อัครา รมช.เกษตรฯ นำทัพ ชี้แจง (ร่าง) พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 ฝ่าด่าน สว. รับวาระ 1 ฉลุย !!

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


อัครา รมช.เกษตรฯ นำทัพ ชี้แจง (ร่าง) พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 ฝ่าด่าน สว. รับวาระ 1 ฉลุย !! 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

อัครา รมช.เกษตรฯ นำทัพ ชี้แจง (ร่าง) พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558  ฝ่าด่าน สว. รับวาระ 1 ฉลุย !!..คลิก

นายบัญชา  สุขแก้ว  อธิบดีกรมประมง  เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมวุฒิสภาได้พิจารณา (ร่าง) พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมงปี 2558 โดยผ่านวาระ 1 ด้วยเสียงเห็นด้วย 165 เสียง จากผู้ลงคะแนน 184 เสียง และกำหนดให้แปรญัตติภายใน 7 วัน พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ.... จำนวน 21 ท่าน พิจารณาให้แล้วเสร็จตามข้อบังคับสภา
          สำหรับการนำเสนอ (ร่าง) พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมงปี 2558 ในครั้งนี้ ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอัครา พรหมเผ่า) รับมอบหมายจาก ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำเสนอ ร่างกฎหมายฉบับนี้มีการแก้ไข 71 มาตรา โดยมีหลักการและเหตุผลจากพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่สอดคล้องกับสภาพการทำการประมงในปัจจุบัน และมีความซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่นที่ใช้บังคับอยู่ สมควรปรับปรุงบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตทำการประมงและเครื่องมือทำการประมง ให้สอดคล้องกับวิถีการทำประมงในปัจจุบัน ยกเลิกบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโรงงานที่ซ้ำซ้อนกับกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น รวมทั้งปรับปรุงมาตรการควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมงและบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง โดยแยกการกระทำที่เกิดขึ้นในน่านน้ำไทยและนอกน่านน้ำไทย เพื่อให้การใช้มาตรการทางปกครองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนปรับปรุงบทกำหนดโทษให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นโดยกำหนดอัตราโทษให้ได้สัดส่วนกับการกระทำความผิด จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับใหม่นี้ มุ่งหมายเพื่อการจัดระเบียบการประมงในประเทศไทยและในน่านน้ำทั่วไปเพื่อป้องกันมิให้มีการทำประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้อยู่ในภาวะที่เป็นแหล่งอาหารของมนุษยชาติอย่างยั่งยืน และรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมให้ดำรงอยู่ในสภาพที่เหมาะสมตามแนวทางกฎเกณฑ์และมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับนับถือในนานาประเทศรวมทั้งคุ้มครองสวัสดิภาพของคนประจำเรือ และป้องกันการใช้แรงงานผิดกฎหมายในภาคการประมงตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสนับสนุนชุมชนประมงท้องถิ่นให้เกิดความเหมาะสม 
          โดยมีสาระสำคัญที่มีการแก้ไขอีกหลายประการ เช่น การปรับปรุงบทกำหนดโทษให้สอดคล้องกับความร้ายแรงของการกระทำความผิด การให้เรือประมงพื้นบ้านมีพื้นที่ทำการประมงมากขึ้น การปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดให้มีสัดส่วนที่เหมาะสม  การกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้านต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น  การยกเลิกมาตรา 34 ที่ห้ามเรือประมงพื้นบ้านออกทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง การยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับการควบคุมแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำที่ซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่นที่มีสภาพบังคับอยู่แล้ว เป็นต้น
