รมว.ธรรมนัส ลุย จ.สมุทรสงคราม ติดตาม 2 ภารกิจกรมประมง ปราบ “ปลาหมอคางดำ” และ “นำเรือประมงออกนอกระบบ” มุ่งสร้างสมดุลทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


รมว.ธรรมนัส ลุย จ.สมุทรสงคราม ติดตาม 2 ภารกิจกรมประมง ปราบ “ปลาหมอคางดำ” และ “นำเรือประมงออกนอกระบบ” มุ่งสร้างสมดุลทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

NEW รมว.ธรรมนัส ลุย จ.สมุทรสงคราม  ติดตาม 2 ภารกิจกรมประมง ปราบ “ปลาหมอคางดำ”  และ “นำเรือประมงออกนอกระบบ” มุ่งสร้างสมดุลทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน..คลิก

วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม 2568 เวลา 13.00 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม  เพื่อติดตามความก้าวหน้า “โครงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ” ผ่าน 7 มาตรการ ซึ่งปัจจุบันสามารถกำจัดได้แล้วกว่า 7.3 ล้านกิโลกรัม และ “โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน” จำนวน 923 ลำ ตามที่ ครม. เห็นชอบวงเงิน 1,622,605,300 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้กับพี่น้องชาวประมง โดยมีนางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง ชี้แจงรายละเอียดความคืบหน้าของทั้งสองโครงการ และมีนายชยชัย แสงอินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ให้การต้อนรับร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ เกษตรกร ชาวประมง และประชาชนในพื้นที่
          นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง ชี้แจงถึงความคืบหน้าการดำเนินงานของกรมประมงในทั้งสองโครงการ ว่า สำหรับโครงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ กรมประมงได้เร่งเดินหน้าขับเคลื่อน “แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 – 2570” อย่างต่อเนื่อง ผ่าน 7 มาตรการสำคัญ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 จนถึงปัจจุบัน มีความคืบหน้าในแต่ละมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้
          มาตรการที่ 1 การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด กรมประมงได้เร่งรัดการกำจัดปลาหมอคางดำอย่างเต็มรูปแบบผ่านกิจกรรมต่าง ๆ จนสามารถกำจัดปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกร รวมยอดสะสมเป็นจำนวน 7,325,234.50 กิโลกรัม ซึ่งจากที่พบการแพร่ระบาดในแหล่งน้ำธรรมชาติจำนวน 19 จังหวัด ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 17 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นนทบุรี กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา  ส่วนจังหวัดที่ไม่พบการระบาดแล้ว คือ ปราจีนบุรี และพัทลุง  อีกทั้งในภาพรวมของสถานการณ์ในหลายพื้นที่เริ่มบรรเทาลง โดยพบความชุกชุมในระดับน้อยถึง 9 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา นนทบุรี กรุงเทพมหานคร สมุทรสงคราม นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา  พบความชุกชุมในระดับปานกลาง 8 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และนครศรีธรรมราช (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กันยายน 2568)
          มาตรการที่ 2 การกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ กรมได้สำรวจความชุกชุมการแพร่ระบาดเป็นประจำทุกเดือน รวมทั้งมีการสำรวจและศึกษาพันธุ์ปลาผู้ล่าให้มีความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เพื่อปล่อยให้สอดคล้องกับระบบนิเวศเดิม สำหรับเป็นแหล่งอาหารและแหล่งสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยได้มีการปล่อยปลาผู้ล่ารวมแล้วกว่า 1,130,600 ตัว
ประกอบด้วย ปลากะพงขาว ปลาอีกง ปลาช่อน ปลากราย ปลากดเหลือง และปลากินเนื้ออื่น  ๆ 
          นอกจากนี้ กรมประมงยังได้ริเริ่ม โครงการ “สิบหยิบหนึ่ง” เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรนำปลาผู้ล่าไปปล่อยในบ่อเพาะเลี้ยง หลังจากนั้น 3 เดือน เมื่อปลาได้ขนาดโตเต็มศักยภาพ จะแบ่งปลาร้อยละ 10 เพื่อนำไปปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการกำจัดอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

