กรมประมง...วางแนวทางบริหารจัดการพันธุกรรม “ปลาสลิด” เร่งปรับปรุงพันธุ์เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการอนุรักษ์สายพันธุ์ดั้งเดิม

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


กรมประมง...วางแนวทางบริหารจัดการพันธุกรรม “ปลาสลิด” เร่งปรับปรุงพันธุ์เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการอนุรักษ์สายพันธุ์ดั้งเดิม 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

HOT กรมประมง...วางแนวทางบริหารจัดการพันธุกรรม “ปลาสลิด”  เร่งปรับปรุงพันธุ์เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงเชิงพาณิชย์   ควบคู่กับการอนุรักษ์สายพันธุ์ดั้งเดิม..คลิก

กรมประมง...เร่งยกระดับผลผลิต “ปลาสลิด” ปลาน้ำจืดเศรษฐกิจของไทยให้คงไว้ซึ่งคุณภาพ โดยวางแนวทางในการบริหารจัดการพันธุกรรม เพื่อประโยชน์ในการเพาะเลี้ยงและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการอนุรักษ์สายพันธุ์พื้นเมืองตามหลักพันธุศาสตร์ เพื่อฟื้นฟูประชากรปลาสลิดในธรรมชาติให้คงความอุดมสมบูรณ์สืบไป

นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า “ปลาสลิด” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Trichopodus pectoralis Regan, 1910 เป็นปลาน้ำจืดพื้นถิ่นของไทย พบแหล่งอาศัยแพร่กระจายทั่วประเทศ โดยมีแหล่งเพาะเลี้ยงสำคัญอยู่ที่ราบลุ่มทางภาคกลาง ปลาสลิดเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่มักจะถูกแปรรูปเป็นปลาแห้ง ปลาเค็ม และปลาแดดเดียว จำหน่ายในราคาสูงถึง 160-350 บาท/กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปเป็นปลาสลิดไร้ก้างพร้อมรับประทานราคาสูง ซึ่งนับว่ามีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปลาน้ำจืดชนิดอื่น โดยจากข้อมูลผลผลิตสัตว์น้ำจืดของกรมประมง ในปี พ.ศ. 2565 ไทยมีผลผลิตปลาสลิดถึง 9,550 ตัน คิดเป็นมูลค่า 621.480 ล้านบาท

แต่ด้วยการเลี้ยงปลาสลิดที่ใช้ระยะเวลาการเลี้ยงนานถึง 8-10 เดือน ทำให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงปลาสลิดได้เพียง 1 รอบ/ปี จึงนิยมเลี้ยงในบ่อที่มีขนาดใหญ่เพื่อปล่อยปลาได้จำนวนมาก โดยทั่วไปบ่อเลี้ยงจะมีขนาดเฉลี่ย 3 ไร่ ใช้เวลาเลี้ยงนาน 8-10 เดือน ได้ปลาสลิดขนาด 10-12 ตัว/กิโลกรัม ผลผลิตเฉลี่ย 500 กิโลกรัม/ไร่ กรมประมง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร จึงมีแนวคิดในการปรับปรุงพันธุ์ปลาสลิดเพื่อเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต เพื่อใช้ในการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เลี้ยงเชิงพาณิชย์ ลดระยะเวลาการเลี้ยง สามารถเลี้ยงได้หลายรูปแบบมากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงปลาสลิดได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เกษตรกรและเพิ่มปริมาณผลผลิตปลาสลิดให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด กระบวนการปรับปรุงพันธุ์ปลาสลิด เริ่มตั้งแต่ปี 2562 ด้วยวิธีการคัดเลือกแบบหมู่ จำนวน 2 รุ่น โดยใช้ปลาสลิดดอนนาจากจังหวัดปัตตานีเป็นประชากรเริ่มต้น คัดเลือกปลาที่มีน้ำหนักมากที่สุด 10 % จากประชากรทั้งหมดในแต่ละรุ่น มาใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในการผลิตพันธุ์ปลาสลิด ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงในพื้นที่ภาคใต้ โดยจากการศึกษาวิจัยพบว่าเมื่อนำปลาสลิดเลี้ยงในกระชังนาน 6 เดือน ที่ระดับความหนาแน่น 20 ตัว/ตารางเมตร ได้น้ำหนักเฉลี่ย 76.80 กรัม (13-14 ตัว/กิโลกรัม) ต่อมาในปี 2564 ได้นำวิธีการปรับปรุงพันธุ์ ด้วยการประมาณค่าศักยภาพทางพันธุกรรม (Estimate Breeding Value ;EBVs) มาใช้ในการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประชากรเริ่มต้นจาก 4 แหล่ง ได้แก่ พิษณุโลก บุรีรัมย์ สุพรรณบุรี และชุมพร เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรม ตลอดจนมีการใช้เครื่องหมาย Passive integrated transponder (PIT TAG) เพื่อระบุข้อมูลสัตว์น้ำรายตัว ซึ่งช่วยให้เพิ่มความแม่นยำและเพิ่มความก้าวหน้าในการคัดเลือกได้มากขึ้น

