"กรมประมง...แจง ! การ “แก้ มาตรา 69" พ.ร.บ.ประมงใหม่ มิได้บังคับใช้ทันที ต้องออกกฎหมายลูกกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และพื้นที่ โดยยึดข้อมูลวิชาการและมาตรการที่เหมาะสมให้ไม่มีผลกระทบต่อทรัพยากรประมง

 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน


"กรมประมง...แจง ! การ “แก้ มาตรา 69" พ.ร.บ.ประมงใหม่ มิได้บังคับใช้ทันที ต้องออกกฎหมายลูกกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และพื้นที่ โดยยึดข้อมูลวิชาการและมาตรการที่เหมาะสมให้ไม่มีผลกระทบต่อทรัพยากรประมง 

ประชาสัมพันธ์

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

HOT

"กรมประมง...แจง ! การ “แก้ มาตรา 69" พ.ร.บ.ประมงใหม่ มิได้บังคับใช้ทันที ต้องออกกฎหมายลูกกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และพื้นที่ โดยยึดข้อมูลวิชาการและมาตรการที่เหมาะสมให้ไม่มีผลกระทบต่อทรัพยากรประมง

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวการไม่เห็นด้วยกับการปรับปรุงแก้ไข มาตรา 69 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ซึ่งเดิมมีข้อกำหนด ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ทำการประมงในเวลากลางคืน โดยแก้ไขเพิ่มเติมให้สามารถใช้เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ทำการประมงนอกเขตสิบสองไมล์ทะเลนับจากแนวทะเลชายฝั่งได้ในเวลากลางคืน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และพื้นที่ ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ทั้งนี้ ต้องกำหนดเรื่องการใช้แสงไฟล่อไว้ด้วย นั้น ซึ่งข้อเท็จจริงในข้อกำหนดดังกล่าวข้างต้นยังไม่มีผลบังคับใช้โดยทันทีเมื่อกฎหมายผ่านขั้นตอนจนออกมาเป็นพระราชบัญญัติแล้ว

กรมประมง ขอเรียนชี้แจงว่า การบริหารจัดการทรัพยากรประมงในน่านน้ำไทย มีจุดมุ่งหมายในการจัดระเบียบการประมงเพื่อรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้อยู่ในภาวะที่เป็นแหล่งอาหารของมนุษยชาติอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง กฎเกณฑ์ และมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยการศึกษาและนำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ ให้สอดคล้องกับแนวทางการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและหลักการป้องกันล่วงหน้าเพื่อรักษาหรือฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้อยู่ในระดับที่สามารถทำการประมงได้อย่างยั่งยืน

สำหรับทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและมีความสำคัญในห่วงโซ่อาหาร คือ ปลากะตัก ที่ผ่านมา กรมประมงได้กำหนดมาตรการการใช้ประโยชน์จากปลากะตักในหลายด้าน และมีการรวบรวมข้อมูลทำการประมงปลากะตักเพื่อประเมินค่า MSY (Maximum Sustainable Yield) หรือ “ผลผลิตสูงสุดที่ยั่งยืน” หมายถึง ปริมาณสูงสุดของสัตว์น้ำที่จะจับมาใช้ประโยชน์ได้ โดยสัตว์น้ำส่วนที่เหลือยังคงได้วางไข่และเจริญเติบโตมาทดแทนอย่างสมดุลกับปริมาณที่ถูกจับไป และมีการกำหนดปริมาณที่ให้สามารถจับได้ (TAC) โดยในปีการประมงที่ผ่านมา (ปีการประมง 2567) ปลากะตักในน่านน้ำไทยมีค่า MSY เท่ากับ 221,459 ตัน จัดสรรให้สามารถจับได้ 217,030 ตัน (ร้อยละ 98 ของค่า MSY) แต่จากข้อมูลปริมาณการจับปลากะตักในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2567 มีปริมาณการจับเพียง 90,000 ตัน และมีการลงแรงประมงไม่ถึงร้อยละ 25 ของการลงแรงที่ใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม (ระดับการลงแรงที่ค่า MSY) โดยปลากะตักมีช่วงอายุขัยประมาณ 1 ปี เมื่อไม่ถูกจับจะตายไปตามธรรมชาติจึงเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจ และเมื่อการจับปลากะตักในปัจจุบันมีปริมาณน้อย ส่งผลให้ปริมาณปลากะตักที่เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมน้ำปลาและการผลิตปลากะตักแห้งในประเทศมีไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องนำเข้าปลากะตักจากต่างประเทศเป็นจำนวนกว่า 20,000 ตันต่อปี อย่างไรก็ตาม การจับปลากะตักจะมีสัตว์น้ำอื่น ๆ ปะปน ทั้งที่เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่ จึงต้องคำนึงถึงผลของการทำการประมงปลากะตักอย่างรอบคอบเพื่อลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด

