กรมประมง…เร่งเพิ่มกำลังการผลิตจุลินทรีย์ ปม.1, 2 บำบัดน้ำเสีย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ กรณีน้ำเค็มรุกฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


กรมประมง…เร่งเพิ่มกำลังการผลิตจุลินทรีย์ ปม.1, 2 บำบัดน้ำเสีย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ กรณีน้ำเค็มรุกฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

กรมประมง…เร่งเพิ่มกำลังการผลิตจุลินทรีย์ ปม.1, 2 บำบัดน้ำเสีย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ กรณีน้ำเค็มรุกฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ..คลิก

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามที่ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหากรณีน้ำเค็มจากแม่น้ำบางปะกงไหลเข้าพื้นที่ทำการประมงและพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดสมุทรปราการ ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำที่อาศัยในคลองหลักและคลองย่อย พี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะรายที่ไม่มีบ่อพักน้ำและมีความจำเป็นต้องสูบน้ำจากคลองเติมลงบ่อเพื่อชดเชยการระเหยของน้ำในช่วงฤดูร้อน โดยได้มอบหมายให้กรมประมงเร่งสำรวจความเสียหายด้านประมงและดำเนินการช่วยเหลือโดยเร่งด่วน จากวิกฤติดังกล่าว กรมประมงจึงได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ (Task force) เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านการประมงกรณีน้ำเค็มจากแม่น้ำบางปะกงไหลเข้าพื้นที่ทำการประมงและพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ขึ้นทันที เพื่อเร่งสำรวจและรวบรวมจำนวนและรายละเอียดของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดมาตรการ แนวทางแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือ และฟื้นฟูเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบอย่างรอบด้านและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด 
          จากการสำรวจพบว่า เกษตรกรภาคการประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราได้รับผลกระทบทั้งหมด 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง, บ้านโพธิ์ และบางปะกง ในขณะที่จังหวัดสมุทรปราการได้รับผลกระทบ 1 อำเภอ คือ อำเภอบางบ่อ (ข้อมูล ณ วันที่ 23 เมษายน 2567) โดยกรมประมงได้จัดทีมนักวิชาการลงพื้นที่ทันทีเพื่อให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำ รวมถึงติดตามคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง มีการแจกจ่ายจุลินทรีย์สำหรับบำบัดน้ำเสียในบ่อเลี้ยงให้กับเกษตรกร รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตจุลินทรีย์ ปม.1 จำนวน 25,000 ซอง และหัวเชื้อจุลินทรีย์ ปม.2 กว่า 700 ลิตร เพื่อนำไปขยายสำหรับใช้บำบัดน้ำเสียครอบคลุมพื้นที่กว่า 28,000 ไร่ พร้อมประสานและจัดหาแหล่งรับซื้อผลผลิตสัตว์น้ำในกรณีที่เกษตรกรมีความจำเป็นต้องจับผลผลิตเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังได้จัดทำแผนที่แสดงความต้องการใช้น้ำเพื่อการประมงในลำคลองสายต่าง ๆ จากฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกร และอ้างอิงตามจุดตรวจวัดคุณภาพน้ำของกรมชลประทาน ซึ่งมีการระบุค่าปริมาณออกซิเจนในน้ำ (DO) และค่าความเค็มที่เหมาะสมต่อการประมงเพื่อให้เกษตรกรสามารถนำข้อมูลมาใช้เปรียบเทียบประกอบการตัดสินใจในการนำน้ำเข้าบ่อเลี้ยงได้แบบ Real time อีกด้วย และสำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบกรมประมงขอแนะนำแนวทางการจัดการคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ กรณีน้ำเค็มเข้าบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่ฉะเชิงเทราและจังหวัดสมุทรปราการ ดังนี้
          1. ตรวจวัดค่าความเค็มของน้ำเป็นระยะ 
สัตว์น้ำจืดโดยทั่วไปไม่สามารถทนการเปลี่ยนแปลงความเค็มอย่างเฉียบพลันได้ ในขณะที่ปลากะพงขาวสามารถทนความเค็มได้ในช่วงกว้างตั้งแต่น้ำจืดถึงน้ำทะเล อย่างไรก็ตามไม่สามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงความเค็มน้ำอย่างฉับพลันที่ระดับมากกว่า 5 ppt ได้ กรณีมีการเปลี่ยนแปลงค่าความเค็มอย่างรวดเร็วให้เติมน้ำจืดเพื่อลดความเค็ม งดนำน้ำที่มีความเค็มสูงจากแหล่งน้ำธรรมชาติเข้าสู่บ่อเลี้ยง ให้ใช้น้ำที่ผ่านการบำบัดจากระบบหมุนเวียนภายในฟาร์ม ควบคุมคุณภาพน้ำและระดับน้ำในบ่อเลี้ยงให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของปริมาณน้ำที่ใช้เลี้ยง
