กรมประมง...เปลี่ยนเศษปลาไม่ให้ไร้ค่า พัฒนาเป็น “โปรตีนไฮโดรไลเสต” แบบเข้มข้น ช่วยลดต้นทุนอาหาร เสริมสร้างการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ ตอบโจทย์ผลงานวิจัยที่ต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


กรมประมง...เปลี่ยนเศษปลาไม่ให้ไร้ค่า พัฒนาเป็น “โปรตีนไฮโดรไลเสต” แบบเข้มข้น ช่วยลดต้นทุนอาหาร เสริมสร้างการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ ตอบโจทย์ผลงานวิจัยที่ต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

กรมประมง...เปลี่ยนเศษปลาไม่ให้ไร้ค่า พัฒนาเป็น “โปรตีนไฮโดรไลเสต” แบบเข้มข้น ช่วยลดต้นทุนอาหาร  เสริมสร้างการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ ตอบโจทย์ผลงานวิจัยที่ต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง..คลิก

กรมประมง..โชว์งานวิจัยไอเดียเด็ด เปลี่ยนเศษวัตถุดิบเหลือทิ้งทางการประมงมาเพิ่มมูลค่า ด้วยการนำเศษปลามาพัฒนาเป็น “โปรตีนไฮโดรไลเสต” แบบเข้มข้น เพื่อใช้เป็นสารดึงดูดกลิ่นและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการในอาหารสัตว์น้ำ ที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต และลดต้นทุนอาหารในการเลี้ยง ตอบโจทย์การต่อยอดงานวิจัยที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ทั้งในระดับเกษตรกรรายย่อย และวงการอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สร้างความคุ้มค่าและยกระดับการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามนโยบายของนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  

          นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงมุ่งขับเคลื่อนการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อขยายผลสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง สามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ช่วยสนับสนุนการประกอบอาชีพและเสริมสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ชาวประมง และผู้ประกอบการ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับภาคการประมงของไทย นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง จึงมีนโยบายส่งเสริมให้นักวิจัยได้เร่งสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ อยู่เสมอ รวมทั้งนำงานวิจัยเดิมมาปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับวิถีการประกอบอาชีพด้านการประมงตามศักยภาพของพื้นที่ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 
          ผลงานวิจัยการแปรรูปเศษปลาเพื่อผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสตแบบเข้มข้น (Concentrated Protein Hydrolysate) เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จที่กรมประมงได้ดำเนินการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเกิดการใช้ทรัพยากรประมงอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำเศษวัตถุดิบเหลือทิ้งจากกิจกรรมประมงที่ไร้ประโยชน์กลับมาเพิ่มมูลค่า ซึ่งไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์จากอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ แต่ยังช่วยเกษตรกรลดต้นทุนในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และยังเป็นโอกาสให้ชุมชนและผู้ประกอบการสามารถนำไปต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนการปฏิรูปวงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (Aquaculture Transformation) ด้านการวิจัยและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Natural based solution; Nbs) ในการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน ด้วยการเพิ่มมูลค่าเศษเหลือเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์น้ำ ซึ่งเป็น 1 ใน 5  กิจกรรม ที่กรมประมงได้ให้ถ้อยแถลงในการประชุมระดับสูงว่าด้วยการพลิกโฉมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ครั้งที่ 3 (The 3rd High level Meeting on Aquaculture Transformation: HLM 3) ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมระดมความเห็นกับประเทศพันธมิตรในการขับเคลื่อนการยกระดับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างยั่งยืน

          นางสาวลัดดาวัลย์ ครองพงษ์ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำ กรมประมง กล่าวเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า กองวิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำ โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำชลบุรี ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยและประยุกต์การแปรรูปเศษปลาเพื่อผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสต มาตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของเศษปลาเหลือทิ้งจากวัตถุดิบในกิจการประมงว่า สามารถพัฒนาให้เกิดประโยชน์ได้ จึงได้ทดลองผลิต โปรตีนไฮโดรไลเสต โดยเลือกใช้กระบวนการหมักด้วยจุลินทรีย์ (Microbial Fermentation) ที่เป็นการหมักเศษปลาด้วยเชื้อ Lactobacillus plantarum ที่เลี้ยงในน้ำสับปะรด ซึ่งมีราคาย่อมเยาและหาได้ง่าย โดยโปรตีนไฮโดรไลเสตจากเศษปลาที่ได้จะเป็นส่วนก้าง และที่ปั่นเป็นของเหลว จึงนำไปทำเป็นผงด้วยวิธี Spray Drying ได้ค่าโปรตีนถึงร้อยละ 50 ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกที่สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในอาหารสัตว์น้ำที่ใช้ต้นทุนการผลิตต่ำ แต่ให้ผลผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสตที่อุดมด้วยกรดอะมิโนในรูปแบบที่สัตว์น้ำสามารถดูดซึมได้ทันที เหมาะสำหรับการนำไปใช้เลี้ยงสัตว์น้ำวัยอ่อน

