กรมประมง...วางแนวทางบริหารจัดการพันธุกรรม “ปลาสลิด” เร่งปรับปรุงพันธุ์เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการอนุรักษ์สายพันธุ์ดั้งเดิม

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


กรมประมง...วางแนวทางบริหารจัดการพันธุกรรม “ปลาสลิด” เร่งปรับปรุงพันธุ์เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการอนุรักษ์สายพันธุ์ดั้งเดิม 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

HOT กรมประมง...วางแนวทางบริหารจัดการพันธุกรรม “ปลาสลิด”  เร่งปรับปรุงพันธุ์เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงเชิงพาณิชย์   ควบคู่กับการอนุรักษ์สายพันธุ์ดั้งเดิม..คลิก

กรมประมง...เร่งยกระดับผลผลิต “ปลาสลิด” ปลาน้ำจืดเศรษฐกิจของไทยให้คงไว้ซึ่งคุณภาพ โดยวางแนวทางในการบริหารจัดการพันธุกรรม เพื่อประโยชน์ในการเพาะเลี้ยงและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการอนุรักษ์สายพันธุ์พื้นเมืองตามหลักพันธุศาสตร์ เพื่อฟื้นฟูประชากรปลาสลิดในธรรมชาติให้คงความอุดมสมบูรณ์สืบไป

นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า “ปลาสลิด” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Trichopodus pectoralis Regan, 1910 เป็นปลาน้ำจืดพื้นถิ่นของไทย พบแหล่งอาศัยแพร่กระจายทั่วประเทศ โดยมีแหล่งเพาะเลี้ยงสำคัญอยู่ที่ราบลุ่มทางภาคกลาง ปลาสลิดเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่มักจะถูกแปรรูปเป็นปลาแห้ง ปลาเค็ม และปลาแดดเดียว จำหน่ายในราคาสูงถึง 160-350 บาท/กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปเป็นปลาสลิดไร้ก้างพร้อมรับประทานราคาสูง ซึ่งนับว่ามีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปลาน้ำจืดชนิดอื่น โดยจากข้อมูลผลผลิตสัตว์น้ำจืดของกรมประมง ในปี พ.ศ. 2565 ไทยมีผลผลิตปลาสลิดถึง 9,550 ตัน คิดเป็นมูลค่า 621.480 ล้านบาท

แต่ด้วยการเลี้ยงปลาสลิดที่ใช้ระยะเวลาการเลี้ยงนานถึง 8-10 เดือน ทำให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงปลาสลิดได้เพียง 1 รอบ/ปี จึงนิยมเลี้ยงในบ่อที่มีขนาดใหญ่เพื่อปล่อยปลาได้จำนวนมาก โดยทั่วไปบ่อเลี้ยงจะมีขนาดเฉลี่ย 3 ไร่ ใช้เวลาเลี้ยงนาน 8-10 เดือน ได้ปลาสลิดขนาด 10-12 ตัว/กิโลกรัม ผลผลิตเฉลี่ย 500 กิโลกรัม/ไร่ กรมประมง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร จึงมีแนวคิดในการปรับปรุงพันธุ์ปลาสลิดเพื่อเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต เพื่อใช้ในการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เลี้ยงเชิงพาณิชย์ ลดระยะเวลาการเลี้ยง สามารถเลี้ยงได้หลายรูปแบบมากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงปลาสลิดได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เกษตรกรและเพิ่มปริมาณผลผลิตปลาสลิดให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด กระบวนการปรับปรุงพันธุ์ปลาสลิด เริ่มตั้งแต่ปี 2562 ด้วยวิธีการคัดเลือกแบบหมู่ จำนวน 2 รุ่น โดยใช้ปลาสลิดดอนนาจากจังหวัดปัตตานีเป็นประชากรเริ่มต้น คัดเลือกปลาที่มีน้ำหนักมากที่สุด 10 % จากประชากรทั้งหมดในแต่ละรุ่น มาใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในการผลิตพันธุ์ปลาสลิด ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงในพื้นที่ภาคใต้ โดยจากการศึกษาวิจัยพบว่าเมื่อนำปลาสลิดเลี้ยงในกระชังนาน 6 เดือน ที่ระดับความหนาแน่น 20 ตัว/ตารางเมตร ได้น้ำหนักเฉลี่ย 76.80 กรัม (13-14 ตัว/กิโลกรัม) ต่อมาในปี 2564 ได้นำวิธีการปรับปรุงพันธุ์ ด้วยการประมาณค่าศักยภาพทางพันธุกรรม (Estimate Breeding Value ;EBVs) มาใช้ในการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประชากรเริ่มต้นจาก 4 แหล่ง ได้แก่ พิษณุโลก บุรีรัมย์ สุพรรณบุรี และชุมพร เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรม ตลอดจนมีการใช้เครื่องหมาย Passive integrated transponder (PIT TAG) เพื่อระบุข้อมูลสัตว์น้ำรายตัว ซึ่งช่วยให้เพิ่มความแม่นยำและเพิ่มความก้าวหน้าในการคัดเลือกได้มากขึ้น