นอกจากนี้ กรมประมง ยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สายพันธุ์ปลาสลิดดั้งเดิม เพื่อเก็บรักษาแหล่งพันธุกรรมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร ได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมปลาสลิด จังหวัดชุมพร ภายใต้แผนปฏิบัติงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ. สธ.) โดยได้รวบรวมปลาสลิดธรรมชาติจากตำบลท่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร มาเพาะพันธุ์และอนุบาลให้ได้ลูกปลาขนาด 2 – 5 เซนติเมตร แล้วนำไปปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำดั้งเดิม โดยมีเป้าหมาย 50,000 ตัว/ปี

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า...กรมประมงยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการวิจัยด้านพันธุกรรมสัตว์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งเสริมการแปรรูปปลาสลิดเพื่อให้ได้สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มศักยภาพให้กับสินค้าปลาสลิดในตลาดโลกต่อไป สำหรับเกษตรกรท่านใดสนใจข้อมูลการเพาะเลี้ยงปลาสลิด สามารถติดต่อขอข้อมูลการเลี้ยงปลาสลิดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร กองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง โทรศัพท์ 077-510-310

กรมประมง...เร่งยกระดับผลผลิต “ปลาสลิด” ปลาน้ำจืดเศรษฐกิจของไทยให้คงไว้ซึ่งคุณภาพ โดยวางแนวทางในการบริหารจัดการพันธุกรรม เพื่อประโยชน์ในการเพาะเลี้ยงและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการอนุรักษ์สายพันธุ์พื้นเมืองตามหลักพันธุศาสตร์ เพื่อฟื้นฟูประชากรปลาสลิดในธรรมชาติให้คงความอุดมสมบูรณ์สืบไป

นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า “ปลาสลิด” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Trichopodus pectoralis Regan, 1910 เป็นปลาน้ำจืดพื้นถิ่นของไทย พบแหล่งอาศัยแพร่กระจายทั่วประเทศ โดยมีแหล่งเพาะเลี้ยงสำคัญอยู่ที่ราบลุ่มทางภาคกลาง ปลาสลิดเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่มักจะถูกแปรรูปเป็นปลาแห้ง ปลาเค็ม และปลาแดดเดียว จำหน่ายในราคาสูงถึง 160-350 บาท/กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปเป็นปลาสลิดไร้ก้างพร้อมรับประทานราคาสูง ซึ่งนับว่ามีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปลาน้ำจืดชนิดอื่น โดยจากข้อมูลผลผลิตสัตว์น้ำจืดของกรมประมง ในปี พ.ศ. 2565 ไทยมีผลผลิตปลาสลิดถึง 9,550 ตัน คิดเป็นมูลค่า 621.480 ล้านบาท

