อเพิ่ม และ (#)เงินในส่วนที่ขายปลาได้ก็เป็นเงินสำหรับให้หลานไปโรงเรียน ยายเฮือนก็ยังมีความภูมิใจ และต่อยอดนำเงินซื้อพันธุ์ปลาดุกมาเลี้ยงเสริมอีกด้วย


คุยกับน้องมัจฉา Add Friends คุยกับน้องมัจฉา