          มาตรการที่ 3 การนำปลาหมอคางดำที่กำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ ได้ร่วมกับการยางแห่งประเทศไทย และกรมพัฒนาที่ดิน นำปลาหมอคางดำที่ถูกกำจัดไปผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางภายใต้โครงการแปลงใหญ่นำไปใช้เพิ่มธาตุอาหารและเพิ่มผลผลิตยางพารา ซึ่งมีปริมาณถึง 4,938,740.50 กิโลกรัม พร้อมส่งเสริมการบริโภคโดยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการผลิตเป็นปลาร้า รวมกว่า 385,425 กิโลกรัม  นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนภาคเอกชนนำไปผลิตเป็นปลาป่นเพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ได้ปริมาณถึง 2,001,069 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 34 ล้านบาท 
          มาตรการที่ 4 การสำรวจและเฝ้าระวังการแพร่กระจายของประชากรปลาหมอคางดำในพื้นที่กันชน ได้จัดทำระบบแจ้งเตือนตำแหน่ง สำหรับให้ประชาชนแจ้งพิกัดการพบปลาหมอคางดำได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยให้สามารถตรวจจับการบุกรุกและรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที  พร้อมออกประกาศที่เกี่ยวข้องกับการห้ามเพาะเลี้ยง ห้ามเคลื่อนย้ายปลาหมอคางดำ โดยมีผลบังคับใช้แล้ว 7 ฉบับ
          มาตรการที่ 5 สร้างความรู้ ความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในการกำจัดปลาหมอคางดำ ได้มีการบูรณาการและสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ เช่น กรมราชทัณฑ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมจัดทำคลิปวีดิโอและคู่มือประชาสัมพันธ์การป้องกันและกำจัดปลาหมอคางดำ
          มาตรการที่ 6 การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม  ขณะนี้กรมประมงกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาผลการทดลองเลี้ยงปลาหมอคางดำ 4n ในระบบเลียนแบบธรรมชาติ และหากได้ผลเป็นที่น่าพอใจจะกระจายการเพาะเลี้ยงไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำของกรมประมงทั่วประเทศ เพื่อเร่งผลิตปลาหมอคางดำ 4n และปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป
           มาตรการที่ 7 การฟื้นฟูระบบนิเวศ แบ่งเป็นระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ในระยะแรก กรมฯ ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลคุณภาพน้ำและองค์ประกอบความหลากหลายทางชีวภาพในแต่ละแหล่งน้ำ ดำเนินการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำที่มีความหลากหลายเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2568 สามารถปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำได้จำนวนกว่าเจ็ดสิบห้าล้านตัว
          จากนั้น รองอธิบดีกรมประมง ได้กล่าวถึงความก้าวหน้าของโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 สำหรับการชดเชยเรือประมงที่จะนำออกนอกระบบทั่วประเทศจำนวน 923 ลำ วงเงินรวม 1,622,605,300 บาท เพื่อบริหารกองเรือให้มีความสมดุลกับทรัพยากรประมงทะเล และเกิดความยั่งยืนในการใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำ โดยวิธีการลดจำนวนเรือประมงให้เหมาะสมกับปริมาณทรัพยากรประมงทะเลส่งผลให้ทรัพยากรประมงทะเลฟื้นคืนสู่ระดับที่สามารถให้ผลผลิตสูงสุดที่ยั่งยืน และเปิดโอกาสให้ชาวประมงสามารถนำเรือประมงไปใช้ในกิจการอื่นนอกภาคประมงได้ ซึ่งมีเรือประมงที่ประสงค์จะออกนอกระบบ จำนวน 804 ลำ โดยไม่ประสงค์ออกนอกระบบจำนวน 119 ลำ และทำการเบิกจ่ายไปแล้วจำนวน 726 ลำ รวมจำนวน วงเงิน 1,004,956,850 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2568) ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาต่อไป
          โดยโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการมอบป้ายโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ให้กับชาวประมงที่เข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าวด้วย

          รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า การติดตามภารกิจกรมประมงของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาการประกอบอาชีพให้กับพี่น้องเกษตรกร ชาวประมง อย่างจริงจังเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำ เพื่อปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศแหล่งน้ำของไทย และการบริหารกองเรือประมงให้มีความสมดุลกับศักยภาพของทรัพยากรทางทะเลเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนสืบไป

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 6,374  กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิเวศ ฟื้นชีวิตใหม่ให้ท้องทะเลไทย กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิ... จำนวนผู้อ่าน 738 กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก สินค้าประมง  พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของประเทศคู่ค้าแบบเรียลไทม์ได้ไร้รอยต่อ กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนว... จำนวนผู้อ่าน 556 8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม  “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยชาวประมง 3,000 ล้านบาท”  8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช... จำนวนผู้อ่าน 434 ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ  เสริมช่องทางให้ผปก. ประเดิมเฟสแรก 5 ปลายทาง “อเมริกา – เอเชีย”  รุกหนุนแบรนด์ดิ้งประเทศไทยแหล่งผลิตสัตว์น้ำสวยงาม ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ เสริม... จำนวนผู้อ่าน 433 กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งคุณภาพ ยั่งยืน แข่งขันได้ในตลาดโลก กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู... จำนวนผู้อ่าน 406 ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์ปลากะพงขาวไปจีน เริ่มแล้ว 2 ราย ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการ... จำนวนผู้อ่าน 361 กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล  เปิดให้บริการแผนที่ออนไลน์ (FGIS) ผ่าน Web Map Application  ตัวช่วย..ค้นหาพิกัดด้านการประมงทุกพื้นที่ทั่วไทย กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล เปิดให้บริการแผ... จำนวนผู้อ่าน 353 ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้ำ! ภาคการประมงไทยไม่กระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้... จำนวนผู้อ่าน 341 กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map   “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด” ระยะ 5 ปี กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี... จำนวนผู้อ่าน 339 กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก  ลุยเก็บตัวอย่างตรวจโลหะหนักต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก ลุ... จำนวนผู้อ่าน 328 กรมประมงเข้ารับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 โชว์ผลงาน คว้ารางวัล 3 สาขา 3 ประเภท สะท้อนความเชื่อมั่น หน่วยงานภาครัฐที่ประชาชนให้การยอมรับ  กรมประมงเข้ารับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 โชว์ผลงาน คว้ารางวัล 3 สาขา 3 ประเภท สะ... จำนวนผู้อ่าน 318 กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา  สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่างพักชำระหนี้กับ ธ.ก.ส. กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่... จำนวนผู้อ่าน 291 กรมประมง จับมือ ม.เกษตร เปิดเกมรุกยกระดับสินค้าประมง ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยกลยุทธ์การขายยุคใหม่ กรมประมง จับมือ ม.เกษตร เปิดเกมรุกยกระดับสินค้าประมง ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยกลย... จำนวนผู้อ่าน 286 กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์สติวเทคนิคอนุบาลด้วยการควบคุมอุณหภูมิหนุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์... จำนวนผู้อ่าน 281


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6