          2. เติมอากาศอย่างเพียงพอต่อความต้องการของสัตว์น้ำ 
การเติมอากาศในเวลากลางวันช่วงฤดูร้อน มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการแบ่งชั้นของน้ำที่ทำให้สัตว์น้ำเกิดความเครียดและมีความต้องการออกซิเจนมากขึ้น ควรเปิดเครื่องเติมอากาศโดยตีน้ำรอบต่ำเพื่อผสมมวลน้ำ ไม่ควรตีน้ำรอบสูงจนฟุ้งกระจายเพราะจะเร่งการระเหยของน้ำ โดยเฉพาะกรณีที่ไม่สามารถเปลี่ยนถ่ายหรือเพิ่มปริมาณน้ำได้ ควรเริ่มตีน้ำตั้งแต่ 10.00 – 11.00 น. หรือก่อนเกิดการแบ่งชั้นอุณภูมิน้ำ และเพิ่มรอบการตีน้ำตั้งแต่ 22.00 น. เป็นต้นไปจนถึงช่วงเช้า ทั้งนี้ ช่วงระยะเวลาการตีน้ำขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำและปริมาณออกซิเจนในน้ำ (DO) ควรมีชุด Test kit สำหรับตรวจค่า DO เพื่อให้การจัดการคุณภาพน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ DO ในรอบวันไม่ควรต่ำกว่า 4 มิลลิกรัมต่อลิตร
          3. ควบคุมปริมาณอาหารสัตว์น้ำ 
เมื่อบ่อเลี้ยงอยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสมและมีทรัพยากรน้ำที่จำกัด ควรลดปริมาณการให้อาหารลงร้อยละ 30 - 50 รวมถึงควรงดอาหารเมื่ออุณหภูมิสูงมาก มีฝนตกหนัก หรือคุณภาพน้ำไม่เหมาะสมต่อการเลี้ยง
          4. จัดการของเสียเมื่อน้ำในบ่อเลี้ยงลดลงแต่ของเสียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 
เพิ่มการให้อากาศเพื่อเร่งกระบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์ หากมีการตายของพืชน้ำให้เก็บรวบรวมออกจากบ่อให้ได้มากที่สุด บ่อที่มีการรวมตะกอนเลนให้ดูดตะกอนของเสียออกจากระบบการเลี้ยง กรณีมีบ่อพักน้ำให้ทำการหมุนเวียนเพื่อบำบัดสารอินทรีย์และนำน้ำกลับเข้าสู่ระบบการเลี้ยง และใช้จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ เช่น ปม.1, ปม.2 (ค่า DO ตลอดทั้งวันไม่ควรต่ำกว่า 4 มิลลิกรัมต่อลิตร) 
          กรณีที่มีปัญหาปริมาณออกซิเจนไม่เพียงพอให้ใช้จุลินทรีย์ กลุ่มแลคติดแอซิดแบคทีเรีย หรือ EM หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (จุลินทรีย์น้ำแดง) รวมทั้งการเติมปูนขาวหรือปูนร้อน 10 กิโลกรัมต่อไร่ในเวลากลางคืน เพื่อปรับสภาพน้ำให้เหมาะสม ทั้งนี้ การเติมปูนร้อนหรือปูนขาวในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำควรค่อย ๆ ละลายปูนในถังซึ่งมีท่อต่อลงในบ่อ เทหน้าใบพัดตีน้ำ หากไม่มีเครื่องตีน้ำให้ใช้ปูนขาวละลายน้ำสาดให้ทั่วบ่อ
          5. จัดการสุขภาพสัตว์น้ำ เป็นการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยมี 2 สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ
                    1) เพิ่มภูมิคุ้มกันให้สัตว์น้ำ โดยเฉพาะในภาวะที่สัตว์น้ำมีความเครียด โดยการเสริมด้วยวิตามินโดยใช้ตามวิธีที่ระบุในฉลาก หลีกเลี่ยงการใช้ยาเพื่อป้องกันโรค และควรเลือกใช้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม โดยควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฏหมายกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ
                    2) สังเกตพฤติกรรมที่ผิดปกติของสัตว์น้ำ เช่น การลอยหัวเกาะขอบบ่อ การกินอาหารลดลง การว่ายน้ำผิดปกติ มีแผลหรือตกเลือดบริเวณลำตัว ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กรมประมงในพื้นที่เพื่อเข้าตรวจสอบและพิจารณาจับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดตลาด ออกขายเพื่อลดความเสี่ยง
          อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า ภายหลังจากที่สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ กรมประมงมีแผนในการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำพื้นถิ่นเพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำและคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศในพื้นที่ สำหรับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดและสามารถติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของกรมประมงในพื้นที่ เพื่อตรวจติดตามคุณภาพน้ำก่อนนำน้ำเข้าบ่อเลี้ยงเพื่อให้มั่นใจว่าน้ำมีคุณภาพเหมาะสมกับการเลี้ยง โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา เบอร์โทรศัพท์ 0 3851 1852, 09 8550 3343, 06 5504 5055 และสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรปราการ เบอร์โทรศัพท์ 0 2173 0229, 08 1150 0210 และติดตามสถานการณ์คุณภาพน้ำแบบ Real time ผ่านแผนที่ติดตามคุณภาพน้ำคลองประเวศบุรีรมย์โดย Scan QR code ด้านล่าง หรือทางเว็บไซต์ https://www.thaiwater.net/report-salinity

