กรมประมงจับมือ ปตท. สนับสนุนอุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียงความถี่สูง (Pinger) ปกป้องชีวิตสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม หนุนการทำประมงด้วยความรับผิดชอบ สอดคล้องกฎหมายและข้อกำหนดการค้าระหว่างประเทศ

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


กรมประมงจับมือ ปตท. สนับสนุนอุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียงความถี่สูง (Pinger) ปกป้องชีวิตสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม หนุนการทำประมงด้วยความรับผิดชอบ สอดคล้องกฎหมายและข้อกำหนดการค้าระหว่างประเทศ 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

กรมประมงจับมือ ปตท. สนับสนุนอุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียงความถี่สูง (Pinger)  ปกป้องชีวิตสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม หนุนการทำประมงด้วยความรับผิดชอบ สอดคล้องกฎหมายและข้อกำหนดการค้าระหว่างประเทศ..คลิก

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีมอบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียงความถี่สูง (Pinger) ในการทำประมงเครื่องมือประมงอวนติดตาให้แก่ชาวประมงจังหวัดสมุทรสงคราม ณ วัดเจริญสุนทราราม อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีนายพีระศักดิ์ พานิชไตรภพ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการรื้อถอน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมประมงสมุทรสงคราม นายสุชาติ รัตนเรืองสี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 นายวิรัตน สนิทมัจโร ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร ประธานกรรมการสหกรณ์ประมงแม่กลอง นายกสมาคมเรือลากคู่สมุทรสงคราม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ชาวประมง และประชาชน เข้าร่วม ว่า โลมา เป็นสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (Marine Mammals) ที่มีพฤติกรรมออกหากินบริเวณชายฝั่ง จึงมีความเสี่ยงที่จะติดเครื่องมือประมงโดยไม่ได้ตั้งใจหรือกลายเป็นสัตว์น้ำพลอยจับได้ (By-catch) เนื่องจากการหากินที่มักจะเข้าใกล้เขตการทำประมง หรือแนววางอวน ซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บหรือความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหากไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน

ประกอบกับพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ที่ประกาศให้พะยูน วาฬและโลมา รวม 24 ชนิด เป็นสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง รวมถึงประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2559 เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ ที่ห้ามจับหรือนำขึ้นเรือประมง เป็นสิ่งที่เน้นย้ำได้ว่าประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทกับหลายประเทศทั่วโลก และได้ประกาศใช้กฎหมาย Marine Mammal Protection Act (MMPA) โดยกำหนดให้ประเทศคู่ค้าต้องพิสูจน์ว่ากระบวนการทำการประมงของตนไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งผลการประเมินเบื้องต้นของประเทศไทย NOAA พบว่าการใช้อวนติดตาในพื้นที่อ่าวไทย ส่งผลกระทบต่อโลมาอิรวดีและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในพื้นที่อ่าวไทย (เกินเกณฑ์เพียงเล็กน้อย)

ดังนั้น เพื่อเป็นการลดผลกระทบดังกล่าว กรมประมงร่วมกับบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการสนับสนุนอุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียงความถี่สูง (Pinger) ให้กับชาวประมงพื้นบ้านที่ทำการประมงอวนติดตา เพื่อป้องกันการติดโดยบังเอิญของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม โดยคัดเลือกพื้นที่นำร่องในการจัดทำโครงการจากผลการศึกษาของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่พบว่าพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณทะเลจังหวัดตราด และพื้นที่อ่าวไทยตอนใน โดยเฉพาะจังหวัดเพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสมุทรปราการ เป็นพื้นที่ที่พบสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมกระจายตัวมากกว่าพื้นที่ทำการประมงอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลมาอิรวดี ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่ NOAA ให้ความสนใจ โดยการดำเนินโครงการจะเป็นการติดอุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียงความถี่สูง (Pinger) กับเครื่องมือประมงอวนติดตา โดย Pinger ที่ใช้โครงการนี้ เป็นอุปกรณ์มีขนาดเล็ก ทรงกระบอก ผลิตจากวัสดุที่ทนแรงกระแทก และมีวัสดุห่อหุ้มด้านนอกซึ่งทำจากยาง เพื่อป้องกันตัวส่งสัญญาณ ขนาด 20x6x5 เซนติเมตร ใช้แบตเตอรี่ชนิดอัลคาไลน์ (Alkaline) พร้อมสัญญาณไฟแสดงระดับพลังงานแบตเตอรี่ น้ำหนักรวมแบตเตอรี่ 250 กรัม สามารถใช้งานได้ที่ระดับความลึกน้ำตั้งแต่ 0 - 100 เมตร สามารถส่งคลื่นสัญญาณ ช่วงความถี่ 20 - 120 กิโลเฮิรตซ์ โดยคลื่นความถี่ดังกล่าวเป็นช่วงความถี่ที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถรับรู้ได้และจะว่ายหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว

โดยปัจจุบันมีรายงานจากหลายประเทศพบว่าเครื่องมือ Pinger สามารถลดอัตราการติดเครื่องมือประมงของสัตว์กลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในครั้งนี้กรมประมงได้ส่งมอบอุปกรณ์ Pinger จำนวน 60 ชุด ชุดละ 3 อัน รวม 180 อัน ติดตั้งให้กับชาวประมงพื้นบ้านที่ใช้เครื่องมือประมงอวนติดตาในพื้นที่ บริเวณบ้านฉู่ฉี่ ตำบลบางจะเกร็ง และบ้านบางบ่อล่าง ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม รวมทั้งสิ้น 20 ราย โดยหลังจากดำเนินการติดอุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียงความถี่สูง (Pinger) กับเครื่องมือประมงแล้วแล้ว กรมประมงโดยกองวิจัยและพัฒนาประมงทะเลจะเข้าติดตาม และเก็บรวบรวมข้อมูลทรัพยากรสัตว์น้ำที่นับได้และสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม เพื่อให้ทราบถึงสภาวะการทำประมงของอวนติดตาจากการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินประสิทธิภาพของเครื่องมือและผลกระทบต่อการทำการประมง โดยกรมประมงเชื่อมั่นว่าอุปกรณ์ Pinger ที่ส่งมอบและติดตั้งในครั้งนี้ จะสามารถป้องกันการติดเครื่องมือประมงโดยบังเอิญของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ กรมประมงมุ่งหวังว่า การดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งการสนับสนุนอุปกรณ์และองค์ความรู้ รวมทั้งกิจกรรมปลุกจิตสำนึกในการทำการประมงอย่างรับผิดชอบ จะช่วยสร้างความร่วมมือในการป้องกันและอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม และสามารถลดผลกระทบของการทำการประมงด้วยเครื่องมือประมงอวนติดตาที่มีต่อทรัพยากรสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความยั่งยืน รวมถึงจะสามารถนำไปขยายผลต่อเครื่องมือประมงชนิดอื่น และพื้นที่อื่นในอนาคต