แต่ด้วยการเลี้ยงปลาสลิดที่ใช้ระยะเวลาการเลี้ยงนานถึง 8-10 เดือน ทำให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงปลาสลิดได้เพียง 1 รอบ/ปี จึงนิยมเลี้ยงในบ่อที่มีขนาดใหญ่เพื่อปล่อยปลาได้จำนวนมาก โดยทั่วไปบ่อเลี้ยงจะมีขนาดเฉลี่ย 3 ไร่ ใช้เวลาเลี้ยงนาน 8-10 เดือน ได้ปลาสลิดขนาด 10-12 ตัว/กิโลกรัม ผลผลิตเฉลี่ย 500 กิโลกรัม/ไร่ กรมประมง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร จึงมีแนวคิดในการปรับปรุงพันธุ์ปลาสลิดเพื่อเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต เพื่อใช้ในการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เลี้ยงเชิงพาณิชย์ ลดระยะเวลาการเลี้ยง สามารถเลี้ยงได้หลายรูปแบบมากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงปลาสลิดได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เกษตรกรและเพิ่มปริมาณผลผลิตปลาสลิดให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด กระบวนการปรับปรุงพันธุ์ปลาสลิด เริ่มตั้งแต่ปี 2562 ด้วยวิธีการคัดเลือกแบบหมู่ จำนวน 2 รุ่น โดยใช้ปลาสลิดดอนนาจากจังหวัดปัตตานีเป็นประชากรเริ่มต้น คัดเลือกปลาที่มีน้ำหนักมากที่สุด 10 % จากประชากรทั้งหมดในแต่ละรุ่น มาใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในการผลิตพันธุ์ปลาสลิด ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงในพื้นที่ภาคใต้ โดยจากการศึกษาวิจัยพบว่าเมื่อนำปลาสลิดเลี้ยงในกระชังนาน 6 เดือน ที่ระดับความหนาแน่น 20 ตัว/ตารางเมตร ได้น้ำหนักเฉลี่ย 76.80 กรัม (13-14 ตัว/กิโลกรัม) ต่อมาในปี 2564 ได้นำวิธีการปรับปรุงพันธุ์ ด้วยการประมาณค่าศักยภาพทางพันธุกรรม (Estimate Breeding Value ;EBVs) มาใช้ในการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประชากรเริ่มต้นจาก 4 แหล่ง ได้แก่ พิษณุโลก บุรีรัมย์ สุพรรณบุรี และชุมพร เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรม ตลอดจนมีการใช้เครื่องหมาย Passive integrated transponder (PIT TAG) เพื่อระบุข้อมูลสัตว์น้ำรายตัว ซึ่งช่วยให้เพิ่มความแม่นยำและเพิ่มความก้าวหน้าในการคัดเลือกได้มากขึ้น

นอกจากนี้ กรมประมง ยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สายพันธุ์ปลาสลิดดั้งเดิม เพื่อเก็บรักษาแหล่งพันธุกรรมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร ได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมปลาสลิด จังหวัดชุมพร ภายใต้แผนปฏิบัติงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ. สธ.) โดยได้รวบรวมปลาสลิดธรรมชาติจากตำบลท่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร มาเพาะพันธุ์และอนุบาลให้ได้ลูกปลาขนาด 2 – 5 เซนติเมตร แล้วนำไปปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำดั้งเดิม โดยมีเป้าหมาย 50,000 ตัว/ปี

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า...กรมประมงยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการวิจัยด้านพันธุกรรมสัตว์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งเสริมการแปรรูปปลาสลิดเพื่อให้ได้สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มศักยภาพให้กับสินค้าปลาสลิดในตลาดโลกต่อไป สำหรับเกษตรกรท่านใดสนใจข้อมูลการเพาะเลี้ยงปลาสลิด สามารถติดต่อขอข้อมูลการเลี้ยงปลาสลิดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร กองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง โทรศัพท์ 077-510-310