ดังนั้น เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลากะตักอย่างคุ้มค่าและเหมาะสม จึงมีการปรับปรุงแก้ไข มาตรา 69 ให้เกิดความยืดหยุ่นที่จะนำทรัพยากรชนิดนี้มาใช้เมื่อเกิดความจำเป็นและเหมาะสม มีเหตุผลอย่างเพียงพอ โดยอนุญาตให้ใช้อวนที่มีขนาดตาน้อยกว่า 2.5 เซนติเมตร ทำการประมงล้อมจับปลากะตักในเวลากลางคืน ในพื้นที่ระยะมากกว่า 12 ไมล์ทะเลนับจากแนวชายฝั่ง โดยให้รัฐมนตรีมีอำนาจในการประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และพื้นที่ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรปลากะตักอย่างเหมาะสมและยั่งยืนไม่เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และกระทบต่อทรัพยากรสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ น้อยที่สุด ซึ่งต้องนำไปพิจารณาทางวิชาการและรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นมีแนวทาง ดังนี้

1. ห้ามทำการประมงอวนล้อมจับปลากะตักเวลากลางคืน ในระยะ 12 ไมล์ทะเลเด็ดขาด

2. การจะอนุญาตให้ทำการประมงนอกเขต 12 ไมล์ทะเล ได้นั้น ตัวบทกฎหมายเพียงเปิดช่องให้สามารถออกกฎหมายลำดับรองให้ทำได้เมื่อมีความจำเป็นและไม่กระทบกับทรัพยากรสัตว์น้ำในภาพรวมหรือกระทบน้อยที่สุด กล่าวคือ ต้องมีข้อมูลวิชาการที่ชัดเจนว่าไม่กระทบต่อสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น ขนาดตาอวนทั้งผืนต้องมีขนาดไม่น้อยกว่ากว่า 0.6 เซนติเมตร และกำหนดช่วงเวลาให้ทำได้ในช่วงที่มีการปนของสัตว์น้ำอื่น ๆ น้อยที่สุด เบื้องต้นอาจกำหนดให้ทำการประมงได้เฉพาะในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม ในฝั่งอ่าวไทย และเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม ในฝั่งทะเลอันดามัน เฉพาะในพื้นที่อนุญาตซึ่งไม่ทับซ้อนกับเขตมาตรการอนุรักษ์ เช่น มาตรการปิดอ่าว

3. มีระดับความลึกของน้ำไม่น้อยกว่า 30 เมตร

4. เรือทุกลำที่จะเข้ามาทำต้องเป็นเรือที่ได้รับใบอนุญาตอวนล้อมจับปลากะตักอยู่เดิม ซึ่งมีอยู่จำนวน 175 ลำ โดยเรือทุกลำต้องติด VMS ส่งสัญญาณให้ติดตามได้ทุก 15 นาที

5. ไม่อนุญาตให้เครื่องมือชนิดอื่นเปลี่ยนมาเป็นเครื่องมืออวนล้อมจับปลากะตัก

6. จับคู่เรือปั่นไฟ และอนุญาตให้ใช้เรือปั่นไฟรวมกันไม่เกิน 3 ลำ ต่อเรืออวนล้อมจับปลากะตัก 1 ลำ โดยไม่ออกใบอนุญาตเรือปั่นไฟเพิ่ม และกำหนดกำลังไฟของเรือปั่นไฟ ไม่เกิน 40 กิโลวัตต์

นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อเป็นการควบคุมปริมาณการจับสัตว์น้ำ อาทิ การใช้ระบบโควตา การใช้ระบบสมุดบันทึกการทำการประมงแบบอิเล็กทรอนิกส์ และต้องแจ้งเข้าและออกทำการประมงกับศูนย์ PIPO ทุกครั้ง ฯลฯ

ทั้งนี้ เมื่อได้ข้อมูลทางวิชาการที่เพียงพอตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว กรมประมงจะดำเนินการเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ เพื่อให้ความเห็นชอบหลักการในการดำเนินการ หลังจากนั้น จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปกำหนดเป็นมาตรการโดยนำมาตรการไปรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และออกประกาศมาตรการฯ เพื่อบังคับใช้ต่อไป โดยระหว่างนั้น จะมีการเก็บข้อมูลทางวิชาการและสามารถทบทวนปรับปรุงมาตรการได้ตามความเหมาะสม

กรมประมง เชื่อมั่นว่าการปรับปรุงกฎหมาย ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558

