กรมประมง แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เฝ้าระวัง 4 โรค ช่วงปลายฝนต้นหนาว พร้อมแนะแนวทางป้องกันโรคช่วงรอยต่อฤดูกาล

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


กรมประมง แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เฝ้าระวัง 4 โรค ช่วงปลายฝนต้นหนาว พร้อมแนะแนวทางป้องกันโรคช่วงรอยต่อฤดูกาล 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

HOT กรมประมง แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เฝ้าระวัง 4 โรค ช่วงปลายฝนต้นหนาว พร้อมแนะแนวทางป้องกันโรคช่วงรอยต่อฤดูกาล..คลิก

กรมประมง แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฝ้าระวัง 4 โรคสัตว์น้ำที่มักพบได้บ่อยในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล หรือช่วงปลายฝนต้นหนาว จากสภาพอากาศที่แปรปรวน ฝนตกสลับอากาศร้อนในบางพื้นที่ของประเทศไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำอย่างรวดเร็ว กระทบทั้งสัตว์น้ำที่เลี้ยงในบ่อและกระชังในแหล่งน้ำเปิด ย้ำเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้ดูแลอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมประมงอย่างเคร่งครัด

          นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า...ช่วงปลายฝนต้นหนาว สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำที่เกษตรกรเลี้ยงไว้ ทำให้ปลาอ่อนแอ ป่วย และไวต่อเชื้อก่อโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคอียูเอส โรคตัวด่าง โรคไวรัสเคเอชวี และโรคไวรัสตัวแดงดวงขาว ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเบื้องต้นกรมประมงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานประมงจังหวัดต่าง ๆ ลงพื้นที่ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในสัตว์น้ำ สำหรับโรคสัตว์น้ำ 4 ชนิด ที่สามารถพบได้ในช่วงของปลายฤดูฝนเข้าช่วงต้นของฤดูหนาว มีดังนี้

          1.โรคอียูเอส (Epizootic Ulcerative Syndrome : EUS) หรือ “โรคแผลเน่าเปื่อย” เป็นโรคที่อยู่ภายใต้ระบบการเฝ้าระวังโรคสัตว์น้ำของประเทศไทย มีสาเหตุจากเชื้อราสกุลอะฟลาโนมัยซิส (Aphanomyces invadans) ปลาที่ป่วย จะพบลักษณะอาการแผลเน่าเปื่อยลึกตามตัว โรคนี้พบได้ในปลาหลายชนิดทั้งที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติและบ่อเลี้ยง เช่น ปลาช่อน ปลาตะเพียน ปลาสร้อย ปลากระสูบ ปลาแรด และปลาสลิด เป็นต้น ปัจจุบันยังไม่มียาหรือสารเคมีที่จะใช้ในการรักษาโรคได้ แต่ปลาจะสามารถหายได้เองเมื่อสภาพอากาศและน้ำในบ่อเลี้ยงมีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลให้เชื้อราเจริญและแพร่กระจายได้น้อยลง ในขณะที่ปลามีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นจนสามารถรักษาอาการป่วยเองได้ 

          2. โรคคอลัมนาริส (Columnaris Disease) โรคนี้มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียสกุลฟลาโวแบคทีเรียม (Flavobacterium columnare) พบมากในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงและอุณหภูมิน้ำต่ำ พบได้บ่อยกับปลาหลังจากการย้ายบ่อ หรือหลังการขนส่ง ลักษณะอาการปลาที่ป่วยจะมีแผลด่างขาวตามลำตัว ครีบกร่อน เหงือกเน่า หากติดเชื้อรุนแรงปลาจะมีอัตราการตายสูงในระยะเวลาสั้น  สามารถพบโรคนี้ได้ในปลาหลายชนิด เช่น ปลานิล ปลาสวยงาม ปลากะพงขาว ปลาดุก ปลาช่อน และปลาบู่ เป็นต้น วิธีการป้องโรค คือ การจัดการการเลี้ยงลูกพันธุ์สัตว์น้ำ โดยลดความหนาแน่น ลดอาหาร ควบคุมคุณสมบัติน้ำให้เหมาะสม ในระหว่างการเคลื่อนย้ายหรือขนส่ง โดยให้ใช้เกลือแกง 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 1 ตัน (0.1 %) เพื่อช่วยลดความเครียดของปลา

