ประมงจังหวัดนครสวรรค์....เตือนเกษตรกรเตรียมรับมือ “ภัยแล้ง” หวั่น....ปี 2568 อาจมีแนวโน้มขาดแคลนน้ำ เสี่ยงกระทบต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

[2025-09-25] ประชุมคณะกรมการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ประจำเดือนกันยายน.. [2025-09-25] สำนักงานประมงจังหวัดนครสวรรค์ ลงพื้นที่ตรวจดูน้ำท่วม และดูผักตบที่ลอยข.. [2025-09-25] ประมงอำเภอโกรกพระ ร่วมพิธีเปิด มหกรรมสานพลัง พัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภ.. [2025-09-25] ประมงอำเภอบรรพตพิสัย ร่วมพิธีส่งมอบบ้านโครงการบ้านกาชาดเฉลิมพระเกียรติ.. [2025-09-25] ประมงอำเภอท่าตะโก ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอท่าตะโ.. [2025-09-25] ประมงอำเภอเมืองนครสวรรค์ ร่วมประชุมการพิจารณาออกประกาศเขตพื้นที่ประสบส.. [2025-09-25] กิจกรรมจิตอาสาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร์อดุลย์.. [2025-09-25] กิจกรรมอบรมการใช้งานระบบบริหารจัดการสำนักงาน e-Office.. [2025-09-25] ลงพื้นที่ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ตำบลบึงเสนาท และ หมู่ 10 ตำบลบ้านม.. [2025-09-25] พิธีเปิดงาน "มหกรรมธงฟ้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค จังหวัดนครสวรรค์".. อ่านทั้งหมด 

ประมงจังหวัดนครสวรรค์....เตือนเกษตรกรเตรียมรับมือ “ภัยแล้ง” หวั่น....ปี 2568 อาจมีแนวโน้มขาดแคลนน้ำ เสี่ยงกระทบต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

นายวชิระ กว้างขวาง ประมงจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรได้คาดการณ์สถานการณ์ภัยแล้งปี 2568 อาจมีแนวโน้มขาดแคลนน้ำ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูแล้งช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยอุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น และอาจแล้งต่อเนื่องยาวนานไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2568 ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติและแหล่งน้ำชลประทานแห้งลง ส่งผลกระทบต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ นอกจากนี้ สภาวะดังกล่าวยังทำให้อุณหภูมิน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุให้สัตว์น้ำที่เกษตรกรเลี้ยงไว้เกิดความเครียด อ่อนแอ และตายได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ขอให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ควรปฏิบัติ ดังนี้

1. ควรปรับลดขนาดการผลิต หรืองดเว้นการเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยทำการตากบ่อและตกแต่งบ่อเลี้ยงในช่วงฤดูแล้งแทน เพื่อเตรียมไว้เลี้ยงสัตว์น้ำในรอบต่อไป

2. หากจำเป็นต้องทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในหน้าแล้ง ควรคัดเลือกพันธุ์สัตว์น้ำที่มีความแข็งแรงจากฟาร์มผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้

3. ควบคุมการใช้น้ำและรักษาปริมาณน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำให้มีการสูญเสียน้อยที่สุด ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมคันบ่อเพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำ และจัดทำร่มเงาให้กับสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง

4. จัดเตรียมแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้เพิ่มเติม

5. ควรปล่อยสัตว์น้ำลงเลี้ยงในปริมาณหนาแน่นน้อยกว่าปกติ และควรปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ เพื่อลดระยะเวลาการเลี้ยงให้น้อยลง

6. เลือกใช้อาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพดี และลดปริมาณการให้อาหารสัตว์น้ำลง โดยเฉพาะอาหารสดเพื่อป้องกันปัญหาน้ำเน่าเสีย

7. ทยอยจับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดขึ้นจำหน่ายหรือบริโภค เพื่อลดปริมาณสัตว์น้ำภายในบ่อ

8. ควรงดเว้นการขนถ่ายสัตว์น้ำ ถ้าจำเป็นต้องระมัดระวังให้มาก เนื่องจากมีผลกระทบกับการกินอาหารและการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำโดยตรง

9. หมั่นตรวจสุขภาพสัตว์น้ำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบสิ่งผิดปกติควรรีบหาสาเหตุและแก้ไขทันที กรณีมีสัตว์น้ำป่วยตายควรกำจัดโดยการฝังกลบหรือเผาเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

******************************

การเลี้ยงในกระชัง ควรปฏิบัติดังนี้

1. ควรปรับลดขนาดการผลิต หรืองดเว้นการเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยทำความสะอาดและซ่อมแซมกระชังในช่วงฤดูแล้งแทน เพื่อเตรียมไว้เลี้ยงสัตว์น้ำในรอบต่อไป

2.หากจำเป็นต้องเลี้ยงสัตว์น้ำควรคัดเลือกพันธุ์สัตว์น้ำที่มีความแข็งแรง จากฟาร์มผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้

3. ควรเลือกแหล่งน้ำที่ตั้งกระชังที่มีระดับความลึกเพียงพอ เมื่อตั้งกระชังแล้วพื้นกระชังควรสูงจากพื้นน้ำไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร เพื่อให้น้ำถ่ายเทได้สะดวกตลอดเวลา และไม่วางชิดกันจนหนาแน่นมากเกินไป เพราะจะไปขัดขวางการไหลของกระแส

4. ควรปล่อยสัตว์น้ำลงเลี้ยงในปริมาณหนาแน่นน้อยกว่าปกติ และควรปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่เพื่อลดระยะเวลาการเลี้ยงให้น้อยลง ก่อนปล่อยสัตว์น้ำลงเลี้ยงในกระชัง ควรปรับสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะคุณสมบัติของน้ำในภาชนะลำเลียงสัตว์น้ำ ควรมีคุณสมบัติใกล้เคียงกันกับน้ำที่ต้องการปล่อยสัตว์น้ำ เช่น อุณหภูมิ ค่าความเป็นกรดด่าง เป็นต้น

5. ควรเลือกใช้อาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพดีและให้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นอาหารสดเพื่อป้องกันน้ำเน่าเสีย

6. ควรเพิ่มความสนใจ สังเกตอาการต่าง ๆ ของสัตว์น้ำที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติจะได้แก้ไขและให้การรักษาได้ทันท่วงที

7. ควรทำความสะอาดกระชังสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดตะกอนและเศษอาหาร ซึ่งเป็นการตัดวงจรชีวิตปรสิตและเชื้อโรค นอกจากนี้ช่วยให้กระแสน้ำไหลผ่านกระชังได้ดี มีผลต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพสัตว์น้ำ

8. ควรงดเว้นการขนถ่ายสัตว์น้ำ ถ้าจำเป็นต้องระมัดระวังให้มากเนื่องจากจะมีผลกระทบกับการกินอาหารและการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำโดยตรง

9. จับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดขึ้นมาจำหน่ายหรือบริโภค เพื่อลดปริมาณสัตว์น้ำภายในกระชัง

10. ควรหมั่นตรวจสุขภาพสัตว์น้ำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบสิ่งผิดปกติ ให้รีบหาสาเหตุและแก้ไขได้ทันที

ประมงจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เกษตรกรควรติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศและสถานการณ์น้ำจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และหากมีปัญหาในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สามารถขอรับคำปรึกษาและคำแนะนำได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัด โทร 056-803-547

 


คุยกับน้องมัจฉา Add Friends คุยกับน้องมัจฉา