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 4,386  กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้องเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความ... จำนวนผู้อ่าน 721 รมช.อัครา รับลูกข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มอบกรมประมง..เตรียมชง ครม.พิจารณาแผนปฏิบัติการ เพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ วงเงินงบประมาณกว่า 5 พันล้านบาท  หนุนปั้นผลผลิตให้ได้ 4.5 แสนตัน เพื่อดันอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้แข็งแกร่งในตลาดโลก รมช.อัครา รับลูกข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มอบกรมประมง..เตรียมชง ครม.พิจารณาแผนปฏิบั... จำนวนผู้อ่าน 505 กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง เริ่ม 1 เม.ย. 68 นี้ !! กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูท... จำนวนผู้อ่าน 500 กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”  ดันดาวเด่น 13 กลุ่มสินค้าประมง ร่วมยกระดับการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ในปี 2568   กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”... จำนวนผู้อ่าน 312 กรมประมง..ร่วมขับเคลื่อน “พะเยาโมเดล” สู่ต้นแบบการพัฒนาภาคประมงที่ยั่งยืน หนุนส่งเสริม “การเลี้ยงปลาในนาข้าว” ยกระดับวิถีเกษตรเมืองเหนือ   สร้างแหล่งอาหารให้ชุมชน สร้างความมั่นคงทางอาหาร กรมประมง..ร่วมขับเคลื่อน “พะเยาโมเดล” สู่ต้นแบบการพัฒนาภาคประมงที่ยั่งยืน หนุนส่... จำนวนผู้อ่าน 246 รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา  หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ” จำนวน 923 ลำ  รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงก... จำนวนผู้อ่าน 235 รมช.อัครา ชูนวัตกรรมใหม่ เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมประมง หนุนกรมประมงเปิดตัวแอปพลิเคชันน้องใหม่ “Fisheries Next” อำนวยความสะดวกเจ้าของเรือประมงพาณิชย์ เชื่อมโยงทุกระบบ ครบ จบ ในแอปฯ เดียว พร้อมดาวน์โหลดแล้ว 19 ก.พ. นี้ ! รมช.อัครา ชูนวัตกรรมใหม่ เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมประมง หนุนกรมประมงเปิดตัวแอปพลิเ... จำนวนผู้อ่าน 233 กรมประมง เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรตรวจการประมงรุ่นที่ 15 เพื่อปลูกฝังแนวคิดอุดมการณ์ การบริหารจัดการทรัพยากรการประมง ทักษะความชำนาญทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ตรวจการประมงในการดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำและชาวประมงของประเทศ กรมประมง เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรตรวจการประมงรุ่นที่ 15 เพื่อปลูกฝังแนวคิดอุดมการณ... จำนวนผู้อ่าน 232 กรมประมงเดินหน้า...โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม   Kick off “แหล่งน้ำหนองโสกแบ่ง จ.มหาสารคาม” ประเดิมปี 68 พร้อมขยายผล 20 แห่ง ทั่วประเทศ สนองนโยบาย รมช.อัครา กรมประมงเดินหน้า...โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม Kick off “แหล่งน้ำ... จำนวนผู้อ่าน 229  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทยสู่ตลาดโลก  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทย... จำนวนผู้อ่าน 196 กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย   จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา” ประจำปี 2568 ภายใต้ ก.เกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 2 ล้านตัว พร้อมควบคุมปลานักล่า “ชะโด” เพื่อสร้างความสมดุลระบบนิเวศกว๊านพะเยาสู่แหล่งอาหารชุมชนที่ยั่งยืน กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะ... จำนวนผู้อ่าน 195 กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุข สนุก และบุญไว้ในเเห่งเดียว ผ่านกิจกรรมจับปลาชะโด จับหนึ่งช่วยถึงสิบ คืนสมดุลชีวิตให้กว๊านพะเยา กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุ... จำนวนผู้อ่าน 192 ชาวประมงเฮ ! ไม่ต้องนำเรือกลับเข้าฝั่งจากปัญหาแรงงาน รมช.อัครา ผลักดันต่อเนื่อง  แก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานได้ทั้งระบบ โดยขออนุญาตได้ทั้งปี ชาวประมงเฮ ! ไม่ต้องนำเรือกลับเข้าฝั่งจากปัญหาแรงงาน รมช.อัครา ผลักดันต่อเนื่อง ... จำนวนผู้อ่าน 186 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอมตากใบ” ขึ้นแท่นสินค้าใหม่ เพิ่มรายได้ให้ชาวประมง 3 เท่า ภายในปี 2570 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอม... จำนวนผู้อ่าน 178


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6