          3. โรคเคเอชวี (Koi Herpesvirus Disease : KHVD) โรคนี้มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส พบในปลาตระกูลคาร์ปและปลาไน ปลาที่ป่วยจะแสดงลักษณะอาการรวมกลุ่มอยู่ตามผิวน้ำและขอบบ่อ ซึม ว่ายน้ำเสียการทรงตัว ลำตัวมีเมือกมากและมักพบมีแผลเลือดออกตามลำตัว ปลาที่มีอาการติดเชื้อรุนแรงจะพบอาการเหงือกเน่า ปลาอ่อนแอ กินอาหารน้อยลงหรือไม่กินอาหาร ทยอยตายโดยพบว่ามีอัตราการตายสูงถึง 50 – 100 % โรคนี้ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาและสารเคมี วิธีการป้องโรค คือ ลดความหนาแน่นปลา ลดอาหาร ควบคุมคุณสมบัติน้ำให้เหมาะสม และรักษาตามอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และหรือปรสิต เป็นต้น

          4. โรคตัวแดงดวงขาว (White Spot Syndrome Virus : WSSV) ในกุ้งทะเล ภายหลังจากกุ้งได้รับเชื้อประมาณ 3 - 4 วัน กุ้งที่ป่วยจะพบอาการว่ายบริเวณผิวน้ำ หรือว่ายมาเกยขอบบ่อ พบกุ้งในยอมีอาการตัวแดงเพิ่มจำนวนมากขึ้น และบางครั้งพบว่ามีจุดขาวเล็ก ๆ เกิดขึ้นใต้เปลือกหุ้มส่วนหัว และเมื่อจำนวนกุ้งป่วยมากขึ้น อัตราการกินอาหารจะลดลงในขณะที่อัตราการตายของกุ้งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึง 100% ภายในระยะเวลา 5 - 7 วันโรคนี้ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาและสารเคมีได้ วิธีการป้องกันโรค คือ การเลือกใช้ลูกกุ้งทะเลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีการจัดการฟาร์มที่เหมาะสมตามระบบความปลอยภัยทางชีวภาพ เพื่อป้องกันเชื้อจากภายนอกฟาร์มเข้าสู่ฟาร์ม

          นอกจาก 4 โรคข้างต้นแล้ว เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควรเตรียมการป้องกันและเฝ้าระวังโรคสัตว์น้ำ  เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงที่มีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โดยขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมประมง ดังนี้

          • วางแผนการเลี้ยงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เช่น เว้นช่วงการเลี้ยงปลาในกระชังในช่วงนี้ เลือกใช้อาหารสัตว์น้ำที่ขึ้นทะเบียนมีคุณภาพดี และให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อลดการสะสมของของเสีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและสุขภาพสัตว์น้ำได้

          • ตรวจสอบความสะอาดของกระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ ไม่ให้มีการสะสมของตะกอนหรือสารอินทรีย์ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนน้ำและการแลกเปลี่ยนออกซิเจนของสัตว์น้ำ 

          • ควรติดตั้งเครื่องให้อากาศหรือเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนละลายในน้ำ กรณีช่วงที่อากาศปิดติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันสัตว์น้ำเกิดอาการน็อคน้ำและตายได้ ในกรณีที่ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ของน้ำในบ่อลดลง ควรเติมวัสดุปูน เช่น ปูนขาว หรือปูนมาร์ล เป็นต้น และควรเติมเกลือ เพื่อลดความเครียดของสัตว์น้ำ 

          • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้สัตว์น้ำ โดยการเสริมอาหารหรือวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ เช่น โปรไบโอติก วิตามินซี วิตามินรวม แร่ธาตุต่าง ๆ โดยพิจารณาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน เพื่อให้ได้สินค้าที่ได้มาตรฐานตรงตามวัตถุประสงค์ของการใช้สำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

 

          ทั้งนี้ หากพบสัตว์น้ำในพื้นที่ของท่านป่วยหรือตาย ให้รีบแจ้งสำนักงานประมงจังหวัดหรือ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง/น้ำจืดในพื้นที่ หรือแจ้งมายังกองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ กรุงเทพฯ โทร. 0 2579 4122 / ศูนย์วิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำสงขลา โทร. 0 7433 5243 

