เกษตรกรเฝ้าระวัง !! โรคสัตว์น้ำในช่วงฤดูหนาว


[2023-03-16] พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส.. [2023-03-09] ข่าวประชาสัมพันธ์วันที่ 8 มีนาคม 2566.. [2023-03-02] นายเรวัตร คงประดิษฐ์ ประมงจังหวัดนราธิวาส ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจากสวท.. [2023-02-18] รายงานการถอดบทเรียน "ธนาวิทย์ฟาร์มเกษตรกรต้นแบบการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม.. [2023-02-07] ข่าวประชาสัมพันธ์วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566.. [2023-01-30] ราคากุ้งขาวแวนนาไม ณ ปากบ่อ พื้นที่จังหวัดนราธิวาส วันที่ 30 มกราคม 25.. [2023-01-27] ราคากุ้งขาวแวนนาไม ณ ปากบ่อ พื้นที่จังหวัดนราธิวาส วันที่ 27 มกราคม 25.. [2023-01-27] ราคากุ้งขาวแวนนาไม ณ ปากบ่อ พื้นที่จังหวัดนราธิวาส วันที่ 26 มกราคม 25.. [2023-01-18] ราคากุ้งขาวแวนนาไม ณ ปากบ่อ พื้นที่จังหวัดนราธิวาส วันที่ 18 มกราคม 25.. [2023-01-10] ราคากุ้งขาวแวนนาไม ณ ปากบ่อ พื้นที่จังหวัดนราธิวาส วันที่ 10 ธันวาคม 2.. อ่านทั้งหมด 

เกษตรกรเฝ้าระวัง !! โรคสัตว์น้ำในช่วงฤดูหนาว 

 ข่าวประชาสัมพันธ์  ประชาสัมพันธ์กรมประมง


นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศว่า ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งสภาวะอากาศหนาวอาจส่งผลกระทบ ต่อการเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื่องจากจะทำให้สัตว์น้ำกินอาหารน้อยลง ภูมิต้านทานต่ำ สุขภาพอ่อนแอ เอื้อต่อการเกิดโรคระบาดได้ง่าย ดังนั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และเป็นการควบคุมโรคระบาดในช่วงฤดูหนาว อาทิ โรคอียูเอส หรือ “โรคแผลเน่าเปื่อย” โรคตัวด่าง และโรคเคเอชวี เป็นต้น

กรมประมงจึงขอให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้ปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้

1. เกษตรกรควรวางแผนระยะเวลาการเลี้ยงปลาให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม หรือ ควรงดเว้นการเลี้ยงปลาในช่วงฤดูหนาว

2. ควรมีบ่อพักน้ำใช้เพื่อใช้ในฟาร์มได้เพียงพอตลอดฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว

3. เลือกชนิดปลาที่จะเลี้ยงให้เหมาะสมกับฤดูกาล โดยในช่วงฤดูหนาว ควรเลือกปลาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดน้อย เช่น ปลานิล ปลาจีน และปลาไม่มีเกล็ด ที่สำคัญ ควรลดความหนาแน่นของปลาที่ปล่อยลงเลี้ยงและหมั่นเอาใจใส่ ตรวจสุขภาพปลาอย่างสม่ำเสมอ

4. ควบคุมปริมาณการให้อาหารอย่างเหมาะสม ลดปริมาณอาหารที่จะให้ลง 10 – 15 % เนื่องจาก ช่วงอุณหภูมิต่ำปลาจะกินอาหารน้อยลง ถ้าหากมีปริมาณอาหารเหลือจะสะสมตามพื้นบ่อ ส่งผลให้น้ำเน่าเสีย

เกิดก๊าซพิษ และมีผลกระทบต่อสุขภาพปลา ทั้งนี้ อาจมีการเสริมวิตามินซีในอาหาร 1 - 2 % โดยน้ำหนัก จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ต้านทานโรคและลดความเครียดของปลาได้

5. ควบคุมคุณภาพน้ำในบ่อ โดยใช้ปูนขาว ในอัตรา 60 – 100 กิโลกรัมต่อบ่อขนาด 1 ไร่ หรือ นำ

เกลือแกงมาละลายน้ำสาดให้ทั่วบ่อ ประมาณ 100 - 150 กิโลกรัมต่อไร่

6. หากพบมีปลาที่เลี้ยงป่วยหรือมีอาการผิดปกติ ควรแยกออกไปเลี้ยงและรักษาต่างหาก กรณีป่วยหนักอาจทำลายทิ้งเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้าง ทั้งนี้ หากกรณีปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติ

มีความผิดปกติ ให้รีบปิดทางน้ำเข้าและหยุดการเติมน้ำจากธรรมชาติเข้ามาในบ่อทันที

7. หากไม่สามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำได้ ในช่วงระหว่างการเลี้ยง ให้ควบคุมปริมาณการให้อาหาร

8. หากพบว่าน้ำในบ่อเริ่มเน่าเสีย โดยสังเกตว่ามีก๊าซผุดขึ้นมาจากพื้นบ่อ ให้ใช้เกลือสาดบริเวณดังกล่าว ประมาณ 200 – 300 กิโลกรัมต่อบ่อขนาด 1 ไร่

9. หากพบปลาตายในบ่อเลี้ยงให้กำจัดโดยการฝังหรือเผา

10. เมื่ออากาศเริ่มเข้าสู่สภาวะที่เหมาะสม (อุณหภูมิของน้ำสูงขึ้น) และพบว่าปลาในธรรมชาติ เป็นปกติ ไม่มีอาการป่วย ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำตามความเหมาะสม และให้อาหารปลาได้ตามปกติ

ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควรหมั่นสังเกตและดูแลสัตว์น้ำในช่วงฤดูหนาวอย่างใกล้ชิด หากพบมีสัตว์น้ำป่วยหรือมีอาการผิดปกติ สามารถแจ้งหรือขอรับคำปรึกษาได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัดหรือศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง/ น้ำจืดในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือกองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ กรุงเทพมหานคร โทร.0 2579 4122 Facebook Page : https://web.facebook.com/AAHRDD/ และ Line ID : 443KVKEE