กรมประมง...เร่งเพาะพันธุ์ปลา ‘ตะพัดเขียว’ สัตว์น้ำหายากคืนถิ่น ดีเดย์..จัดกิจกรรมปล่อย 200 ตัว กลับคืนสู่เขื่อนรัชชประภา ถิ่นอาศัยเดิม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์


กรมประมง...เร่งเพาะพันธุ์ปลา ‘ตะพัดเขียว’ สัตว์น้ำหายากคืนถิ่น ดีเดย์..จัดกิจกรรมปล่อย 200 ตัว กลับคืนสู่เขื่อนรัชชประภา ถิ่นอาศัยเดิม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 


ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

HOT กรมประมง...เร่งเพาะพันธุ์ปลา ‘ตะพัดเขียว’ สัตว์น้ำหายากคืนถิ่น ดีเดย์..จัดกิจกรรมปล่อย 200 ตัว กลับคืนสู่เขื่อนรัชชประภา ถิ่นอาศัยเดิม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง..คลิก

? เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 กรมประมง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสุราษฎร์ธานี และศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดสุราษฎร์ธานี ร่วมจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลา “ตะพัดเขียว” จำนวน200 ตัว คืนสู่แหล่งอาศัยในธรรมชาติเดิม ณ หน่วยพิทักษ์ป่าคลองหยา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง เขื่อนรัชชประภา ตำบลบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2564

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กิจกรรมดังกล่าว เป็นการดำเนินการ ตามโครงการอนุรักษ์ชนิดพันธุ์สัตว์น้ำประจำถิ่นและสัตว์น้ำหายากใกล้สูญพันธุ์ ของกรมประมง ซึ่งได้เล็งเห็นว่าปัจจุบันทรัพยากรสัตว์น้ำพื้นถิ่นหลายชนิดของไทยอยู่ในสภาวะถูกคุกคาม และบางชนิดมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์สูง โดยเฉพาะ “ปลาตะพัดเขียว”(Scleropages formosus) หรือปลาตะพัดสีเงินสายพันธุ์ไทย ซึ่งในอดีตเคยมีรายงานพบปลาชนิดนี้ในพื้นที่จังหวัดตราด จันทบุรี สตูล ยะลา และสุราษฎร์ธานี แต่ปัจจุบันพบเพียงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา แม่น้ำตาปี คลองสก และคลองแสง ซึ่งเป็นลำน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนรัชชประภาเท่านั้น โดยคนท้องถิ่นจะเรียกว่า “ปลาหางเข้” แต่เนื่องจากมีรายงานการพบปลาตะพัดเขียวตามธรรมชาติน้อยมาก ประกอบกับเป็นปลาที่แพร่พันธุ์ค่อนข้างยาก มีอัตราการแพร่ขยายพันธุ์ในธรรมชาติค่อนข้างต่ำ จึงทำให้ปลาตะพัดชนิดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์น้ำคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และอยู่ในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้

สูญพันธุ์ (CITES) เป็นชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ระบุไว้ในบัญชีลำดับที่ 1 (CITES Appendix I)

? ดังนั้น เพื่อเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรปลาตะพัดเขียว กรมประมง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสุราษฎร์ธานี จึงได้ดำเนินการเพาะขยายพันธุ์ปลาตะพัดเขียว เพื่อปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ อย่างต่อเนื่อง มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ด้วยการรวบรวมพ่อแม่พันธุ์จากแหล่งน้ำธรรมชาติในคลองแสง จังหวัด สุราษฎร์ธานี เมื่อปี พ.ศ.2529 และเพาะพันธุ์จนสำเร็จเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2531 โดยในช่วงเริ่มต้นได้ ลูกปลาขนาด 7.57 เซนติเมตร จำนวน 29 ตัว กระทั่งปัจจุบันมีการเพาะขยายอย่างต่อเนื่องจนมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และได้ทยอยปล่อยปลาตะพัดเขียวคืนสู่ถิ่นอาศัยในแหล่งน้ำธรรมชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา

? ด้านนายเฉลิมพล เพ็ชรรัตน์ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า ปลาตะพัดเป็นปลาสวยงามที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นปลาที่มีรูปลักษณ์สวยงาม แบ่งตามความนิยมของตลาดเป็น 4 สายพันธุ์ ได้แก่ ตะพัดทองอินโดนีเซีย ตะพัดทองมาเลเซีย ตะพัดแดง ตะพัดเขียวหรือตะพัดเงิน ปลาตะพัดที่พบในประเทศไทย คือ ปลาตะพัดเขียว หรือตะพัดสีเงินสายพันธุ์ไทย โดย