 Tags

  •   Hits
  • ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ  เสริมช่องทางให้ผปก. ประเดิมเฟสแรก 5 ปลายทาง “อเมริกา – เอเชีย”  รุกหนุนแบรนด์ดิ้งประเทศไทยแหล่งผลิตสัตว์น้ำสวยงาม ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ เสริม... จำนวนผู้อ่าน 902  กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิเวศ ฟื้นชีวิตใหม่ให้ท้องทะเลไทย กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิ... จำนวนผู้อ่าน 784 กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก สินค้าประมง  พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของประเทศคู่ค้าแบบเรียลไทม์ได้ไร้รอยต่อ กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนว... จำนวนผู้อ่าน 749 8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม  “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยชาวประมง 3,000 ล้านบาท”  8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช... จำนวนผู้อ่าน 665 โฆษกกรมประมง แจงชัดแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ  พ.ศ. 2567 – 2570  กรมประมงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสถานการณ์ในหลายพื้นที่เริ่มบรรเทาลงแล้ว โฆษกกรมประมง แจงชัดแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 ... จำนวนผู้อ่าน 637 ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้ำ! ภาคการประมงไทยไม่กระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้... จำนวนผู้อ่าน 500 กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา  สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่างพักชำระหนี้กับ ธ.ก.ส. กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่... จำนวนผู้อ่าน 499 ข่าวดี พ.ร.บ. ประมงใหม่ ผ่านสภาฯ เรียบร้อยแล้ว ปรับ 71 มาตรา ลดโทษ–เพิ่มสิทธิทำประมงพื้นบ้าน ฟื้นชีวิตชาวประมงไทย สอดรับมาตรฐานสากล หนุนประมงไทยเป็นครัวโลกอย่างยั่งยืน ข่าวดี พ.ร.บ. ประมงใหม่ ผ่านสภาฯ เรียบร้อยแล้ว ปรับ 71 มาตรา ลดโทษ–เพิ่มสิทธิทำป... จำนวนผู้อ่าน 495 กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก  ลุยเก็บตัวอย่างตรวจโลหะหนักต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก ลุ... จำนวนผู้อ่าน 493 กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งคุณภาพ ยั่งยืน แข่งขันได้ในตลาดโลก กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู... จำนวนผู้อ่าน 491 ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์ปลากะพงขาวไปจีน เริ่มแล้ว 2 ราย ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการ... จำนวนผู้อ่าน 445 กรมประมง ครบรอบปีที่ 99 ก้าวสู่ “Fisheries Transformation” จัดแสดงนิทรรศการ 9 โซน “การประมง 3 น้ำ สู่แผ่นดิน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้” เปิดมิติใหม่สู่วิถียั่งยืน ยกระดับประมงไทยสู่มาตรฐานสากล โชว์ศักยภาพ GDP ประมงแตะ 1.38 แสนล้านบาท กรมประมง ครบรอบปีที่ 99 ก้าวสู่ “Fisheries Transformation” จัดแสดงนิทรรศการ 9 โซ... จำนวนผู้อ่าน 440 กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล  เปิดให้บริการแผนที่ออนไลน์ (FGIS) ผ่าน Web Map Application  ตัวช่วย..ค้นหาพิกัดด้านการประมงทุกพื้นที่ทั่วไทย กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล เปิดให้บริการแผ... จำนวนผู้อ่าน 428 กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map   “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด” ระยะ 5 ปี กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี... จำนวนผู้อ่าน 414 กรมประมง...ร่วมเปิดอบรมมาตรฐานสายพันธุ์และเกณฑ์ปลากัดไทยฉบับล่าสุด หนุนอัตลักษณ์สัตว์น้ำประจำชาติ ผลักดันสู่สินค้าสร้างรายได้ในตลาดโลก กรมประมง...ร่วมเปิดอบรมมาตรฐานสายพันธุ์และเกณฑ์ปลากัดไทยฉบับล่าสุด หนุนอัตลักษณ์... จำนวนผู้อ่าน 403


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6