นอกจากนี้ กรมประมง ยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สายพันธุ์ปลาสลิดดั้งเดิม เพื่อเก็บรักษาแหล่งพันธุกรรมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร ได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมปลาสลิด จังหวัดชุมพร ภายใต้แผนปฏิบัติงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ. สธ.) โดยได้รวบรวมปลาสลิดธรรมชาติจากตำบลท่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร มาเพาะพันธุ์และอนุบาลให้ได้ลูกปลาขนาด 2 – 5 เซนติเมตร แล้วนำไปปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำดั้งเดิม โดยมีเป้าหมาย 50,000 ตัว/ปี

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า...กรมประมงยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการวิจัยด้านพันธุกรรมสัตว์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งเสริมการแปรรูปปลาสลิดเพื่อให้ได้สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มศักยภาพให้กับสินค้าปลาสลิดในตลาดโลกต่อไป สำหรับเกษตรกรท่านใดสนใจข้อมูลการเพาะเลี้ยงปลาสลิด สามารถติดต่อขอข้อมูลการเลี้ยงปลาสลิดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร กองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง โทรศัพท์ 077-510-310

กรมประมง...เร่งยกระดับผลผลิต “ปลาสลิด” ปลาน้ำจืดเศรษฐกิจของไทยให้คงไว้ซึ่งคุณภาพ โดยวางแนวทางในการบริหารจัดการพันธุกรรม เพื่อประโยชน์ในการเพาะเลี้ยงและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการอนุรักษ์สายพันธุ์พื้นเมืองตามหลักพันธุศาสตร์ เพื่อฟื้นฟูประชากรปลาสลิดในธรรมชาติให้คงความอุดมสมบูรณ์สืบไป

นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า “ปลาสลิด” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Trichopodus pectoralis Regan, 1910 เป็นปลาน้ำจืดพื้นถิ่นของไทย พบแหล่งอาศัยแพร่กระจายทั่วประเทศ โดยมีแหล่งเพาะเลี้ยงสำคัญอยู่ที่ราบลุ่มทางภาคกลาง ปลาสลิดเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่มักจะถูกแปรรูปเป็นปลาแห้ง ปลาเค็ม และปลาแดดเดียว จำหน่ายในราคาสูงถึง 160-350 บาท/กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปเป็นปลาสลิดไร้ก้างพร้อมรับประทานราคาสูง ซึ่งนับว่ามีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปลาน้ำจืดชนิดอื่น โดยจากข้อมูลผลผลิตสัตว์น้ำจืดของกรมประมง ในปี พ.ศ. 2565 ไทยมีผลผลิตปลาสลิดถึง 9,550 ตัน คิดเป็นมูลค่า 621.480 ล้านบาท

