กรมประมง ย้ำ ! ใช้ หรือ มีไว้ครอบครอง “ไอ้โง่”เพื่อทำประมงในแหล่งน้ำสาธารณะ ผิดกฎหมายทุกกรณี

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


กรมประมง ย้ำ ! ใช้ หรือ มีไว้ครอบครอง “ไอ้โง่”เพื่อทำประมงในแหล่งน้ำสาธารณะ ผิดกฎหมายทุกกรณี 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

HOT กรมประมง ย้ำ ! ใช้ หรือ มีไว้ครอบครอง “ไอ้โง่”เพื่อทำประมงในแหล่งน้ำสาธารณะ ผิดกฎหมายทุกกรณี..คลิก

?นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 67 ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดใช้หรือมีไว้ในครอบครอง “เครื่องมือลอบพับได้” หรือที่เรียกว่า “ไอ้โง่” เพื่อใช้เครื่องมือดังกล่าวทำการประมงในแหล่งน้ำสาธารณะประโยชน์ทั้งพื้นที่ทะเลและพื้นที่น้ำจืดโดยเด็ดขาด เป็นการทำลายพันธุ์สัตว์น้ำซึ่งส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนต่อทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างมาก ยกเว้นให้ใช้จับสัตว์น้ำได้เฉพาะในบ่อเพาะเลี้ยงที่เอกชนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองเท่านั้น ?เนื่องจากการศึกษาเก็บข้อมูลทางวิชาการ พบว่า เครื่องมือลอบพับได้ หรือ ไอ้โง่ เป็นเครื่องมือทำการประมงประเภทใช้ดักจับสัตว์น้ำ รูปร่างลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมหรือทรงกลม ด้านข้างมีทางเข้าของสัตว์น้ำทั้งสองด้านอยู่สลับกันทั้งซ้ายขวา ลอบ 1 ลูก จะมีความยาวประมาณ 8 เมตร ซึ่งเมื่อนำมาทำการประมงในแหล่งน้ำสาธารณะจะมีประสิทธิภาพจับสัตว์น้ำได้หลายชนิด โดยจากการเก็บข้อมูลในพื้นที่ทะเลอ่าวไทย พบว่าชาวประมงแต่ละรายใช้เครื่องมือดังกล่าวทำการประมงตั้งแต่ 8 – 100 ลูก วางต่อกันเป็นแนวยาวที่ความลึกของระดับน้ำประมาณ 0.60 – 10 เมตร และใช้ทำการประมงในช่วงตั้งแต่เวลาบ่ายถึงเย็นทิ้งไว้ในเวลากลางคืนและมาเก็บกู้ในตอนเช้าหรือสายของวันรุ่งขึ้น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6 – 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ใน 1 เดือน สามารถทำการประมงได้ 10 – 30 วัน โดยอัตราการจับสัตว์น้ำเพียง 1 ลำ สามารถจับสัตว์น้ำได้ เฉลี่ยจำนวน 15 กิโลกรัม ประกอบด้วย กลุ่มกุ้งทะเล ร้อยละ 35.39 – 73.68 กลุ่มปลาเศรษฐกิจ ร้อยละ 14.21 – 49.73 กลุ่มปูทะเล ร้อยละ 2.78 – 21.22 ที่สำคัญ คือ พบว่าทุกกลุ่มชนิดสัตว์น้ำที่จับได้มีสัดส่วนขนาดความยาวเฉลี่ยน้อยกว่าระยะแรกเริ่มสืบพันธุ์ในสัดส่วนที่สูงถึง ร้อยละ 80 โดยเฉพาะในกลุ่มกุ้งทะเล ที่มีสัดส่วนขนาดความยาวก่อนระยะแรกเริ่มสืบพันธุ์ที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 80 – 100 ซึ่งแสดงถึงการที่สัตว์น้ำถูกจับไปใช้ก่อนวัยอันควร ส่งผลทำให้สัตว์น้ำที่ยังไม่ได้มีโอกาสผสมพันธุ์วางไข่แม้แต่ครั้งเดียวถูกจับขึ้นไปใช้ประโยชน์ เป็นการทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างรุนแรง เพราะทำให้ไม่สามารถที่จะเกิดสัตว์น้ำในรุ่นถัดไปได้ เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก ดังนั้น กฎหมายจึงได้บัญญัติห้ามใช้หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้เครื่องมือดังกล่าวทำการประมงในแหล่งน้ำสาธารณะประโยชน์โดยเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม เครื่องมือลอบพับได้ หรือ ไอ้โง่ ไม่ได้ถูกห้ามใช้จับสัตว์น้ำในบ่อเพาะเลี้ยง จึงสามารถหาซื้อได้ง่ายในตลาดทั่วไป ส่งผลให้มีผู้ลักลอบใช้เครื่องดังกล่าวจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา และทะเลอ่าวไทยในพื้นที่ชายฝั่ง ในปี 2563 มีผลการจับกุม จำนวน 103 คดี ผู้ต้องหา 20 ราย และล่าสุดในปี 2564 จนถึงปัจจุบัน พบมี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเครื่องมือชนิดนี้แล้วกว่า 51 คดี ซึ่งผู้กระทำผิดลักลอบทำการประมงด้วยเครื่องมือชนิดดังกล่าวจะต้องระวางโทษมีอัตราการเปรียบเทียบปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาทหรือจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมงแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า นอกจากนี้ ตามบทบัญญัติ มาตรา 166 ของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ผู้สนับสนุนหรือผู้ได้รับผลตอบแทนจากการกระทำความผิด เช่น ผู้จำหน่ายเครื่องมือให้ไปกระทำผิด ก็เข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดและต้องได้รับโทษทางกฎหมายด้วยเช่นกัน

?ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ซึ่งให้นโยบาย 3 ป. ได้แก่ 1.ป้อง (สร้างความรู้ความเข้าใจป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิด) 2.ปราม (ปรามเตือนให้ผู้กระทำผิดรับรู้เข้าใจและไม่ทำผิดอีก) 3. ปราบ (ใช้มาตรการเข้มแข็งเข้มงวดทางกฎหมาย) ในการอนุรักษ์บริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดความยั่งยืนควบคู่ไปกับวิถีการประกอบอาชีพประมงที่มั่นคง ท่านอธิบดีกรมประมง นายมีศักดิ์ ภักดีคง มีความห่วงใยต่อพี่น้องชาวประมง ที่อาจจะกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งกฎหมายมีบทลงโทษที่สูง เนื่องจากเครื่องมือไอ้โง่เป็นเครื่องมือที่ทำลายสัตว์น้ำอย่างรุนแรง จึงได้แจ้งให้ประมงจังหวัดทุกแห่ง ชี้แจงถึงแนวทางในการดำเนินการควบคุมการใช้เครื่องมือลอบพับได้หรือไอ้โง่ทำการประมง รวมไปถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจให้พี่น้องชาวประมงและผู้จำหน่ายเครื่องมือลอบพับได้ทราบถึงข้อกฎหมาย ที่ได้อนุญาตให้ใช้หรือมีไว้ในครอบครองเครื่องมือดังกล่าว โดยอนุญาตให้ใช้ในการจับสัตว์น้ำในบ่อเพาะเลี้ยงเท่านั้นมิให้นำไปใช้ในแหล่งน้ำสาธารณะประโยชน์โดยเด็ดขาด พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ประมง เร่งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวประมง และผู้จำหน่ายเครื่องลอบพับได้ หรือ

ไอ้โง่ ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเน้นย้ำให้ใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัดตั้งแต่ขั้นจับกุม การสืบสวนพฤติกรรมการกระทำความผิด จนถึงการดำเนินการของคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับแต่ละจังหวัด ให้แสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิด ผู้ร่วมกระทำผิด ผู้สนับสนุน และผู้ได้รับประโยชน์จากการกระทำความผิด อย่างจริงจัง