สีพื้นตามลำตัวจะมีสีน้ำตาลเทา มีวงสีเขียวอยู่ตามเกล็ด ซึ่งปลาตะพัดตามธรรมชาติจะอาศัยอยู่เฉพาะในลำธารป่า

ดงดิบ ตามแหล่งน้ำที่ใสสะอาด กระแสน้ำไหลเอื่อย และระดับความลึกของน้ำไม่มาก สำหรับการเพาะพันธุ์

ปลาตะพัดเขียว ขณะนี้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสุราษฎร์ธานีได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้

??การดำเนินการของ นายนพดล จินดาพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสุราษฎร์ธานี กรมประมง ซึ่งในปี พ.ศ. 2563 ศูนย์ฯ สามารถเพาะขยายพันธุ์และอนุบาลลูกปลาตะพัดเขียวได้จำนวน 300 ตัว โดยใช้วิธีเพาะพันธุ์แบบธรรมชาติในบ่อดิน พ่อแม่พันธุ์ที่ใช้ในการเพาะมีอายุ 4-5 ปี ขนาดความยาวประมาณ 45 เซนติเมตร ขึ้นไป และมีน้ำหนักประมาณ 1.2-1.4 กิโลกรัม ทั้งนี้ ปลาตะพัดจะมีการผสมพันธุ์วางไข่ได้ตลอดทั้งปี โดยหลังจากผสมพันธุ์วางไข่เสร็จแล้ว พ่อแม่ปลาจะอมไข่และฟักลูกในปาก เลี้ยงตัวอ่อนในปากอีกประมาณ 2-3 เดือน จนเป็นตัวอ่อนเต็มวัย โดยจะลากอวนเคาะปากปลาตะพัดทุก1-2 เดือน ซึ่งแต่ละครั้งอาจปรับระยะเวลาตามความเหมาะสม เนื่องจากหากทำการเคาะปากในระยะที่กำลังอมไข่ พ่อแม่ปลาก็จะคายไข่ออกมา ทำให้มีอัตราการฟักต่ำ หากเคาะปากในช่วงที่ลูกปลาฟักออกเป็นตัวและยังอาศัยอยู่ในปากแม่จะทำให้ได้ลูกปลาที่แข็งแรง มีอัตราการรอดตายสูง แต่หากช้ากว่านั้นลูกปลาจะออกจากปากแม่ กลายเป็นอาหารของปลาตะพัดตัวอื่นที่อยู่ในบ่อ ส่วนการอนุบาลลูกปลาตะพัดจะใช้ตู้กระจก ระดับน้ำลึก 20-25 เซนติเมตร มีฝาปิดมิดชิดเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกปลากระโดดออกจากตู้อนุบาล และมีระบบเพิ่มออกซิเจนในน้ำ เมื่อลูกปลามีขนาดโตขึ้น ลดความหนาแน่นลงเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกปลากัดกันเอง โดยตลอดระยะเวลาต้องมีการดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำให้สะอาด มีคุณภาพดีอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มอัตราการรอดของลูกปลาด้วย จนกระทั่งได้ลูกพันธุ์ปลาในขนาดที่เหมาะสม คือ ขนาด 12-16 นิ้ว ก็จะทำการปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติเพื่ออนุรักษ์ปลาตะพัดเขียวให้คงอยู่ตามธรรมชาติสืบไป

? รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า กรมประมงมีความมุ่งมั่นที่จะเร่งฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำประจำถิ่นและสัตว์น้ำหายากที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายผลไปสู่การเพิ่มปริมาณประชากรในธรรมชาติให้มีปริมาณมากขึ้น เพื่อคงความหลากหลายทางชีวภาพของทรัพยากรสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติไม่ให้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย โดยในปีงบประมาณ 2564 ตั้งเป้าในการเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำประจำถิ่นและสัตว์น้ำหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ให้ได้ถึง 36 ชนิด

