กรมประมง จับมือ อย. และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ร่วมผนึกกำลัง !! เฝ้าระวังสารกัมมันตรังสีตกค้างในอาหารทะเลที่นำเข้าจากญี่ปุ่น หนุนสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


กรมประมง จับมือ อย. และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ร่วมผนึกกำลัง !! เฝ้าระวังสารกัมมันตรังสีตกค้างในอาหารทะเลที่นำเข้าจากญี่ปุ่น หนุนสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

กรมประมง จับมือ อย. และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ  ร่วมผนึกกำลัง !! เฝ้าระวังสารกัมมันตรังสีตกค้างในอาหารทะเลที่นำเข้าจากญี่ปุ่น  หนุนสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค..คลิก

นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นวันแรกที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ได้เริ่มทำการปล่อยน้ำเสียที่ปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีตกค้างจากการรื้อถอนโรงไฟฟ้าที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่ทะเล ซึ่งส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคของไทยอาจยังมีความวิตกกังวลต่อความปลอดภัยในการบริโภคอาหารทะเลที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นนั้น
          ดร.ถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมประมง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ  ได้มีการประสานร่วมกันดำเนินการในการเฝ้าระวังสุ่มตัวอย่างตรวจสอบสารกัมมันตรังสีที่อาจตกค้างในอาหารทะเลนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมตรวจสอบ ณ ด่านนำเข้า และร้านอาหารญี่ปุ่นภายในประเทศอย่างเข้มงวด  ภายใต้ภารกิจความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน  โดยกรมประมงได้รับการถ่ายโอนภารกิจมาจาก อย. ในการตรวจสอบสินค้าปลาและกุ้งแช่เย็น แช่แข็ง  และในส่วน อย. ทำการตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำอื่น ๆ เช่น หมึก หอย และปู  ซึ่งสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติจะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานในการตรวจวิเคราะห์
          ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา (ตุลาคม 2565 - กันยายน 2566) กรมประมงและ อย. ได้มีการสุ่มตัวอย่างสัตว์น้ำเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์สารกัมมันตรังสี (ซีเซียม-134 (Cs-134) และซีเซียม-137 (Cs137)) จำนวนทั้งสิ้น 135 ตัวอย่าง โดยเป็นตัวอย่างที่สุ่มตรวจ ณ ด่านนำเข้า ทั้งทางท่าอากาศยานที่ขนส่งโดยเครื่องบิน และทางตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนส่งทางเรือ จำนวน 105  ตัวอย่าง  รวมถึงการสุ่มตรวจ ณ ร้านอาหารญี่ปุ่นภายในประเทศอีก 30 ตัวอย่าง ซึ่งสินค้าที่สุ่มตรวจเป็นสัตว์น้ำจำพวก ปลา กุ้ง หมึก หอย ปู และตัวอย่างอาหารแปรรูป  โดยผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างอาหารทะเลนำเข้าปรากฏว่า ไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีแต่อย่างใด ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนผู้บริโภคได้ในความปลอดภัยของการบริโภคอาหารทะเลที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และเชื่อมั่นในการตรวจสอบเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดของกรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 
          โฆษกกรมประมง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า  ปัจจุบันกรมประมง อย. และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้มีการกำหนดแผนการตรวจติดตามเฝ้าระวังสุ่มตัวอย่างอาหารทะเลนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เรียบร้อยแล้ว และกรมประมงได้เริ่มดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน  ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่าหน่วยงานภาครัฐได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และกรมประมงยังได้มีการติดตามข้อมูลและสถานการณ์ดังกล่าวทั้งจากในและต่างประเทศเพื่อประกอบการดำเนินงานด้วย 
          อย่างไรก็ตาม หากประชาชนผู้บริโภคพบเห็นอาหารทะเลนำเข้าต้องสงสัยต่อการปนเปื้อนหรือต่อความปลอดภัย สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมประมง : ศูนย์บริการนำเข้าส่งออกสัตว์น้ำและปัจจัยการผลิต โทรศัพท์ 0-2579-1878 และ 0-2579-3614-5 นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นวันแรกที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ได้เริ่มทำการปล่อยน้ำเสียที่ปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีตกค้างจากการรื้อถอนโรงไฟฟ้าที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่ทะเล ซึ่งส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคของไทยอาจยังมีความวิตกกังวลต่อความปลอดภัยในการบริโภคอาหารทะเลที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น นั้น
          ดร.ถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมประมง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ  ได้มีการประสานร่วมกันดำเนินการในการเฝ้าระวังสุ่มตัวอย่างตรวจสอบสารกัมมันตรังสีที่อาจตกค้างในอาหารทะเลนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมตรวจสอบ ณ ด่านนำเข้า และร้านอาหารญี่ปุ่นภายในประเทศอย่างเข้มงวด  ภายใต้ภารกิจความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน  โดยกรมประมงได้รับการถ่ายโอนภารกิจมาจาก อย. ในการตรวจสอบสินค้าปลาและกุ้งแช่เย็น แช่แข็ง  และในส่วน อย. ทำการตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำอื่น ๆ เช่น หมึก หอย และปู  ซึ่งสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติจะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานในการตรวจวิเคราะห์
          ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา (กันยายน 2565 - ตุลาคม 2566) กรมประมงและ อย. ได้มีการสุ่มตัวอย่างสัตว์น้ำเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์สารกัมมันตรังสี (ซีเซียม-134 (Cs-134) และซีเซียม-137 (Cs137)) จำนวนทั้งสิ้น 135 ตัวอย่าง โดยเป็นตัวอย่างที่สุ่มตรวจ ณ ด่านนำเข้า ทั้งทางท่าอากาศยานที่ขนส่งโดยเครื่องบิน และทางตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนส่งทางเรือ จำนวน 105  ตัวอย่าง  รวมถึงการสุ่มตรวจ ณ ร้านอาหารญี่ปุ่นภายในประเทศอีก 30 ตัวอย่าง ซึ่งสินค้าที่สุ่มตรวจเป็นสัตว์น้ำจำพวก ปลา กุ้ง หมึก หอย ปู และตัวอย่างอาหารแปรรูป  โดยผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างอาหารทะเลนำเข้าปรากฏว่า ไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีแต่อย่างใด ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนผู้บริโภคได้ในความปลอดภัยของการบริโภคอาหารทะเลที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และเชื่อมั่นในการตรวจสอบเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดของกรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 
          โฆษกกรมประมง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า  ปัจจุบันกรมประมง อย. และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้มีการกำหนดแผนการตรวจติดตามเฝ้าระวังสุ่มตัวอย่างอาหารทะเลนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เรียบร้อยแล้ว และกรมประมงได้เริ่มดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน  ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่าหน่วยงานภาครัฐได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และกรมประมงยังได้มีการติดตามข้อมูลและสถานการณ์ดังกล่าวทั้งจากในและต่างประเทศเพื่อประกอบการดำเนินงานด้วย 
          อย่างไรก็ตาม หากประชาชนผู้บริโภคพบเห็นอาหารทะเลนำเข้าต้องสงสัยต่อการปนเปื้อนหรือต่อความปลอดภัย สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมประมง : ศูนย์บริการนำเข้าส่งออกสัตว์น้ำและปัจจัยการผลิต โทรศัพท์ 0-2579-1878 และ 0-2579-3614-5