กรมประมง ย้ำ ! ใช้ หรือ มีไว้ครอบครอง “ไอ้โง่”เพื่อทำประมงในแหล่งน้ำสาธารณะ ผิดกฎหมายทุกกรณี

?นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 67 ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดใช้หรือมีไว้ในครอบครอง “เครื่องมือลอบพับได้” หรือที่เรียกว่า “ไอ้โง่” เพื่อใช้เครื่องมือดังกล่าวทำการประมงในแหล่งน้ำสาธารณะประโยชน์ทั้งพื้นที่ทะเลและพื้นที่น้ำจืดโดยเด็ดขาด เป็นการทำลายพันธุ์สัตว์น้ำซึ่งส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนต่อทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างมาก ยกเว้นให้ใช้จับสัตว์น้ำได้เฉพาะในบ่อเพาะเลี้ยงที่เอกชนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองเท่านั้น ?เนื่องจากการศึกษาเก็บข้อมูลทางวิชาการ พบว่า เครื่องมือลอบพับได้ หรือ ไอ้โง่ เป็นเครื่องมือทำการประมงประเภทใช้ดักจับสัตว์น้ำ รูปร่างลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมหรือทรงกลม ด้านข้างมีทางเข้าของสัตว์น้ำทั้งสองด้านอยู่สลับกันทั้งซ้ายขวา ลอบ 1 ลูก จะมีความยาวประมาณ 8 เมตร ซึ่งเมื่อนำมาทำการประมงในแหล่งน้ำสาธารณะจะมีประสิทธิภาพจับสัตว์น้ำได้หลายชนิด โดยจากการเก็บข้อมูลในพื้นที่ทะเลอ่าวไทย พบว่าชาวประมงแต่ละรายใช้เครื่องมือดังกล่าวทำการประมงตั้งแต่ 8 – 100 ลูก วางต่อกันเป็นแนวยาวที่ความลึกของระดับน้ำประมาณ 0.60 – 10 เมตร และใช้ทำการประมงในช่วงตั้งแต่เวลาบ่ายถึงเย็นทิ้งไว้ในเวลากลางคืนและมาเก็บกู้ในตอนเช้าหรือสายของวันรุ่งขึ้น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6 – 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ใน 1 เดือน สามารถทำการประมงได้ 10 – 30 วัน โดยอัตราการจับสัตว์น้ำเพียง 1 ลำ สามารถจับสัตว์น้ำได้ เฉลี่ยจำนวน 15 กิโลกรัม ประกอบด้วย กลุ่มกุ้งทะเล ร้อยละ 35.39 – 73.68 กลุ่มปลาเศรษฐกิจ ร้อยละ 14.21 – 49.73 กลุ่มปูทะเล ร้อยละ 2.78 – 21.22 ที่สำคัญ คือ พบว่าทุกกลุ่มชนิดสัตว์น้ำที่จับได้มีสัดส่วนขนาดความยาวเฉลี่ยน้อยกว่าระยะแรกเริ่มสืบพันธุ์ในสัดส่วนที่สูงถึง ร้อยละ 80 โดยเฉพาะในกลุ่มกุ้งทะเล ที่มีสัดส่วนขนาดความยาวก่อนระยะแรกเริ่มสืบพันธุ์ที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 80 – 100 ซึ่งแสดงถึงการที่สัตว์น้ำถูกจับไปใช้ก่อนวัยอันควร ส่งผลทำให้สัตว์น้ำที่ยังไม่ได้มีโอกาสผสมพันธุ์วางไข่แม้แต่ครั้งเดียวถูกจับขึ้นไปใช้ประโยชน์ เป็นการทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างรุนแรง เพราะทำให้ไม่สามารถที่จะเกิดสัตว์น้ำในรุ่นถัดไปได้ เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก ดังนั้น กฎหมายจึงได้บัญญัติห้ามใช้หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้เครื่องมือดังกล่าวทำการประมงในแหล่งน้ำสาธารณะประโยชน์โดยเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม เครื่องมือลอบพับได้ หรือ ไอ้โง่ ไม่ได้ถูกห้ามใช้จับสัตว์น้ำในบ่อเพาะเลี้ยง จึงสามารถหาซื้อได้ง่ายในตลาดทั่วไป ส่งผลให้มีผู้ลักลอบใช้เครื่องดังกล่าวจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา และทะเลอ่าวไทยในพื้นที่ชายฝั่ง ในปี 2563 มีผลการจับกุม จำนวน 103 คดี ผู้ต้องหา 20 ราย และล่าสุดในปี 2564 จนถึงปัจจุบัน พบมี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเครื่องมือชนิดนี้แล้วกว่า 51 คดี ซึ่งผู้กระทำผิดลักลอบทำการประมงด้วยเครื่องมือชนิดดังกล่าวจะต้องระวางโทษมีอัตราการเปรียบเทียบปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาทหรือจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมงแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า นอกจากนี้ ตามบทบัญญัติ มาตรา 166 ของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ผู้สนับสนุนหรือผู้ได้รับผลตอบแทนจากการกระทำความผิด เช่น ผู้จำหน่ายเครื่องมือให้ไปกระทำผิด ก็เข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดและต้องได้รับโทษทางกฎหมายด้วยเช่นกัน

?ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ซึ่งให้นโยบาย 3 ป. ได้แก่ 1.ป้อง (สร้างความรู้ความเข้าใจป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิด) 2.ปราม (ปรามเตือนให้ผู้กระทำผิดรับรู้เข้าใจและไม่ทำผิดอีก) 3. ปราบ (ใช้มาตรการเข้มแข็งเข้มงวดทางกฎหมาย) ในการอนุรักษ์บริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดความยั่งยืนควบคู่ไปกับวิถีการประกอบอาชีพประมงที่มั่นคง ท่านอธิบดีกรมประมง นายมีศักดิ์ ภักดีคง มีความห่วงใยต่อพี่น้องชาวประมง ที่อาจจะกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งกฎหมายมีบทลงโทษที่สูง เนื่องจากเครื่องมือไอ้โง่เป็นเครื่องมือที่ทำลายสัตว์น้ำอย่างรุนแรง จึงได้แจ้งให้ประมงจังหวัดทุกแห่ง ชี้แจงถึงแนวทางในการดำเนินการควบคุมการใช้เครื่องมือลอบพับได้หรือไอ้โง่ทำการประมง รวมไปถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจให้พี่น้องชาวประมงและผู้จำหน่ายเครื่องมือลอบพับได้ทราบถึงข้อกฎหมาย ที่ได้อนุญาตให้ใช้หรือมีไว้ในครอบครองเครื่องมือดังกล่าว โดยอนุญาตให้ใช้ในการจับสัตว์น้ำในบ่อเพาะเลี้ยงเท่านั้นมิให้นำไปใช้ในแหล่งน้ำสาธารณะประโยชน์โดยเด็ดขาด พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ประมง เร่งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวประมง และผู้จำหน่ายเครื่องลอบพับได้ หรือ

ไอ้โง่ ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเน้นย้ำให้ใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัดตั้งแต่ขั้นจับกุม การสืบสวนพฤติกรรมการกระทำความผิด จนถึงการดำเนินการของคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับแต่ละจังหวัด ให้แสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิด ผู้ร่วมกระทำผิด ผู้สนับสนุน และผู้ได้รับประโยชน์จากการกระทำความผิด อย่างจริงจัง