          นอกจากนี้ ในการประชุมพิจารณา (ร่าง) กฎหมายดังกล่าว มีสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 13 ท่าน ให้ความสนใจซักถามและให้ข้อเสนอแนะ ซึ่งอธิบดีกรมประมงได้ชี้แจงข้อมูลต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาตรา 69 ซึ่งเป็นมาตราที่มีการแก้ไขให้สามารถใช้เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ทำการประมงนอกเขตสิบสองไมล์ทะเลนับจากแนวทะเลชายฝั่งได้ในเวลากลางคืน และกำหนดเรื่องการใช้แสงไฟล่อไว้ด้วยนั้น เนื่องจากเป็นปลาที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและมีความสำคัญในห่วงโซ่อาหาร แต่มีช่วงอายุขัยประมาณ 1 ปี เมื่อไม่ถูกจับจะตายไปตามธรรมชาติจึงเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้ง เมื่อจับปลากะตักได้ปริมาณน้อยส่งผลให้ปริมาณวัตถุดิบในอุตสาหกรรมน้ำปลาและการผลิตปลากะตักแห้งในประเทศมีไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องนำเข้าปลากะตักจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลากะตักอย่างคุ้มค่าและเหมาะสม จึงมีการปรับปรุงแก้ไข มาตรา 69  โดยให้รัฐมนตรีมีอำนาจในการประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และพื้นที่ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรปลากะตักอย่างเหมาะสมและยั่งยืนไม่เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และกระทบต่อทรัพยากรสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ น้อยที่สุด ซึ่งข้อเท็จจริงในข้อกำหนดดังกล่าวข้างต้น ยังไม่มีผลบังคับใช้โดยทันทีเมื่อกฎหมายผ่านขั้นตอนของสภาออกมาเป็นพระราชบัญญัติแล้ว ต้องนำไปพิจารณาในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขทางวิชาการ เช่น ขนาดตาอวนทั้งผืนต้องมีขนาดไม่น้อยกว่ากว่า 0.6 เซนติเมตร และกำหนดช่วงเวลาให้ทำได้ในช่วงที่มีการปนของสัตว์น้ำอื่นๆ น้อยที่สุด เบื้องต้นอาจกำหนดให้ทำประมงได้เฉพาะในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม ในฝั่งอ่าวไทย และเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม ในฝั่งทะเลอันดามัน เฉพาะในพื้นที่อนุญาตซึ่งไม่ทับซ้อนกับเขตมาตรการอนุรักษ์ เช่น มาตรการปิดอ่าว  มีระดับความลึกของน้ำไม่น้อยกว่า 30 เมตร  เรือทุกลำที่จะเข้ามาทำต้องเป็นเรือที่ได้รับใบอนุญาตอวนล้อมจับปลากะตักอยู่เดิม โดยเรือทุกลำต้องติด VMS ส่งสัญญาณให้ติดตามได้ทุก 15 นาที  ไม่อนุญาตให้เครื่องมือชนิดอื่นเปลี่ยนมาเป็นเครื่องมืออวนล้อมจับปลากะตัก  จับคู่เรือปั่นไฟ และอนุญาตให้ใช้เรือปั่นไฟรวมกันไม่เกิน 3 ลำ ต่อเรืออวนล้อมจับปลากะตัก 1 ลำ โดยไม่ออกใบอนุญาตเรือปั่นไฟเพิ่ม และกำหนดกำลังไฟของเรือปั่นไฟ ไม่เกิน 40 กิโลวัตต์  กำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อเป็นการควบคุมปริมาณการจับสัตว์น้ำ อาทิ การใช้ระบบโควตา การใช้ระบบสมุดบันทึกการทำการประมงแบบอิเล็กทรอนิกส์ และต้องแจ้งเข้าและออกทำการประมงกับศูนย์ PIPO ทุกครั้ง ฯลฯ และนำไปรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจนได้ข้อยุติจึงจะดำเนินการในการออกประกาศฯ ต่อไป
          อย่างไรก็ตามการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ เป็นการเสนอจากพรรคการเมือง และ ค.ร.ม. โดยผ่านกลไกของรัฐสภามาตามลำดับ เป็นการสร้างบริบทการประมงของประเทศไทยในการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมและไม่ได้ขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ และมั่นใจว่าการบังคับใช้กฎหมายสามารถดำเนินการได้ตามที่มีการแก้ไขปรับปรุง และจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวประมงได้ อีกทั้ง ยังช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการประมงตลอดสายการผลิตของประเทศฟื้นตัวอย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้ยั่งยืนเพื่อเป็นแหล่งอาหารของโลกและการเกิดความคุ้มค่าจากการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วย และประชาชน คือ ผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด สอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่จะฟื้นชีวิตอุตสาหกรรมประมงให้กลับมาเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประชาชน

          โดยหลังจากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ.... โดยจะเริ่มพิจารณาครั้งแรก ในวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 และจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภา วาระ 2 เพื่อพิจารณารายมาตรา และวาระที่ 3 พิจารณาเห็นชอบ ผ่าน พ.ร.บ.ประมง เพื่อนำเสนอมาบังคับใช้ตามขั้นตอนต่อไป...อธิบดีกรมประมง กล่าว

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 4,663  กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้องเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความ... จำนวนผู้อ่าน 764 กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง เริ่ม 1 เม.ย. 68 นี้ !! กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูท... จำนวนผู้อ่าน 522 กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”  ดันดาวเด่น 13 กลุ่มสินค้าประมง ร่วมยกระดับการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ในปี 2568   กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”... จำนวนผู้อ่าน 327 รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา  หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ” จำนวน 923 ลำ  รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงก... จำนวนผู้อ่าน 247 กรมประมงเดินหน้า...โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม   Kick off “แหล่งน้ำหนองโสกแบ่ง จ.มหาสารคาม” ประเดิมปี 68 พร้อมขยายผล 20 แห่ง ทั่วประเทศ สนองนโยบาย รมช.อัครา กรมประมงเดินหน้า...โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม Kick off “แหล่งน้ำ... จำนวนผู้อ่าน 246 กรมประมง เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรตรวจการประมงรุ่นที่ 15 เพื่อปลูกฝังแนวคิดอุดมการณ์ การบริหารจัดการทรัพยากรการประมง ทักษะความชำนาญทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ตรวจการประมงในการดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำและชาวประมงของประเทศ กรมประมง เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรตรวจการประมงรุ่นที่ 15 เพื่อปลูกฝังแนวคิดอุดมการณ... จำนวนผู้อ่าน 240 กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก สินค้าประมง  พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของประเทศคู่ค้าแบบเรียลไทม์ได้ไร้รอยต่อ กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนว... จำนวนผู้อ่าน 218  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทยสู่ตลาดโลก  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทย... จำนวนผู้อ่าน 212 กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย   จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา” ประจำปี 2568 ภายใต้ ก.เกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 2 ล้านตัว พร้อมควบคุมปลานักล่า “ชะโด” เพื่อสร้างความสมดุลระบบนิเวศกว๊านพะเยาสู่แหล่งอาหารชุมชนที่ยั่งยืน กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะ... จำนวนผู้อ่าน 202 กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุข สนุก และบุญไว้ในเเห่งเดียว ผ่านกิจกรรมจับปลาชะโด จับหนึ่งช่วยถึงสิบ คืนสมดุลชีวิตให้กว๊านพะเยา กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุ... จำนวนผู้อ่าน 195 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอมตากใบ” ขึ้นแท่นสินค้าใหม่ เพิ่มรายได้ให้ชาวประมง 3 เท่า ภายในปี 2570 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอม... จำนวนผู้อ่าน 188 กรมประมง จับมือ AIT ร่วมลงนาม MOU ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรมประมง จับมือ AIT ร่วมลงนาม MOU ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ... จำนวนผู้อ่าน 175 กรมประมงชวนน้อง ๆ ป.1 – ม.3  ลงสนามประชันฝีมือประกวดวาดภาพระบายสี ชิงถ้วยพระราชทานฯ ในงานวันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35 กรมประมงชวนน้อง ๆ ป.1 – ม.3 ลงสนามประชันฝีมือประกวดวาดภาพระบายสี ชิงถ้วยพระราชท... จำนวนผู้อ่าน 166 กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์สติวเทคนิคอนุบาลด้วยการควบคุมอุณหภูมิหนุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์... จำนวนผู้อ่าน 162


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6