พ.ศ... จำนวน 71 มาตรา จะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวประมงได้ อีกทั้ง ยังช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการประมงตลอดสายการผลิตของประเทศฟื้นตัวอย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้ยั่งยืนและเกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด สอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่จะฟื้นชีวิตอุตสาหกรรมประมงให้กลับมาเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประเทศ...อธิบดีกรมประมง กล่าว

#อธิบดีกรมประมง

#กรมประมง

#กองตรวจราชการ

 Tags

  •   Hits
  • ITA (Integrity and Transparency Assessment) การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ITA (Integrity and Transparency Assessment) การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการ... จำนวนผู้อ่าน 84  จังหวัดลำพูน ประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด!!! จังหวัดลำพูน ประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด!!!  จำนวนผู้อ่าน 59 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูนดำเนินการจัดโครงการเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในแหล่งน้ำสาธารณะ พื้นที่ คทช.จังหวัดลำพูน และลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน และกำหนดเครื่องมือ วิธีการทำการประมง  และเงื่อนไขในการทำการประมง พ.ศ.2568 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูนดำเนินการจัดโครงการเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในแหล่งน้ำสาธารณะ... จำนวนผู้อ่าน 56 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน ติดตามความคืบหน้าของกลุ่มองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นบ้านปากล้อง ม.8  บ้านหนองปลาสะวาย อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน ติดตามความคืบหน้าของกลุ่มองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นบ้านป... จำนวนผู้อ่าน 52 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำพูน คณะกรรมการแหล่งน้ำ ดำเนินการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำโครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง กิจกรรมบริหารจัดการทรัพยากรประมงน้ำจืดประจำปีงบประมาณ 2568 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำพูน คณะกรรมการแห... จำนวนผู้อ่าน 49 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูนร่วมพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568  สำนักงานประมงจังหวัดลำพูนร่วมพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระน... จำนวนผู้อ่าน 48 “รมช.กษ. อัครา” ปลื้ม...“กรมประมง” นำไทยทุบสถิติส่งออกสินค้าประมงในรอบ 10 ปี  กวาดรายได้เข้าประเทศกว่า 2.40 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์  “รมช.กษ. อัครา” ปลื้ม...“กรมประมง” นำไทยทุบสถิติส่งออกสินค้าประมงในรอบ 10 ปี กว... จำนวนผู้อ่าน 46 รณรงค์การสวมหมวกนิรภัย 100% รณรงค์การสวมหมวกนิรภัย 100%  จำนวนผู้อ่าน 45 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน ร่วมออกหน่วยบริการประชาชน โครงการ สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน ร่วมออกหน่วยบริการประชาชน โครงการ"หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุ... จำนวนผู้อ่าน 41 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูนร่วมกับคณะกรรมการแหล่งน้ำ ทำกิจกรรมการเพาะพันธ์ุสัตว์น้ำด้วยชุดเพาะฟักเคลื่อนที่ได้ (mobile hatchery) ลงสู่แหล่งน้ำหนองจิก บ้านวังสะแกงใต้ ม.9 ต.หนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน  สำนักงานประมงจังหวัดลำพูนร่วมกับคณะกรรมการแหล่งน้ำ ทำกิจกรรมการเพาะพันธ์ุสัตว์น้... จำนวนผู้อ่าน 41 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูนร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำพูน จัดกิจกรรมจิตอาสาเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 47 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568  สำนักงานประมงจังหวัดลำพูนร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำพูน จัดกิจกรรมจิต... จำนวนผู้อ่าน 39 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน ร่วมต้อนรับคณะติดตามงานจากกรมประมง โครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มการผลิตด้านประมง ประจำปีงบประมาณ 2568  สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน ร่วมต้อนรับคณะติดตามงานจากกรมประมง โครงการสร้างความเข้... จำนวนผู้อ่าน 38 รับสมัครพนักงานราชการ ตำแหน่งพนักงานผู้ช่วยประมง สังกัดศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดสุโขทัย  รับสมัครพนักงานราชการ ตำแหน่งพนักงานผู้ช่วยประมง สังกัดศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะ... จำนวนผู้อ่าน 38 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูนร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เพื่อถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูนร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เพื่อถวา... จำนวนผู้อ่าน 37 ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง มาตราการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ภาคการเกษตร ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง มาตราการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นล... จำนวนผู้อ่าน 34


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน

    รายละเอียด 225 หมู่ 3 ตำบลเวียงยอง อ-เภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน  email  lamphunfishpro@gmail.com  โทรศัพท์ 053-561353,053-511430  FAX 053-561353  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6