กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่างพักชำระหนี้กับ ธ.ก.ส.

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่างพักชำระหนี้กับ ธ.ก.ส. 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา  สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่างพักชำระหนี้กับ ธ.ก.ส...คลิก

กรมประมง..เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมอาชีพประมง เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรซึ่งอยู่ระหว่างการพักชำระหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในพื้นที่ ณ อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท จำนวน 130 ราย ด้วยการเลี้ยงกบนาเพื่อบริโภคและประกอบอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ และช่วยลดภาระหนี้สินให้ครัวเรือน

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอาชีพประมง เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรพักชำระหนี้ เป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และสร้างความเข้มแข็งในการประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกร โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เพียงพอ และสามารถชำระหนี้ได้ในอนาคต ภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”

กรมประมง โดยนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง จึงได้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าประมงที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มได้ภายในระยะเวลาอันสั้น พร้อมช่วยเสริมศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ โดยสนับสนุนงบประมาณในปี 2568 จำนวน 1,860,000 บาท ให้กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด และสำนักงานประมงจังหวัดชัยนาท ดำเนินโครงการส่งเสริมอาชีพประมง กิจกรรมฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรพักชำระหนี้ กิจกรรมย่อยส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรในการพักชำระหนี้ โดยได้ดำเนินการสำรวจความต้องการของเกษตรกรที่เป็นลูกค้ากลุ่มพักชำระหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดชัยนาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาวัดสิงห์ ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่มีความต้องการให้ส่งเสริมการเลี้ยงกบนา

เนื่องจาก กบนา เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง ราคาดี กิโลกรัมละ 50-70 บาท และหากแปรรูปเป็นกบถอดเสื้อจะเพิ่มมูลค่าได้ถึงกิโลกรัมละ 80 บาท อีกทั้งตลาดมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ใช้เงินลงทุนไม่มาก เลี้ยงง่าย และใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 เดือน ก็สามารถจับจำหน่ายได้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพทางเลือกที่ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากจะช่วยบรรเทาภาระทางการเงินของเกษตรกรในระหว่างการพักชำระหนี้แล้ว ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพอาชีพที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคตอีกด้วย โดยกรมประมงได้สนับสนุนองค์ความรู้ เทคโนโลยีการเลี้ยง ปัจจัยการผลิต และมีการติดตามให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดการฝึกอบรมเพื่อให้เกษตรกรได้พัฒนาทักษะด้านการเลี้ยงกบนาให้ตรงตามความต้องการของตลาด การเพิ่มมูลค่าผลผลิต รวมถึงการจัดการด้านการเงิน ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรในพื้นที่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท เข้าร่วมโครงการฯ 130 ราย โดยเกษตรกรจะได้รับการสนับสนุนลูกพันธุ์กบนาขนาดไม่น้อยกว่า 2.8 เซนติเมตร รายละ 1,200 ตัว เพื่อเลี้ยงในกระชังบกขนาด 2x3x1.2 ตารางเมตร รายละ 2 กระชัง อาหารกบรายละ 5 กระสอบ รวมถึงชุดวิเคราะห์คุณภาพน้ำและแผ่นยางรองพื้น ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเลี้ยงรอบที่ 1 เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 รอบที่ 2 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 และรอบที่ 3 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 โดยขณะนี้เกษตรกรสามารถดำเนินการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เป็นอย่างดี มีการจำหน่ายในตลาดภายในหมู่บ้าน ร้านอาหารในจังหวัดชัยนาท และขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ได้แก่ อุดรธานี สุโขทัย สิงห์บุรี อ่างทอง ปทุมธานี สุพรรณบุรี และนครสวรรค์ เป็นต้น โดยเกษตรกรจะมีการติดตามสถานการณ์ด้านราคาผ่านสำนักงานประมงจังหวัดชัยนาท เพื่อป้องกันการถูกกดราคา ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าโครงการฯ ดังกล่าวจะสามารถสร้างเม็ดเงินให้เกษตรกรได้ถึงกว่า 1,200,000 บาท

อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่เป็นวัสดุที่ใช้ในการเลี้ยงในครั้งนี้ ยังสามารถใช้เลี้ยงลูกกบในรุ่นถัดไปได้อีกหลายรุ่น และหากประสบความสำเร็จเหมือนรุ่นแรก เกษตรกรจะมีรายได้อีกจำนวน 1,200,000 บาทต่อรุ่น ซึ่งจากที่รัฐได้สนับสนุนงบประมาณโครงการฯ 1,860,000 บาท จะเป็นการใช้จ่ายงบประมาณที่คุ้มค่า เกิดประโยชน์ เกิดอาชีพ สามารถสร้างรายได้ช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างแท้จริง

ด้านนายธเนตร ศรีเมือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลหนองขุ่น อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ให้ข้อมูลว่า เดิมชาวบ้านในพื้นที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่มันสำปะหลัง และไร่อ้อยเป็นหลัก ไม่มีรายได้เสริมอย่างอื่น จึงทำให้บางรายประสบปัญหาภาระหนี้สิน เจ้าหน้าที่กรมประมงจึงได้เข้ามาให้คำแนะนำแก่เกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพประมง เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพในช่วงพักชำระหนี้ด้วยการเลี้ยงกบนา เพื่อเป็นรายได้เสริม โดยได้มอบปัจจัยการเลี้ยงต่าง ๆ เช่น ลูกพันธุ์กบ กระชัง อาหารสำหรับเลี้ยง ชุดวิเคราะห์คุณภาพน้ำและแผ่นยางรองพื้น พร้อมจัดฝึกอบรมส่งเสริมความรู้ให้เกษตรกร รวมถึงเก็บข้อมูลและติดตามผลการเลี้ยงในด้านต่าง ๆ ทั้งอัตราการเจริญเติบโต รายได้จากการจำหน่าย รวมทั้งให้คำปรึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเกษตรกรสามารถจับผลผลิตออกจำหน่าย และสามารถสร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี จึงอยากให้ทางกรมประมงได้สนับสนุนโครงการฯ นี้ ต่อไป พร้อมผลักดันให้เป็นอาชีพหลักของเกษตรกร เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง

นางอัมพร เขียดขำ หนึ่งในตัวแทนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวมีอาชีพหลักจากการทำนาเพียงอย่างเดียว รายได้ไม่แน่นอน และยังต้องรับภาระหนี้สิน แต่เมื่อได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเลี้ยงกบนา ซึ่งได้รับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตจากกรมประมง รวมถึงการอบรมความรู้ต่าง ๆ ทำให้สามารถเริ่มต้นเลี้ยงกบได้อย่างมั่นใจใช้เวลาเพียง 2-3 เดือน ก็สามารถจับกบจำหน่ายได้ มีรายได้เสริมเฉลี่ยครั้งละหลายพันบาท ทำให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น และหวังว่าโครงการฯ นี้จะได้รับการผลักดันให้เป็นอาชีพหลักของชาวบ้านต่อไปในอนาคต เพราะนอกจากจะสร้างรายได้แล้ว ยังเป็นอาชีพที่ทำได้จริง ไม่ต้องลงทุนสูง และมีตลาดรองรับที่ชัดเจน

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า การส่งเสริมการเลี้ยงกบนา ไม่เพียงแค่ช่วยบรรเทาปัญหาภาระหนี้สินของเกษตรกรในช่วงพักชำระหนี้ แต่ยังเป็นการสร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี สามารถนำความรู้ ทักษะ และโอกาสไปพัฒนาต่อยอดอาชีพด้านการประมงได้ในอนาคต เพื่อให้เกษตรกรก้าวพ้นกับดักหนี้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

โดยในปีงบประมาณ 2569 กรมประมงพร้อมที่จะขยายผลการดำเนินงานโครงการฯ เพื่อให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถพัฒนาเป็นอาชีพหลักได้ต่อไป โดยจะส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่ม เพื่อสร้างความเข้มแข็งภายในชุมชน สนับสนุนการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และขยายช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและสร้างความยั่งยืนให้กับภาคการประมงไทยในระยะยาว

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 6,722  กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิเวศ ฟื้นชีวิตใหม่ให้ท้องทะเลไทย กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิ... จำนวนผู้อ่าน 762 ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ  เสริมช่องทางให้ผปก. ประเดิมเฟสแรก 5 ปลายทาง “อเมริกา – เอเชีย”  รุกหนุนแบรนด์ดิ้งประเทศไทยแหล่งผลิตสัตว์น้ำสวยงาม ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ เสริม... จำนวนผู้อ่าน 681 กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก สินค้าประมง  พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของประเทศคู่ค้าแบบเรียลไทม์ได้ไร้รอยต่อ กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนว... จำนวนผู้อ่าน 640 8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม  “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยชาวประมง 3,000 ล้านบาท”  8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช... จำนวนผู้อ่าน 550 กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งคุณภาพ ยั่งยืน แข่งขันได้ในตลาดโลก กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู... จำนวนผู้อ่าน 463 โฆษกกรมประมง แจงชัดแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ  พ.ศ. 2567 – 2570  กรมประมงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสถานการณ์ในหลายพื้นที่เริ่มบรรเทาลงแล้ว โฆษกกรมประมง แจงชัดแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 ... จำนวนผู้อ่าน 428 กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก  ลุยเก็บตัวอย่างตรวจโลหะหนักต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก ลุ... จำนวนผู้อ่าน 427 ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้ำ! ภาคการประมงไทยไม่กระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้... จำนวนผู้อ่าน 425 ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์ปลากะพงขาวไปจีน เริ่มแล้ว 2 ราย ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการ... จำนวนผู้อ่าน 410 กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล  เปิดให้บริการแผนที่ออนไลน์ (FGIS) ผ่าน Web Map Application  ตัวช่วย..ค้นหาพิกัดด้านการประมงทุกพื้นที่ทั่วไทย กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล เปิดให้บริการแผ... จำนวนผู้อ่าน 400 กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map   “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด” ระยะ 5 ปี กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี... จำนวนผู้อ่าน 388 กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา  สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่างพักชำระหนี้กับ ธ.ก.ส. กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่... จำนวนผู้อ่าน 378 กรมประมงเข้ารับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 โชว์ผลงาน คว้ารางวัล 3 สาขา 3 ประเภท สะท้อนความเชื่อมั่น หน่วยงานภาครัฐที่ประชาชนให้การยอมรับ  กรมประมงเข้ารับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 โชว์ผลงาน คว้ารางวัล 3 สาขา 3 ประเภท สะ... จำนวนผู้อ่าน 354 กรมประมง ครบรอบปีที่ 99 ก้าวสู่ “Fisheries Transformation” จัดแสดงนิทรรศการ 9 โซน “การประมง 3 น้ำ สู่แผ่นดิน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้” เปิดมิติใหม่สู่วิถียั่งยืน ยกระดับประมงไทยสู่มาตรฐานสากล โชว์ศักยภาพ GDP ประมงแตะ 1.38 แสนล้านบาท กรมประมง ครบรอบปีที่ 99 ก้าวสู่ “Fisheries Transformation” จัดแสดงนิทรรศการ 9 โซ... จำนวนผู้อ่าน 344


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6