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 5,077  กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้องเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความ... จำนวนผู้อ่าน 830 กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง เริ่ม 1 เม.ย. 68 นี้ !! กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูท... จำนวนผู้อ่าน 558 กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”  ดันดาวเด่น 13 กลุ่มสินค้าประมง ร่วมยกระดับการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ในปี 2568   กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”... จำนวนผู้อ่าน 342 กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก สินค้าประมง  พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของประเทศคู่ค้าแบบเรียลไทม์ได้ไร้รอยต่อ กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนว... จำนวนผู้อ่าน 297 รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา  หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ” จำนวน 923 ลำ  รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงก... จำนวนผู้อ่าน 272 กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย   จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา” ประจำปี 2568 ภายใต้ ก.เกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 2 ล้านตัว พร้อมควบคุมปลานักล่า “ชะโด” เพื่อสร้างความสมดุลระบบนิเวศกว๊านพะเยาสู่แหล่งอาหารชุมชนที่ยั่งยืน กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะ... จำนวนผู้อ่าน 236  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทยสู่ตลาดโลก  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทย... จำนวนผู้อ่าน 236 ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์ปลากะพงขาวไปจีน เริ่มแล้ว 2 ราย ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการ... จำนวนผู้อ่าน 232 กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุข สนุก และบุญไว้ในเเห่งเดียว ผ่านกิจกรรมจับปลาชะโด จับหนึ่งช่วยถึงสิบ คืนสมดุลชีวิตให้กว๊านพะเยา กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุ... จำนวนผู้อ่าน 210 กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์สติวเทคนิคอนุบาลด้วยการควบคุมอุณหภูมิหนุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์... จำนวนผู้อ่าน 200 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอมตากใบ” ขึ้นแท่นสินค้าใหม่ เพิ่มรายได้ให้ชาวประมง 3 เท่า ภายในปี 2570 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอม... จำนวนผู้อ่าน 200 กรมประมง จับมือ AIT ร่วมลงนาม MOU ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรมประมง จับมือ AIT ร่วมลงนาม MOU ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ... จำนวนผู้อ่าน 189 กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก  ลุยเก็บตัวอย่างตรวจโลหะหนักต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก ลุ... จำนวนผู้อ่าน 187 กรมประมง...ร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง  เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 93 พรรษา จัดพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำและกุ้งก้ามกรามคืนสู่แม่น้ำเจ้าพระยา รวมกว่า 1.32 ล้านตัว  กรมประมง...ร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉล... จำนวนผู้อ่าน 184


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6