อธิบดีประมง ลั่น ! ใครครอบครองปลาหมอคางดำนอกพื้นที่แพร่ระบาด โทษหนัก...จับ จำคุก ปรับจริง 1–2 ล้านบาท

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


อธิบดีประมง ลั่น ! ใครครอบครองปลาหมอคางดำนอกพื้นที่แพร่ระบาด โทษหนัก...จับ จำคุก ปรับจริง 1–2 ล้านบาท 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

อธิบดีประมง ลั่น ! ใครครอบครองปลาหมอคางดำนอกพื้นที่แพร่ระบาด โทษหนัก...จับ จำคุก ปรับจริง 1–2 ล้านบาท..คลิก

นายบัญชา  สุขแก้ว  อธิบดีกรมประมง  เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ หรือ Blackchin tilapia (Sarotherodon melanotheron) ในแหล่งน้ำสาธารณะและบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อพันธุ์สัตว์น้ำพื้นเมือง ระบบนิเวศแหล่งน้ำ และก่อให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกร และผู้ประกอบอาชีพด้านประมงเป็นอย่างมาก เนื่องจากปลาหมอคางดำเป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นที่แพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว และรุกรานแก่งแย่งที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังเป็นปลาที่มีความทนทานปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ออกประกาศ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า ส่งออก และนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2564 และประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามเพาะเลี้ยงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2564  โดย “ปลาหมอคางดำ” เป็นหนึ่งในสัตว์น้ำเอเลียนสปีชีส์ที่ถูกระบุไว้ในประกาศทั้ง 2 ฉบับ แต่ปัจจุบันพบแพร่ระบาดในพื้นที่ 19 จังหวัด เกิดจากการเคลื่อนย้ายปลาหมอคางดำไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 65 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกประกาศ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามมีไว้ในครอบครอง พ.ศ. 2567 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2567
           โดยมีสาระสำคัญ คือ ห้ามมิให้บุคคลมีไว้ในครอบครองปลาหมอสีคางดำหรือปลาหมอคางดำมีชีวิตนอกพื้นที่การแพร่ระบาด ตามที่อธิบดีกรมประมงประกาศกำหนด ซึ่งขณะนี้มีจังหวัดที่ประกาศเป็นเขตพื้นที่ระบาดทั้งหมด 19 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 76 อำเภอ/เขต ได้แก่ จันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ นนทบุรี กรุงเทพมหานคร นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ชลบุรี พัทลุง และปราจีนบุรี  ส่วนปลาหมอสีคางดำหรือปลาหมอคางดำที่ไม่มีชีวิต สามารถนำออกนอกพื้นที่ได้ แต่มีข้อกำหนดตามประกาศ ดังนี้  
          1. กรณีมีการครอบครองโดยการเคลื่อนย้ายปลาหมอคางดำที่ไม่มีชีวิต มีลักษณะและแนวทางปฏิบัติ ได้แก่
          1.1 การเคลื่อนย้ายในลักษณะที่มีการแช่เย็นด้วยน้ำแข็ง ต้องใส่ในภาชนะบรรจุมิดชิด โดยอาจบรรจุปลาลงในถุงหรือวัสดุอื่นเพื่อป้องกันไข่ปลาสัมผัสกับน้ำ แล้ววางในภาชนะอีกชั้นหนึ่ง เช่น การบรรจุปลาลงในถุงแล้วใส่ลงกล่องโฟม หรือถังน้ำแข็ง เป็นต้น หลังจากนั้นให้ใส่น้ำแข็งให้เต็มภาชนะเพื่อให้ปลาตายสนิท ก่อนนำออกนอกพื้นที่แพร่ระบาด
          1.2 การเคลื่อนย้ายในลักษณะที่มีการแช่แข็ง โดยอาจจะบรรจุปลาลงในถุงแล้วนำไปแช่แข็งเพื่อให้ปลาตายสนิท ก่อนนำออกนอกพื้นที่แพร่ระบาด
          1.3 การเคลื่อนย้ายในลักษณะที่มีการแปรรูปเบื้องต้นแล้ว เช่น การตัดหัว ควักไส้ แล่เป็นชิ้น หมักเกลือ เป็นต้น ทั้งนี้ เศษซากของปลาที่เหลือทิ้งจากการแปรรูปห้ามทิ้งลงสู่แหล่งน้ำหรือท่อระบายน้ำทิ้ง และต้องมีการจัดการเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ปลาหลุดรอดลงสู่แหล่งน้ำ เช่น นำไปทำปุ๋ยชีวภาพ นำไปต้มทำอาหารสัตว์ เป็นต้น
          2. กรณีการเคลื่อนย้ายปลาหมอคางดำที่ไม่มีชีวิตเพื่อนำไปแปรรูปเป็นปลาป่น ต้องเคลื่อนย้ายแบบแห้ง และอยู่ในภาชนะบรรจุมิดชิด โดยต้องมีภาชนะรองรับซากปลา เช่น ผ้าใบ ถังพลาสติก เป็นต้น เมื่อนำซากปลาใส่ลงในภาชนะแล้ว ต้องมีการปิดภาชนะให้มิดชิด เช่น คลุมทับด้วยผ้าใบหรือพลาสติก เพื่อป้องกันเศษซากร่วงหล่นในระหว่างการเคลื่อนย้าย
          3. กรณีการเคลื่อนย้ายปลาหมอคางดำที่ไม่มีชีวิต เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบตามโครงการของรัฐ เช่น การทำน้ำหมักชีวภาพ เป็นต้น โดยต้องเคลื่อนย้ายแบบแห้ง และอยู่ในภาชนะบรรจุมิดชิด โดยอาจมีภาชนะรองรับซากปลา เช่น ผ้าใบ ถังพลาสติก และเมื่อนำซากปลาใส่ลงในภาชนะแล้วต้องปิดภาชนะให้มิดชิด เช่น คลุมทับด้วยผ้าใบหรือผ้าพลาสติก เพื่อป้องกันเศษซากร่วงหล่นในระหว่างการเคลื่อนย้าย
          4. กรณีการเคลื่อนย้ายปลาหมอคางดำที่ไม่มีชีวิตที่กระทำโดยทางราชการ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดและกำจัดออกจากที่จับสัตว์น้ำ หน่วยงานราชการที่ดำเนินการต้องทำให้ปลาตายสนิทและบรรจุซากใส่ในภาชนะก่อนเคลื่อนย้ายซากไปทำลาย
          ทั้งนี้ การล้างอุปกรณ์ ภาชนะ รวมไปถึงพาหนะในการขนส่งปลา ห้ามเทน้ำล้างอุปกรณ์ลงในแหล่งน้ำและท่อน้ำทิ้งสาธารณะ เนื่องจากไข่ปลาหมอคางดำอาจติดมาและอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดในแหล่งน้ำอื่นได้
          ประกาศดังกล่าวนี้มีผลบังคับใช้นับถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (วันที่ 16 สิงหาคม 2567) ทั้งนี้ หากฝ่าฝืน มีความผิดตามมาตรา 144 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าหากนำปลาหมอคางดำไปปล่อยลงในแหล่งน้ำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนทราบ เพื่อป้องกันการกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเห็นปลาหมอคางดำ ขอให้รีบแจ้งมายังสำนักงานประมงจังหวัดหรือหน่วยงานกรมประมงในพื้นที่