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 4,453  กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้องเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความ... จำนวนผู้อ่าน 725 รมช.อัครา รับลูกข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มอบกรมประมง..เตรียมชง ครม.พิจารณาแผนปฏิบัติการ เพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ วงเงินงบประมาณกว่า 5 พันล้านบาท  หนุนปั้นผลผลิตให้ได้ 4.5 แสนตัน เพื่อดันอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้แข็งแกร่งในตลาดโลก รมช.อัครา รับลูกข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มอบกรมประมง..เตรียมชง ครม.พิจารณาแผนปฏิบั... จำนวนผู้อ่าน 506 กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง เริ่ม 1 เม.ย. 68 นี้ !! กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูท... จำนวนผู้อ่าน 505 กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”  ดันดาวเด่น 13 กลุ่มสินค้าประมง ร่วมยกระดับการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ในปี 2568   กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”... จำนวนผู้อ่าน 316 กรมประมง..ร่วมขับเคลื่อน “พะเยาโมเดล” สู่ต้นแบบการพัฒนาภาคประมงที่ยั่งยืน หนุนส่งเสริม “การเลี้ยงปลาในนาข้าว” ยกระดับวิถีเกษตรเมืองเหนือ   สร้างแหล่งอาหารให้ชุมชน สร้างความมั่นคงทางอาหาร กรมประมง..ร่วมขับเคลื่อน “พะเยาโมเดล” สู่ต้นแบบการพัฒนาภาคประมงที่ยั่งยืน หนุนส่... จำนวนผู้อ่าน 247 รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา  หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ” จำนวน 923 ลำ  รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงก... จำนวนผู้อ่าน 242 กรมประมงเดินหน้า...โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม   Kick off “แหล่งน้ำหนองโสกแบ่ง จ.มหาสารคาม” ประเดิมปี 68 พร้อมขยายผล 20 แห่ง ทั่วประเทศ สนองนโยบาย รมช.อัครา กรมประมงเดินหน้า...โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม Kick off “แหล่งน้ำ... จำนวนผู้อ่าน 240 รมช.อัครา ชูนวัตกรรมใหม่ เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมประมง หนุนกรมประมงเปิดตัวแอปพลิเคชันน้องใหม่ “Fisheries Next” อำนวยความสะดวกเจ้าของเรือประมงพาณิชย์ เชื่อมโยงทุกระบบ ครบ จบ ในแอปฯ เดียว พร้อมดาวน์โหลดแล้ว 19 ก.พ. นี้ ! รมช.อัครา ชูนวัตกรรมใหม่ เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมประมง หนุนกรมประมงเปิดตัวแอปพลิเ... จำนวนผู้อ่าน 234 กรมประมง เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรตรวจการประมงรุ่นที่ 15 เพื่อปลูกฝังแนวคิดอุดมการณ์ การบริหารจัดการทรัพยากรการประมง ทักษะความชำนาญทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ตรวจการประมงในการดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำและชาวประมงของประเทศ กรมประมง เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรตรวจการประมงรุ่นที่ 15 เพื่อปลูกฝังแนวคิดอุดมการณ... จำนวนผู้อ่าน 233  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทยสู่ตลาดโลก  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทย... จำนวนผู้อ่าน 200 กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย   จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา” ประจำปี 2568 ภายใต้ ก.เกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 2 ล้านตัว พร้อมควบคุมปลานักล่า “ชะโด” เพื่อสร้างความสมดุลระบบนิเวศกว๊านพะเยาสู่แหล่งอาหารชุมชนที่ยั่งยืน กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะ... จำนวนผู้อ่าน 197 กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุข สนุก และบุญไว้ในเเห่งเดียว ผ่านกิจกรรมจับปลาชะโด จับหนึ่งช่วยถึงสิบ คืนสมดุลชีวิตให้กว๊านพะเยา กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุ... จำนวนผู้อ่าน 193 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอมตากใบ” ขึ้นแท่นสินค้าใหม่ เพิ่มรายได้ให้ชาวประมง 3 เท่า ภายในปี 2570 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอม... จำนวนผู้อ่าน 187 ชาวประมงเฮ ! ไม่ต้องนำเรือกลับเข้าฝั่งจากปัญหาแรงงาน รมช.อัครา ผลักดันต่อเนื่อง  แก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานได้ทั้งระบบ โดยขออนุญาตได้ทั้งปี ชาวประมงเฮ ! ไม่ต้องนำเรือกลับเข้าฝั่งจากปัญหาแรงงาน รมช.อัครา ผลักดันต่อเนื่อง ... จำนวนผู้อ่าน 187


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6