แต่ด้วยการเลี้ยงปลาสลิดที่ใช้ระยะเวลาการเลี้ยงนานถึง 8-10 เดือน ทำให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงปลาสลิดได้เพียง 1 รอบ/ปี จึงนิยมเลี้ยงในบ่อที่มีขนาดใหญ่เพื่อปล่อยปลาได้จำนวนมาก โดยทั่วไปบ่อเลี้ยงจะมีขนาดเฉลี่ย 3 ไร่ ใช้เวลาเลี้ยงนาน 8-10 เดือน ได้ปลาสลิดขนาด 10-12 ตัว/กิโลกรัม ผลผลิตเฉลี่ย 500 กิโลกรัม/ไร่ กรมประมง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร จึงมีแนวคิดในการปรับปรุงพันธุ์ปลาสลิดเพื่อเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต เพื่อใช้ในการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เลี้ยงเชิงพาณิชย์ ลดระยะเวลาการเลี้ยง สามารถเลี้ยงได้หลายรูปแบบมากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงปลาสลิดได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เกษตรกรและเพิ่มปริมาณผลผลิตปลาสลิดให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด กระบวนการปรับปรุงพันธุ์ปลาสลิด เริ่มตั้งแต่ปี 2562 ด้วยวิธีการคัดเลือกแบบหมู่ จำนวน 2 รุ่น โดยใช้ปลาสลิดดอนนาจากจังหวัดปัตตานีเป็นประชากรเริ่มต้น คัดเลือกปลาที่มีน้ำหนักมากที่สุด 10 % จากประชากรทั้งหมดในแต่ละรุ่น มาใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในการผลิตพันธุ์ปลาสลิด ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงในพื้นที่ภาคใต้ โดยจากการศึกษาวิจัยพบว่าเมื่อนำปลาสลิดเลี้ยงในกระชังนาน 6 เดือน ที่ระดับความหนาแน่น 20 ตัว/ตารางเมตร ได้น้ำหนักเฉลี่ย 76.80 กรัม (13-14 ตัว/กิโลกรัม) ต่อมาในปี 2564 ได้นำวิธีการปรับปรุงพันธุ์ ด้วยการประมาณค่าศักยภาพทางพันธุกรรม (Estimate Breeding Value ;EBVs) มาใช้ในการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประชากรเริ่มต้นจาก 4 แหล่ง ได้แก่ พิษณุโลก บุรีรัมย์ สุพรรณบุรี และชุมพร เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรม ตลอดจนมีการใช้เครื่องหมาย Passive integrated transponder (PIT TAG) เพื่อระบุข้อมูลสัตว์น้ำรายตัว ซึ่งช่วยให้เพิ่มความแม่นยำและเพิ่มความก้าวหน้าในการคัดเลือกได้มากขึ้น

นอกจากนี้ กรมประมง ยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สายพันธุ์ปลาสลิดดั้งเดิม เพื่อเก็บรักษาแหล่งพันธุกรรมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร ได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมปลาสลิด จังหวัดชุมพร ภายใต้แผนปฏิบัติงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ. สธ.) โดยได้รวบรวมปลาสลิดธรรมชาติจากตำบลท่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร มาเพาะพันธุ์และอนุบาลให้ได้ลูกปลาขนาด 2 – 5 เซนติเมตร แล้วนำไปปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำดั้งเดิม โดยมีเป้าหมาย 50,000 ตัว/ปี

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า...กรมประมงยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการวิจัยด้านพันธุกรรมสัตว์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งเสริมการแปรรูปปลาสลิดเพื่อให้ได้สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มศักยภาพให้กับสินค้าปลาสลิดในตลาดโลกต่อไป สำหรับเกษตรกรท่านใดสนใจข้อมูลการเพาะเลี้ยงปลาสลิด สามารถติดต่อขอข้อมูลการเลี้ยงปลาสลิดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร กองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง โทรศัพท์ 077-510-310