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 6,088  กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิเวศ ฟื้นชีวิตใหม่ให้ท้องทะเลไทย กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิ... จำนวนผู้อ่าน 713 กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก สินค้าประมง  พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของประเทศคู่ค้าแบบเรียลไทม์ได้ไร้รอยต่อ กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนว... จำนวนผู้อ่าน 504 กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งคุณภาพ ยั่งยืน แข่งขันได้ในตลาดโลก กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู... จำนวนผู้อ่าน 354 8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม  “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยชาวประมง 3,000 ล้านบาท”  8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช... จำนวนผู้อ่าน 347 ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์ปลากะพงขาวไปจีน เริ่มแล้ว 2 ราย ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการ... จำนวนผู้อ่าน 339 กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map   “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด” ระยะ 5 ปี กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี... จำนวนผู้อ่าน 321 กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล  เปิดให้บริการแผนที่ออนไลน์ (FGIS) ผ่าน Web Map Application  ตัวช่วย..ค้นหาพิกัดด้านการประมงทุกพื้นที่ทั่วไทย กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล เปิดให้บริการแผ... จำนวนผู้อ่าน 315 กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุข สนุก และบุญไว้ในเเห่งเดียว ผ่านกิจกรรมจับปลาชะโด จับหนึ่งช่วยถึงสิบ คืนสมดุลชีวิตให้กว๊านพะเยา กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุ... จำนวนผู้อ่าน 315 ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ  เสริมช่องทางให้ผปก. ประเดิมเฟสแรก 5 ปลายทาง “อเมริกา – เอเชีย”  รุกหนุนแบรนด์ดิ้งประเทศไทยแหล่งผลิตสัตว์น้ำสวยงาม ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ เสริม... จำนวนผู้อ่าน 312 กรมประมงเข้ารับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 โชว์ผลงาน คว้ารางวัล 3 สาขา 3 ประเภท สะท้อนความเชื่อมั่น หน่วยงานภาครัฐที่ประชาชนให้การยอมรับ  กรมประมงเข้ารับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 โชว์ผลงาน คว้ารางวัล 3 สาขา 3 ประเภท สะ... จำนวนผู้อ่าน 289 ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้ำ! ภาคการประมงไทยไม่กระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้... จำนวนผู้อ่าน 285 กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก  ลุยเก็บตัวอย่างตรวจโลหะหนักต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก ลุ... จำนวนผู้อ่าน 283 กรมประมง จับมือ ม.เกษตร เปิดเกมรุกยกระดับสินค้าประมง ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยกลยุทธ์การขายยุคใหม่ กรมประมง จับมือ ม.เกษตร เปิดเกมรุกยกระดับสินค้าประมง ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยกลย... จำนวนผู้อ่าน 267 กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์สติวเทคนิคอนุบาลด้วยการควบคุมอุณหภูมิหนุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์... จำนวนผู้อ่าน 265


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6