ธรรมนัส ประกาศ ! กฎกระทรวงฉบับใหม่ การขออนุญาตและการอนุญาตทำประมงพาณิชย์ อำนวยความสะดวกช่วยเหลือประมงพาณิชย์ กว่า 9,000 ลำ มีผล 1 เมษายนนี้

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


ธรรมนัส ประกาศ ! กฎกระทรวงฉบับใหม่ การขออนุญาตและการอนุญาตทำประมงพาณิชย์ อำนวยความสะดวกช่วยเหลือประมงพาณิชย์ กว่า 9,000 ลำ มีผล 1 เมษายนนี้ 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

HOT ธรรมนัส ประกาศ ! กฎกระทรวงฉบับใหม่  การขออนุญาตและการอนุญาตทำประมงพาณิชย์ อำนวยความสะดวกช่วยเหลือประมงพาณิชย์ กว่า 9,000 ลำ มีผล 1 เมษายนนี้..คลิก

นายบัญชา  สุขแก้ว  อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบ “ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ พ.ศ. 2567” เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือพี่น้องชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และกฎหมายลำดับรอง เนื่องจากเล็งเห็นว่าปัจจุบันกฎกระทรวงฯ พ.ศ.2562 ยังไม่สอดคล้องกับบริบทการทำการประมงของชาวประมงในปัจจุบันทั้งในเรื่องของการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์  การโอนใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ การโอนใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ การแก้ไขรายการในใบอนุญาต และการยกเลิกสิทธิ์การทำการประมง ประกอบกับในข้อเท็จจริงปรากฏว่าในแต่ละรอบปีการประมงจะมีเรือประมงที่ไม่ได้รับอนุญาตทำการประมงและไม่สามารถออกไปทำประมงได้ หรือ มีใบอนุญาตทำการประมงแต่ไม่สามารถออกไปทำประมงได้ จากสาเหตุหรือปัจจัยบางประการ เช่น ปัญหาข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรค  ปัญหาการขาดแคลนแรงงานบนเรือประมง  ปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ ฯลฯ ทำให้เกิดความไม่คุ้มทุนในการออกเรือ และเป็นเหตุทำให้ชาวประมงไม่ได้ออกเรือไปทำประมง ส่งผลให้เรือที่จอดอยู่เกิดการชำรุดทรุดโทรม สภาพเรือไม่มีความพร้อมหรือไม่เหมาะสมและไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่จะได้รับการรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัยในเรือประมง (สร.3)  
        โดยกรณีดังกล่าวที่ผ่านมา ร้อยเอก ธรรมนัส  พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการมอบหมายให้กรมประมง หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวและพยายามผลักดันเสนอเข้า ครม. จนสำเร็จ โดยกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ พ.ศ.2567 ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567  
       สำหรับสาระสำคัญในการปรับแก้กฎกระทรวง ประกอบด้วย 
       1. กำหนดให้ขยายระยะเวลาให้ชาวประมงสามารถชำระค่าธรรมเนียมค่าอากรตามที่กำหนดเดิมต่อไปได้อีก 90 วันตามความจำเป็น เป็นการช่วยเหลือพี่น้องชาวประมงบางส่วนที่มีเหตุให้ไม่สามารถจ่ายเงินในเวลาที่กำหนดให้ได้มีโอกาสได้รับใบอนุญาตทำการประมงได้ นั้นคือหากไม่สามารถจ่ายเงินได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567 ผู้ได้รับอนุญาตสามารถยื่นเรื่องขอขยายระยะเวลาได้ถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2567 
       2. กำหนดให้นำเรือประมงลำอื่นมาทดแทนได้ กรณีเรือลำเดิมที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว จม อับปาง หรือไฟไหม้ทั้งลำ อันเป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนทะเบียนเรือไทย รวมถึงกรณีเรือประมงที่ได้รับใบอนุญาตชำรุดทรุดโทรม ด้วยเช่นกัน เป็นการช่วยเหลือให้ชาวประมงผู้ได้รับใบอนุญาตมีโอกาสที่จะหาเรือประมงลำอื่นมาใช้ในการประกอบอาชีพต่อไปได้ 
       3. กำหนดให้สามารถเพิ่มวิธีการในการดำเนินการนำเรือออกจากระบบ กับเรือที่นำมาควบรวมใบอนุญาตให้สามารถใช้หลักฐานการถอนทะเบียนเรือจากกรมเจ้าท่ามาอ้างอิงได้เลย ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับชาวประมงได้มากขึ้น 
       4. กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์สามารถเพิ่มเครื่องมือทำการประมงเพิ่มเติมได้ ทำให้ชาวประมงได้มีโอกาสในการปรับเปลี่ยนเครื่องมือให้สอดคล้องกับฤดูกาลและบริบทที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ 
       5. กำหนดให้กรณีผู้รับอนุญาตทำการประมงพาณิชย์เสียชีวิต คู่สมรสหรือทายาทของผู้รับอนุญาตสามารถมาขอรับโอนใบอนุญาตได้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการโอนกรรมสิทธิ์จากเจ้าของเรือก่อน หรือต้องมีคำสั่งศาลเป็นผู้จัดการมรดก เป็นการช่วยลดภาระให้กับพี่น้องชาวประมง และลดระยะเวลาในการดำเนินการอีกด้วย 
       6. กำหนดให้ลดเอกสารบางรายการที่ไม่จำเป็นที่หน่วยงานรัฐสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ระหว่างหน่วยงานและไม่เกี่ยวข้องกับการขอรับอนุญาต เช่น หนังสือรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัยในเรือประมง (สร.3) และเอกสารการแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เรือ ฯลฯ เป็นการช่วยลดภาระให้ชาวประมง 
       7. กำหนดให้ผ่อนปรนหลักการเดิมให้ผู้รับอนุญาตสามารถขอย้ายพื้นที่ทำการประมงจากอ่าวไทยไปอันดามัน หรือจากอันดามันมาอ่าวไทยได้ โดยไม่กระทบต่อปริมาณสัตว์น้ำสูงสุดที่สามารถทำการประมงได้อย่างยั่งยืน เป็นการเพิ่มหลักการให้สอดคล้องกับบริบทการทำประมงของชาวประมงมากขึ้น
       สำหรับการออกกฎกระทรวงดังกล่าวนี้ มีวัตุประสงค์เพื่อให้การใช้กฎหมายในการบริหารจัดการทรัพยากร เป็นไปตามความเหมาะสมของบริบทการประมงของไทย ซึ่งกรมประมงเชื่อมั่นว่าจะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเรือประพาณิชย์ จำนวนกว่า 9,000 ลำ ซึ่งท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส  พรหมเผ่า) ได้เน้นย้ำ ให้หาแนวทางออกร่วมกัน โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายให้เหมาะสมควบคู่ไปกับการบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเลอย่างยั่งยืน ตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีให้ไว้ โดยเฉพาะกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อชาวประมง โดยมีเจตนารมณ์ที่จะมุ่งมั่นพลิกฟื้นอุตสาหกรรมประมงไทยให้กลับมาเป็นแหล่งรายได้ ที่สำคัญของประเทศและประชาชน และการประมงทะเลมีเสถียรภาพ โดยเปลี่ยนมุมมองจากที่กฎหมายเป็นอุปสรรคเปลี่ยนเป็นรัฐสนับสนุน ทั้งนี้ การดำเนินการที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ไม่เป็นการลดประสิทธิภาพในการคงไว้ซึ่งการบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดความยั่งยืน และไม่กระทบกับหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2567  โดยผู้ที่จะยื่นคำขอใบอนุญาตดังกล่าว สามารถส่งเอกสารหรือติดต่อและชำระค่าธรรมเนียมได้ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สำนักงานประมงอำเภอ สำนักงานประมงจังหวัด 22 จังหวัดชายทะเล หรือ สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพฯ ณ สถานที่ตั้งของกรม  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป  
          ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อประสานงานกับคลินิกประสานงานการขอรับอนุญาตทำการประมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องชาวประมงสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น โดยสามารถสแกน QR-Code เข้าร่วมกลุ่มไลน์ได้ หรือ ติดต่อสอบถามเพิ่มได้ที่กลุ่มทะเบียนและอนุญาตทำการประมง กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง โทร.02-561-2341 , สำนักงานประมงจังหวัด และสำนักงานประมงอำเภอที่มีอาณาเขตติดทะเล หรือ line: คลินิกประสานงานการขอรับหนังสือรับรองและใบอนุญาตทำการประมง