 Tags

  •   Hits
  • “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ  กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บังคับใช้ 5 ปี  “ฤดูน้ำแดง 2568” คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ทั่วประเทศ กรมประมงออกประกาศฉบับใหม่ บ... จำนวนผู้อ่าน 4,764  กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้องเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด กรมประมงยืนยันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง อธิบดีบัญชาแจงความ... จำนวนผู้อ่าน 783 กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง เริ่ม 1 เม.ย. 68 นี้ !! กรมประมง...ประกาศ “ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน” ควบคุมการทำประมงเพื่อฟื้นฟูท... จำนวนผู้อ่าน 535 กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”  ดันดาวเด่น 13 กลุ่มสินค้าประมง ร่วมยกระดับการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ในปี 2568   กรมประมง..หนุนนโยบาย ก.เกษตรฯ เร่งรุกโครงการ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง”... จำนวนผู้อ่าน 333 กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก สินค้าประมง  พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของประเทศคู่ค้าแบบเรียลไทม์ได้ไร้รอยต่อ กรมประมง..พลิกโฉมการออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สู่ดิจิทัลโซลูชั่น อำนว... จำนวนผู้อ่าน 255 รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา  หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ” จำนวน 923 ลำ  รมช.อัครา สั่งกรมประมง...เร่งเดินหน้า ! จ่ายเงินเยียวยา หลัง ครม.ไฟเขียว “โครงก... จำนวนผู้อ่าน 253  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทยสู่ตลาดโลก  กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ Thai Fish Project มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทย... จำนวนผู้อ่าน 219 กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย   จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา” ประจำปี 2568 ภายใต้ ก.เกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 2 ล้านตัว พร้อมควบคุมปลานักล่า “ชะโด” เพื่อสร้างความสมดุลระบบนิเวศกว๊านพะเยาสู่แหล่งอาหารชุมชนที่ยั่งยืน กรมประมง...ร่วมสืบสานประเพณีไทย จัดงานใหญ่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะ... จำนวนผู้อ่าน 207 กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุข สนุก และบุญไว้ในเเห่งเดียว ผ่านกิจกรรมจับปลาชะโด จับหนึ่งช่วยถึงสิบ คืนสมดุลชีวิตให้กว๊านพะเยา กรมประมงร่วมจัดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ จังหวัดพะเยา ปี 68” งานที่รวมความสุ... จำนวนผู้อ่าน 198 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอมตากใบ” ขึ้นแท่นสินค้าใหม่ เพิ่มรายได้ให้ชาวประมง 3 เท่า ภายในปี 2570 กรมประมง ขานรับนโยบาย ก.เกษตรฯ ลุยโครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ ดัน “กุเราหอม... จำนวนผู้อ่าน 191 กรมประมง จับมือ AIT ร่วมลงนาม MOU ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรมประมง จับมือ AIT ร่วมลงนาม MOU ครั้งสำคัญ ผนึกกำลังพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ... จำนวนผู้อ่าน 178 กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์สติวเทคนิคอนุบาลด้วยการควบคุมอุณหภูมิหนุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กรมประมง..เร่งปั้นผลผลิตลูกพันธุ์ “ปลาชะโอน” รองรับความต้องการของเกษตรกร จัดคอร์... จำนวนผู้อ่าน 177 กรมประมงชวนน้อง ๆ ป.1 – ม.3  ลงสนามประชันฝีมือประกวดวาดภาพระบายสี ชิงถ้วยพระราชทานฯ ในงานวันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35 กรมประมงชวนน้อง ๆ ป.1 – ม.3 ลงสนามประชันฝีมือประกวดวาดภาพระบายสี ชิงถ้วยพระราชท... จำนวนผู้อ่าน 168 กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก  ลุยเก็บตัวอย่างตรวจโลหะหนักต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน กรมประมง..เข้ม! ตรวจติดตามเฝ้าระวังสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำสาย - แม่น้ำกก ลุ... จำนวนผู้อ่าน 163 กรมประมงเชิดชูเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่น  เตรียมรับพระราชทานโล่รางวัลในงานพืชมงคลปี 2568 กรมประมงเชิดชูเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่น เตรียมรับพระราชทานโล่รางวัลในงานพืช... จำนวนผู้อ่าน 162


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 กลุ่มเผยเเพร่เเละประชาสัมพันธ์

    รายละเอียด กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เลขที่ 50 เกษตรกลางบางเขน   ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900    email  prfisheries2563@gmail.com  โทรศัพท์ 025620569  FAX 025620569  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6