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 3,909  กรมประมงประกาศ “ปิดอ่าวไทย” เริ่ม 15 ก.พ.นี้  คุ้มครองฤดูปลามีไข่ 3 จังหวัด ประจวบฯ ชุมพร สุราษฎร์ฯ กรมประมงประกาศ “ปิดอ่าวไทย” เริ่ม 15 ก.พ.นี้ คุ้มครองฤดูปลามีไข่ 3 จังหวัด ประจ... จำนวนผู้อ่าน 1,429 กรมประมง...หนุนฟื้นฟูบ่อกุ้งร้างสร้างทางเลือกใหม่ให้เกษตรกร แนะเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจ 5 ชนิด ติดเทรนด์ตลาด  พลิกวิกฤตเปิดโอกาสในการพัฒนาอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ให้ยั่งยืนและมั่นคง กรมประมง...หนุนฟื้นฟูบ่อกุ้งร้างสร้างทางเลือกใหม่ให้เกษตรกร แนะเพาะเลี้ยงสัตว์น้... จำนวนผู้อ่าน 762 กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้องเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความ... จำนวนผู้อ่าน 663 รมช.อัครา...หนุนกรมประมงผลักดันนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลคาร์บอนต่ำ พลิกโฉมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทยสู่การเกษตรที่ยั่งยืน รมช.อัครา...หนุนกรมประมงผลักดันนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลคาร์บอนต่ำ พลิกโฉมกา... จำนวนผู้อ่าน 494 กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง เริ่ม 1 เม.ย. 68 นี้ !! กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูท... จำนวนผู้อ่าน 464 รมช.อัครา รับลูกข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มอบกรมประมง..เตรียมชง ครม.พิจารณาแผนปฏิบัติการ เพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ วงเงินงบประมาณกว่า 5 พันล้านบาท  หนุนปั้นผลผลิตให้ได้ 4.5 แสนตัน เพื่อดันอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้แข็งแกร่งในตลาดโลก รมช.อัครา รับลูกข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มอบกรมประมง..เตรียมชง ครม.พิจารณาแผนปฏิบั... จำนวนผู้อ่าน 462 สำเร็จแล้ว !!! ทีมวิจัยกรมประมงผลิตปลาหมอคางดำ 4n   อธิบดีบัญชาถือปฐมฤกษ์ ปล่อยทดสอบครั้งแรกวันนี้ สำเร็จแล้ว !!! ทีมวิจัยกรมประมงผลิตปลาหมอคางดำ 4n อธิบดีบัญชาถือปฐมฤกษ์ ปล่อยท... จำนวนผู้อ่าน 448 กรมประมงชี้แจงกรณีแก้ไขมาตรา 66 พรก.ประมงฉบับใหม่ ยัน! ไม่กระทบต่อการส่งออกสินค้าประมงไปยังสหรัฐอเมริกา  กรมประมงชี้แจงกรณีแก้ไขมาตรา 66 พรก.ประมงฉบับใหม่ ยัน! ไม่กระทบต่อการส่งออกสินค้... จำนวนผู้อ่าน 427 กรมประมงชี้แจงกรณีแก้ไขมาตรา 66 พรก.ประมงฉบับใหม่ ยัน! ไม่กระทบต่อการส่งออกสินค้าประมงไปยังสหรัฐอเมริกา  กรมประมงชี้แจงกรณีแก้ไขมาตรา 66 พรก.ประมงฉบับใหม่ ยัน! ไม่กระทบต่อการส่งออกสินค้... จำนวนผู้อ่าน 427 อธิบดีบัญชา ชงกรมประมงเปิดทำหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) สำหรับแรงงานต่างด้าวได้ทั้งปี   ผลักดัน ประกาศสำนักนายกฯ หนังสือคนประจำเรือ มีผลวันนี้ อธิบดีบัญชา ชงกรมประมงเปิดทำหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) สำหรับแรงงานต่างด้าวได้... จำนวนผู้อ่าน 321 ไทยสร้างประวัติศาสตร์!!...ส่งออกกุ้งทะเลแช่แข็งผ่านรถไฟจีน-ลาว ล็อตแรกผ่านฉลุย  กรมประมงเตรียมดันไทยผงาดสู่ผู้นำด้านการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำคุณภาพของตลาดจีน ไทยสร้างประวัติศาสตร์!!...ส่งออกกุ้งทะเลแช่แข็งผ่านรถไฟจีน-ลาว ล็อตแรกผ่านฉลุย ... จำนวนผู้อ่าน 308 กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”  ดันดาวเด่น 13 กลุ่มสินค้าประมง ร่วมยกระดับการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ในปี 2568   กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”... จำนวนผู้อ่าน 256 “อัครา” นำทีมขับเคลื่อนเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำจืดในแหล่งน้ำชุมชนกว่า 6,000 ตัน มูลค่า 450 ล้านบาท และแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ โดยนำร่องปล่อยกุ้งก้ามกราม และสัตว์น้ำจืดเศรษฐกิจ ลงอ่างแฝด อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ และเลี้ยงด้วยฟางข้าวอาหารสัตว์น้ำธรรมชาติ หวังเพิ่มผลผลิต ในแหล่งน้ำชุมชน เพิ่มรายได้ ลดค่าครองชีพ ลดการเผา ลดมลพิษ ตามนโยบายกระทรวงเกษตรฯ “อัครา” นำทีมขับเคลื่อนเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำจืดในแหล่งน้ำชุมชนกว่า 6,000 ตัน มูลค่... จำนวนผู้อ่าน 223 กรมประมง..ร่วมขับเคลื่อน “พะเยาโมเดล” สู่ต้นแบบการพัฒนาภาคประมงที่ยั่งยืน หนุนส่งเสริม “การเลี้ยงปลาในนาข้าว” ยกระดับวิถีเกษตรเมืองเหนือ   สร้างแหล่งอาหารให้ชุมชน สร้างความมั่นคงทางอาหาร กรมประมง..ร่วมขับเคลื่อน “พะเยาโมเดล” สู่ต้นแบบการพัฒนาภาคประมงที่ยั่งยืน หนุนส่... จำนวนผู้อ่าน 206


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6