          จากนั้น ทางศูนย์ฯ ได้ต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์โดยนำไปทดลองเลี้ยงในลูกกุ้งแชบ๊วยระยะ PL15 ภายใต้ “โครงการการประยุกต์ใช้โปรตีนไฮโดรไลเสตจากเศษปลาทะเลในอาหารกุ้งแชบ๊วย (Fenneropenaeus merguiensis) De Man, 1888” ผลปรากฏว่า สามารถใช้ทดแทนปลาป่นในสูตรอาหารได้มากถึงร้อยละ 42  ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์น้ำ และเพิ่มทางเลือกในการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมาก
          กระทั่งในปี 2567 ได้ขยายงานวิจัยดังกล่าวสู่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ตามแผนงานยุทธศาสตร์การเกษตรสร้างมูลค่า ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการประมง เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด  แต่ยังพบอุปสรรคในการใช้งานจริง เนื่องจากการผลิตมีความยุ่งยากในการเตรียมหัวเชื้อจุลินทรีย์ ราคาสับปะรดบางพื้นที่ค่อนข้างสูง  และยังมีข้อจำกัดในการใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบน้ำ ซึ่งไม่สามารถใช้แทนปลาป่นได้มากในสูตรอาหารสัตว์น้ำ  ปัจจุบันทางศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำชลบุรี จึงได้ดำเนินการปรับกระบวนการผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสตให้เหมาะสมกับการใช้งานของเกษตรกรมากขึ้น โดยนำโปรตีนไฮโดรไลเสตในรูปแบบน้ำที่ผ่านการกรองแยกก้างและเกล็ดออกแล้วมากรองซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้ได้เฉพาะส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ส่วนของเหลวที่ได้จะถูกนำไปผ่านกระบวนการทำแห้งแบบ Spray Drying เพื่อให้เป็นผงโปรตีนที่สามารถผสมในสูตรอาหารสัตว์ได้ง่ายและเก็บรักษาได้นาน พร้อมพัฒนารูปแบบ “โปรตีนไฮโดรไลเสตแบบเข้มข้น” สำหรับใช้คลุกเคลือบเม็ดอาหาร ทำหน้าที่เป็นสารดึงดูดกลิ่น (Feed attractant) และเพิ่มคุณค่าทางอาหาร ส่งผลให้สัตว์น้ำกินอาหารได้ดีขึ้น เจริญเติบโตเร็วขึ้น และมีอัตรารอดสูงขึ้น อีกทั้งโปรตีนไฮโดรไลเสตแบบเข้มข้นยังเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับใช้ในสัตว์น้ำวัยอ่อน ซึ่งมีระบบย่อยอาหารที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ โดยเฉพาะในลูกกุ้งหรือลูกปลาวัยอ่อน รวมถึงในกระบวนการผลิตยังสามารถปรับสูตรและแหล่งวัตถุดิบให้เหมาะกับพื้นที่หรือฤดูกาลได้  นอกจากนี้ ยังได้วางแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนเกษตรกร เช่น การผลิตกล้าเชื้อจุลินทรีย์แบบพร้อมใช้ การพัฒนาผงน้ำสับปะรดแห้งสำหรับการหมัก การศึกษาการใช้น้ำอ้อยเป็นแหล่งอาหารทดแทนน้ำสับปะรดในการเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลือกใช้วัตถุดิบตามความพร้อมและศักยภาพของแต่ละพื้นที่ต่อไป

          รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากนี้ กรมประมงยังได้มีแนวคิดในการต่อยอดงานวิจัยดังกล่าวให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด โดยแปรรูปเศษก้างและเกล็ดปลาที่เหลือจากกระบวนการผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสตให้กลายเป็นไบโอแคลเซียม ด้วยการสกัดเป็นแคลเซียมแลคเตต และแคลเซียมอะซิเตต โดยใช้กรดจากธรรมชาติ เช่น กรดมะนาวและกรดน้ำส้มสายชู เพื่อให้ได้แคลเซียมในรูปแบบที่ปลอดภัย สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ทั้งในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ การเกษตร และสุขภาพสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรประมงที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ด้านการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

          เกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำชลบุรี โทร. 0 3831 2352 Facebook : ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำชลบุรี E-mail : aquafeed_chonburi@yahoo.com

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 4,518  กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้องเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความ... จำนวนผู้อ่าน 732 รมช.อัครา รับลูกข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มอบกรมประมง..เตรียมชง ครม.พิจารณาแผนปฏิบัติการ เพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ วงเงินงบประมาณกว่า 5 พันล้านบาท  หนุนปั้นผลผลิตให้ได้ 4.5 แสนตัน เพื่อดันอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้แข็งแกร่งในตลาดโลก รมช.อัครา รับลูกข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มอบกรมประมง..เตรียมชง ครม.พิจารณาแผนปฏิบั... จำนวนผู้อ่าน 507 กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง เริ่ม 1 เม.ย. 68 นี้ !! กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูท... จำนวนผู้อ่าน 507 กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”  ดันดาวเด่น 13 กลุ่มสินค้าประมง ร่วมยกระดับการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ในปี 2568   กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”... จำนวนผู้อ่าน 319 รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา  หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ” จำนวน 923 ลำ  รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงก... จำนวนผู้อ่าน 242 กรมประมงเดินหน้า...โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม   Kick off “แหล่งน้ำหนองโสกแบ่ง จ.มหาสารคาม” ประเดิมปี 68 พร้อมขยายผล 20 แห่ง ทั่วประเทศ สนองนโยบาย รมช.อัครา กรมประมงเดินหน้า...โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม Kick off “แหล่งน้ำ... จำนวนผู้อ่าน 240 รมช.อัครา ชูนวัตกรรมใหม่ เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมประมง หนุนกรมประมงเปิดตัวแอปพลิเคชันน้องใหม่ “Fisheries Next” อำนวยความสะดวกเจ้าของเรือประมงพาณิชย์ เชื่อมโยงทุกระบบ ครบ จบ ในแอปฯ เดียว พร้อมดาวน์โหลดแล้ว 19 ก.พ. นี้ ! รมช.อัครา ชูนวัตกรรมใหม่ เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมประมง หนุนกรมประมงเปิดตัวแอปพลิเ... จำนวนผู้อ่าน 235 กรมประมง เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรตรวจการประมงรุ่นที่ 15 เพื่อปลูกฝังแนวคิดอุดมการณ์ การบริหารจัดการทรัพยากรการประมง ทักษะความชำนาญทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ตรวจการประมงในการดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำและชาวประมงของประเทศ กรมประมง เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรตรวจการประมงรุ่นที่ 15 เพื่อปลูกฝังแนวคิดอุดมการณ... จำนวนผู้อ่าน 235  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทยสู่ตลาดโลก  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทย... จำนวนผู้อ่าน 205 กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย   จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา” ประจำปี 2568 ภายใต้ ก.เกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 2 ล้านตัว พร้อมควบคุมปลานักล่า “ชะโด” เพื่อสร้างความสมดุลระบบนิเวศกว๊านพะเยาสู่แหล่งอาหารชุมชนที่ยั่งยืน กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะ... จำนวนผู้อ่าน 197 กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุข สนุก และบุญไว้ในเเห่งเดียว ผ่านกิจกรรมจับปลาชะโด จับหนึ่งช่วยถึงสิบ คืนสมดุลชีวิตให้กว๊านพะเยา กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุ... จำนวนผู้อ่าน 194 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอมตากใบ” ขึ้นแท่นสินค้าใหม่ เพิ่มรายได้ให้ชาวประมง 3 เท่า ภายในปี 2570 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอม... จำนวนผู้อ่าน 188 กรมประมง จับมือ AIT ร่วมลงนาม MOU ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรมประมง จับมือ AIT ร่วมลงนาม MOU ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ... จำนวนผู้อ่าน 173 กรมประมงชวนน้อง ๆ ป.1 – ม.3  ลงสนามประชันฝีมือประกวดวาดภาพระบายสี ชิงถ้วยพระราชทานฯ ในงานวันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35 กรมประมงชวนน้อง ๆ ป.1 – ม.3 ลงสนามประชันฝีมือประกวดวาดภาพระบายสี ชิงถ้วยพระราชท... จำนวนผู้อ่าน 164


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6