ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำปาง
กรมประมง ใช้เวลาเพียง 6 เดือนในการเพาะพันธุ์ปลารากล้วยจินดา สำเร็จครั้งแรก หลังพบในธรรมชาติเสี่ยงสูญพันธุ์ โดยรวบรวมพ่อแม่จากธรรมชาติ 77 ตัวจากแหล่งน้ำในพื้นที่ จ.ลำปาง และเพิ่มประชากรได้ 5,500 ตัว เตรียมปล่อยลงคืนธรรมชาติก.ย.นี้
วันนี้(22 ส.ค.2561) ?นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ขณะนี้กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำปาง สามารถเพาะพันธุ์ “ปลารากกล้วยจินดา” ได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เพราะปลารากกล้วยจินดา จัดเป็นปลาพื้นถิ่นของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันจัดอยู่สถานภาพสุ่มเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ พบได้น้อยมากในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพราะเป็นปลาที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง อีกทั้ง ยังถูกจับขึ้นมาขายเป็นเมนูขึ้นโต๊ะประจำร้านอาหารมากมาย เช่น ปลารากกล้วยทอด หรือ ปลารากกล้วยแดดเดียวเนื่อง จากเป็นปลาที่มีรสชาติอร่อย ประชาชนนิยมรับประทาน ทำให้ให้ปลาในธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว
?กรมประมง มีนโยบายในการจัดทำโครงการอนุรักษ์ชนิดพันธุ์สัตว์น้ำประจำถิ่น และสัตว์น้ำหายากใกล้สูญพันธุ์ จึงได้สนับสนุนให้มีการศึกษาและทดลองเพาะพันธุ์ปลารากกล้วยจินดา โดยใช้เวลาเพียง 6 เดือน ก็สามารถศึกษาและเพาะพันธุ์ได้สำเร็จ
?นายสง่า ลีสง่า ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กล่าวว่า ปลารากกล้วยจินดา หรือ รากกล้วยแม่ปิง หรือ ซ่อนทราย เป็นปลาที่มีลักษณะรูปร่างเพรียวยาว ประมาณ 10-15 เซนติเมตร ลำตัวค่อนข้างกลม มีจะงอยปากยาวแหลม มีหนวดสั้นๆ 3 คู่ มีหนามแหลมอยู่ใต้ตา ตัวมีสีน้ำตาลอ่อน ผิวหนังเรียบและมีเมือกคลุม ส่วนหัวด้านบน และลำตัวมีจุดสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งต่างจากปลารากกล้วยชนิดอื่นที่มีหน้ายาวและจุดขนาดเล็กกว่า มีจำนวนครีบหลัง 10 ก้าน ครีบหางเว้าตื้นและมีแต้มดำ ชอบอาศัยอยู่อาศัยในแม่น้ำบริเวณที่มีพื้นท้องน้ำที่เป็นทราย โดยเฉพาะพบบริเวณแถบลุ่มน้ำโขง และลุ่มน้ำเจ้าพระยา
นายอรรถพล โลกิตสถาพร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำปาง ผู้ที่เพาะพันธุ์ปลารากล้วยจินดา กล่าวถึงกระบวนการเพาะพันธุ์ว่า ศูนย์น้ำจืดฯ ลำปาง ได้รวบรวมพันธุ์ปลารากกล้วยจินดาในธรรมชาติ มาตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2561 ในพื้นที่ลำห้วยสาขาต้นน้ำวัง อ.เมืองปาน อ.แจ้ห่ม และอ. วังเหนือ จ.ลำปาง จำนวน 77 ตัว โดยนำมาเลี้ยงไว้ กระทั่งเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา พบปลามีความสมบูรณ์เพศทั้งเพศผู้และเพศเมีย จึงได้ทดลองเพาะพันธุ์ครั้งแรกได้ลูกปลา จำนวน 40 ตัว และได้ศึกษาวิจัยเพิ่มเติมทดลองเพาะพันธุ์ต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง จนปัจจุบันมีอัตราการรอดและได้ลูกพันธุ์รวมแล้ว จำนวน 5,500 ตัว ซึ่งทางหลักวิชาการถือว่าประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์
จากการตรวจสอบเอกสารวิชาการของไทย ยังไม่พบว่ามีผู้ใดเพาะพันธุ์ปลาดังกล่าวได้สำเร็จ จึงถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่สามารถเพาะพันธุ์ปลารรากกล้วยจินดาได้สำเร็จ คาดว่าในช่วงต้นเดือนกันยายน จะร่วมกับประชาชนในพื้นที่ ในการนำลูกพันธุ์บางส่วนไปปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำที่ไปรวบรวมพ่อแม่พันธุ์มาเพื่อคงความหลากหลายและเพิ่มปริมาณประชากรปลารากกล้วยจินดาให้มากขึ้น
ที่มา https://news.thaipbs.or.th/content/274147