 Tags

  •   Hits
  • ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ  เสริมช่องทางให้ผปก. ประเดิมเฟสแรก 5 ปลายทาง “อเมริกา – เอเชีย”  รุกหนุนแบรนด์ดิ้งประเทศไทยแหล่งผลิตสัตว์น้ำสวยงาม ไปรษณีย์ไทย x กรมประมง” เปิดเส้นทางส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามสู่ตลาดต่างประเทศ เสริม... จำนวนผู้อ่าน 798  กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิเวศ ฟื้นชีวิตใหม่ให้ท้องทะเลไทย กรมประมง...เผยผลสำเร็จโครงการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิ... จำนวนผู้อ่าน 773 กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก สินค้าประมง  พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของประเทศคู่ค้าแบบเรียลไทม์ได้ไร้รอยต่อ กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนว... จำนวนผู้อ่าน 701 8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม  “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยชาวประมง 3,000 ล้านบาท”  8 กันยายน นี้ดีเดย์ ! เปิดรับสมัครเข้าร่วม “โครงการสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช... จำนวนผู้อ่าน 607 โฆษกกรมประมง แจงชัดแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ  พ.ศ. 2567 – 2570  กรมประมงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสถานการณ์ในหลายพื้นที่เริ่มบรรเทาลงแล้ว โฆษกกรมประมง แจงชัดแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 ... จำนวนผู้อ่าน 524 กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งคุณภาพ ยั่งยืน แข่งขันได้ในตลาดโลก กรมประมง…เดินหน้าพัฒนาบุคลากรภาคเพาะเลี้ยง จัดอบรม “SMART INSPECTOR 2025” มุ่งสู... จำนวนผู้อ่าน 474 กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก  ลุยเก็บตัวอย่างตรวจโลหะหนักต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก ลุ... จำนวนผู้อ่าน 470 ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้ำ! ภาคการประมงไทยไม่กระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ข่าวดี! สหรัฐฯ ประกาศ ไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MMPA สามารถส่งออกสัตว์น้ำได้ฉลุย ตอกย้... จำนวนผู้อ่าน 466 กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา  สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่างพักชำระหนี้กับ ธ.ก.ส. กรมประมง..ส่งเสริมเกษตรกร จ.ชัยนาท เลี้ยงกบนา สร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ระหว่... จำนวนผู้อ่าน 452 ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์ปลากะพงขาวไปจีน เริ่มแล้ว 2 ราย ผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฮ !!! รัฐบาลไทยเจรจา GACC กรมประมงผลักดันการ... จำนวนผู้อ่าน 436 กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล  เปิดให้บริการแผนที่ออนไลน์ (FGIS) ผ่าน Web Map Application  ตัวช่วย..ค้นหาพิกัดด้านการประมงทุกพื้นที่ทั่วไทย กรมประมง..ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลภูมิสารสนเทศสู่ยุคดิจิทัล เปิดให้บริการแผ... จำนวนผู้อ่าน 413 กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map   “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด” ระยะ 5 ปี กรมประมง..เปิดเวทีสัมมนาปั้น Road Map “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี... จำนวนผู้อ่าน 406 กรมประมง ครบรอบปีที่ 99 ก้าวสู่ “Fisheries Transformation” จัดแสดงนิทรรศการ 9 โซน “การประมง 3 น้ำ สู่แผ่นดิน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้” เปิดมิติใหม่สู่วิถียั่งยืน ยกระดับประมงไทยสู่มาตรฐานสากล โชว์ศักยภาพ GDP ประมงแตะ 1.38 แสนล้านบาท กรมประมง ครบรอบปีที่ 99 ก้าวสู่ “Fisheries Transformation” จัดแสดงนิทรรศการ 9 โซ... จำนวนผู้อ่าน 397 กรมประมงเข้ารับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 โชว์ผลงาน คว้ารางวัล 3 สาขา 3 ประเภท สะท้อนความเชื่อมั่น หน่วยงานภาครัฐที่ประชาชนให้การยอมรับ  กรมประมงเข้ารับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 โชว์ผลงาน คว้ารางวัล 3 สาขา 3 ประเภท สะ... จำนวนผู้อ่าน 377 ข่าวดี พ.ร.บ. ประมงใหม่ ผ่านสภาฯ เรียบร้อยแล้ว ปรับ 71 มาตรา ลดโทษ–เพิ่มสิทธิทำประมงพื้นบ้าน ฟื้นชีวิตชาวประมงไทย สอดรับมาตรฐานสากล หนุนประมงไทยเป็นครัวโลกอย่างยั่งยืน ข่าวดี พ.ร.บ. ประมงใหม่ ผ่านสภาฯ เรียบร้อยแล้ว ปรับ 71 มาตรา ลดโทษ–เพิ่มสิทธิทำป... จำนวนผู้อ่าน 377


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6