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 6,002  กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิเวศ ฟื้นชีวิตใหม่ให้ท้องทะเลไทย กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิ... จำนวนผู้อ่าน 708 กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก สินค้าประมง  พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของประเทศคู่ค้าแบบเรียลไทม์ได้ไร้รอยต่อ กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนว... จำนวนผู้อ่าน 489 กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งคุณภาพ ยั่งยืน แข่งขันได้ในตลาดโลก กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู... จำนวนผู้อ่าน 345 8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม  “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยชาวประมง 3,000 ล้านบาท”  8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช... จำนวนผู้อ่าน 339 ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์ปลากะพงขาวไปจีน เริ่มแล้ว 2 ราย ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการ... จำนวนผู้อ่าน 337 กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map   “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด” ระยะ 5 ปี กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี... จำนวนผู้อ่าน 319 กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุข สนุก และบุญไว้ในเเห่งเดียว ผ่านกิจกรรมจับปลาชะโด จับหนึ่งช่วยถึงสิบ คืนสมดุลชีวิตให้กว๊านพะเยา กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุ... จำนวนผู้อ่าน 312 กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล  เปิดให้บริการแผนที่ออนไลน์ (FGIS) ผ่าน Web Map Application  ตัวช่วย..ค้นหาพิกัดด้านการประมงทุกพื้นที่ทั่วไทย กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล เปิดให้บริการแผ... จำนวนผู้อ่าน 306 กรมประมงเข้ารับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 โชว์ผลงาน คว้ารางวัล 3 สาขา 3 ประเภท สะท้อนความเชื่อมั่น หน่วยงานภาครัฐที่ประชาชนให้การยอมรับ  กรมประมงเข้ารับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 โชว์ผลงาน คว้ารางวัล 3 สาขา 3 ประเภท สะ... จำนวนผู้อ่าน 285 ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ  เสริมช่องทางให้ผปก. ประเดิมเฟสแรก 5 ปลายทาง “อเมริกา – เอเชีย”  รุกหนุนแบรนด์ดิ้งประเทศไทยแหล่งผลิตสัตว์น้ำสวยงาม ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ เสริม... จำนวนผู้อ่าน 277 ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้ำ! ภาคการประมงไทยไม่กระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้... จำนวนผู้อ่าน 276 กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก  ลุยเก็บตัวอย่างตรวจโลหะหนักต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก ลุ... จำนวนผู้อ่าน 270 กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์สติวเทคนิคอนุบาลด้วยการควบคุมอุณหภูมิหนุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์... จำนวนผู้อ่าน 263 กรมประมง จับมือ ม.เกษตร เปิดเกมรุกยกระดับสินค้าประมง ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยกลยุทธ์การขายยุคใหม่ กรมประมง จับมือ ม.เกษตร เปิดเกมรุกยกระดับสินค้าประมง ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยกลย... จำนวนผู้อ่าน 261


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6