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 4,775  กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้องเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความ... จำนวนผู้อ่าน 784 กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง เริ่ม 1 เม.ย. 68 นี้ !! กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูท... จำนวนผู้อ่าน 536 กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”  ดันดาวเด่น 13 กลุ่มสินค้าประมง ร่วมยกระดับการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ในปี 2568   กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”... จำนวนผู้อ่าน 333 กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก สินค้าประมง  พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของประเทศคู่ค้าแบบเรียลไทม์ได้ไร้รอยต่อ กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนว... จำนวนผู้อ่าน 258 รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา  หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ” จำนวน 923 ลำ  รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงก... จำนวนผู้อ่าน 253  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทยสู่ตลาดโลก  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทย... จำนวนผู้อ่าน 220 กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย   จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา” ประจำปี 2568 ภายใต้ ก.เกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 2 ล้านตัว พร้อมควบคุมปลานักล่า “ชะโด” เพื่อสร้างความสมดุลระบบนิเวศกว๊านพะเยาสู่แหล่งอาหารชุมชนที่ยั่งยืน กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะ... จำนวนผู้อ่าน 207 กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุข สนุก และบุญไว้ในเเห่งเดียว ผ่านกิจกรรมจับปลาชะโด จับหนึ่งช่วยถึงสิบ คืนสมดุลชีวิตให้กว๊านพะเยา กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุ... จำนวนผู้อ่าน 198 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอมตากใบ” ขึ้นแท่นสินค้าใหม่ เพิ่มรายได้ให้ชาวประมง 3 เท่า ภายในปี 2570 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอม... จำนวนผู้อ่าน 191 กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์สติวเทคนิคอนุบาลด้วยการควบคุมอุณหภูมิหนุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์... จำนวนผู้อ่าน 178 กรมประมง จับมือ AIT ร่วมลงนาม MOU ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรมประมง จับมือ AIT ร่วมลงนาม MOU ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ... จำนวนผู้อ่าน 178 กรมประมงชวนน้อง ๆ ป.1 – ม.3  ลงสนามประชันฝีมือประกวดวาดภาพระบายสี ชิงถ้วยพระราชทานฯ ในงานวันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35 กรมประมงชวนน้อง ๆ ป.1 – ม.3 ลงสนามประชันฝีมือประกวดวาดภาพระบายสี ชิงถ้วยพระราชท... จำนวนผู้อ่าน 169 ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์ปลากะพงขาวไปจีน เริ่มแล้ว 2 ราย ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการ... จำนวนผู้อ่าน 165 กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก  ลุยเก็บตัวอย่างตรวจโลหะหนักต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก ลุ... จำนวนผู้อ่าน 164


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6