ร่วมกิจกรรม "บุญอุ้มข้าวใหญ่" สมัชชาคนจนเขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนา ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนเครือข่ายทามมูล

[2025-11-06] ร่วมกับเจ้าหน้าที่ งานประมง ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพร.. [2025-11-06] ประมงศรีสะเกษ จัดฝึกอบรมหลักสูตร "การเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มอนุรักษ์ทรั.. [2025-11-06] จัดบรรยายโครงการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ.. [2025-11-06] ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสมาชิกของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสิน.. [2025-11-06] ประมงศรีสะเกษ จัดฝึกอบรมหลักสูตร "การเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มอนุรักษ์ทรั.. [2025-11-06] ดำเนินกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำภายใต้โครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง.. [2025-10-20] โครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมงร่วมกับคณะกรรมการแหล่งน้ำชุมชนหนองเพดา.. [2025-10-20] ลงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลการดำเนินงานส่งเสริมเกษตรกรโครงการส่งเสริมและพั.. [2025-10-20] มอบผลิตภัณฑ์ประมงพื้นบ้านให้กำลังใจทหารชายแดน ณ บ้านแซร์ไป.. [2025-10-20] ติดตามแนะนำเกษตรกรโครงการปลาตะเพียนขาวในบ่อดิน.. อ่านทั้งหมด 

ร่วมกิจกรรม "บุญอุ้มข้าวใหญ่" สมัชชาคนจนเขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนา ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนเครือข่ายทามมูล  

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

สำนักงานประมงจังหวัดศรีสะเกษ

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 นายวิชิต ไชยสาลี ประมงจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายปรีชา งอกนาวัง หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง ได้ร่วมต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า) ที่ได้เดินทางมาปฎิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และร่วมกิจกรรม "บุญอุ้มข้าวใหญ่" สมัชชาคนจนเขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนา ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนเครือข่ายทามมูล ตำบลหนองแค อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ กลุ่มสมัชชา ฯ ได้นำเสนอปัญหา และขอรับการช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากการสร้างเขื่อน

สมาคมประมงน้ำจืดภาคอีสาน โดย นายประพันธ์ ภาชู ได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือด้านการทำการประมงพร้อมกันนี้ได้มีตัวแทนชาวประมงนำเสนอปัญหาการใช้เครื่องมือแห ที่ประกาศกำหนดความยาวไว้ไม่เกิน 3 เมตร ซึ่งไม่สามารถทำการประมงใน ม.มูลที่มีระดับน้ำลึก อนึ่ง การกำหนดเงื่อนไขการใช้เครื่องมือแหดังกล่าว ประมงจังหวัดศรีสะเกษได้นำเรียนชึ้แจงต่อรัฐมนตรีฯ แล้วว่าเป็นมาตรการที่กำหนดในห้วงเวลาที่คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ ฯ ระยะเวลา 3 เดือน รัฐมนตรีฯ ได้กรุณาให้แนวทางว่า การคุ้มครองสัตว์น้ำมีไข่ ฯ ไม่ควรกำหนดทั้งหมด แต่ควรกำหนดเป็นแห่ง ๆ ตามที่มีความเหมาะสม เพื่อลดผลกระทบในการประกอบอาชีพประมงของชาวประมง

 


คุยกับน้องมัจฉา Add Friends คุยกับน้องมัจฉา