กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด เร่งดำเนินการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทยปล่อยลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อสร้างการรับรู้และการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในแม่น้ำโขง  โดยมอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมุกดาหาร ร่วมกับหน่วยงานกรมประมงในพื้นที่และชาวประมง ดำเนินการจัดตั้งแคมป์ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เพื่อรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลาที่จับได้จากแม่น้ำโขง ในช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ ของทุกปี บริเวณบ้านไคสี ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ  

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด เร่งดำเนินการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทยปล่อยลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อสร้างการรับรู้และการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในแม่น้ำโขง  โดยมอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมุกดาหาร ร่วมกับหน่วยงานกรมประมงในพื้นที่และชาวประมง ดำเนินการจัดตั้งแคมป์ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เพื่อรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลาที่จับได้จากแม่น้ำโขง ในช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ ของทุกปี บริเวณบ้านไคสี ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ   

ข่าวกิจกรรม  ข่าวประชาสัมพันธ์  ประชาสัมพันธ์กรมประมง

 2023-11-20  91

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด เร่งดำเนินการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทยปล่อยลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อสร้างการรับรู้และการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในแม่น้ำโขง 

โดยมอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมุกดาหาร ร่วมกับหน่วยงานกรมประมงในพื้นที่และชาวประมง ดำเนินการจัดตั้งแคมป์ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เพื่อรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลาที่จับได้จากแม่น้ำโขง ในช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ ของทุกปี บริเวณบ้านไคสี ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ  

แล้วนำมาเพาะพันธุ์ปล่อยกลับคืนแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขา เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขาในประเทศไทย และแก้ไขปัญหาให้เกิดประโยชน์ต่อการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำและประชาชนในลุ่มน้ำโขงให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยใช้พ่อแม่พันธุ์ที่จับได้จากธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มปริมาณพันธุ์ปลายี่สกไทยในแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขา 

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ชาวประมงเริ่มจับปลายี่สกไทยได้ ในช่วงเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นปลายี่สกไทยกลุ่มแรก โดยสามารถจับปลาได้ถึง 14 ตัว น้ำหนักตัวอยู่ที่ 8 กิโลกรัม ถึง 28 กิโลกรัม โดยศูนย์ฯ รับซื้อพ่อแม่พันธุ์ปลายี่สกไทยจากชาวประมงที่จับ มาฉีดกระตุ้นการผสมพันธุ์และรีดไข่ผสมเทียม จากนั้นนำไข่มาฟักในระบบเพาะฟักและอนุบาลให้ได้ขนาดตัว 5-7 เซนติเมตรภายในศูนยฯ 
แคมป์ปลาเอิน เป็นกิจกรรมการเพาะพันธุ์ปลาเอิน หรือ ปลายี่สกไทย ที่กรมประมงจัดให้มีขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งแคมป์ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวประมงท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่ให้การต้อนรับและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยการเพาะพันธุ์ในแต่ละปี กรมประมงจะรับซื้อปลายี่สกไทยเพศผู้และเพศเมียมีชีวิตที่ชาวประมงท้องถิ่นจับได้จากแม่น้ำโขง ซึ่งมีขนาดน้ำหนักตั้งแต่ 8 กิโลกรัม ขึ้นไป นำมาตรวจสอบความสมบูรณ์เพศโดยการสังเกตจากลักษณะทางกายภาพภายนอกและตรวจสอบความสมบูรณ์ของไข่และน้ำเชื้อภายในตัวแม่และพ่อปลาโดยใช้เทคนิควิธีทางวิชาการ และทำการเพาะพันธุ์ด้วยวิธีการฉีดกระตุ้นเพศเมียด้วย Luteinizing Hormone-Releasing Hormone analogue (LHRHa) 20  ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ร่วมกับยาเสริมฤทธิ์ Domperidone 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (น้ำหนักปลาเพศเมีย 17 กิโลกรัม) ฉีดฮอร์โมนบริเวณช่องท้อง ส่วนปลาเพศผู้ ปีนี้มีขนาด 15  กิโลกรัม ฉีดฮอร์โมน LHRHa ที่ความเข้มข้น 10 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ร่วมกับยาเสริมฤทธิ์  10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ยกเว้นหากปีใดตัวผู้มีน้ำเชื้อดีจะไม่ฉีดฮอร์โมน หลังจากนั้นรอจนไข่แก่เต็มที่ จึงทำการรีดไข่ปลาผสมกับน้ำเชื้อปลายี่สกไทยเพศผู้ นำไข่ที่ได้รับการผสมแล้วกลับไปใส่ถังเพาะและอนุบาลลูกปลาและปล่อยคืนกลับสู่แม่น้ำโขงต่อไป เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรประมงในแม่น้ำโขง เกิดการใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน #แคมป์ปลาเอิน #สร้างเสริมเพิ่มยกพัฒนา #กรมประมง

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด เร่งดำเนินการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทยปล่อยลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อสร้างการรับรู้และการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในแม่น้ำโขง 

โดยมอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมุกดาหาร ร่วมกับหน่วยงานกรมประมงในพื้นที่และชาวประมง ดำเนินการจัดตั้งแคมป์ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เพื่อรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลาที่จับได้จากแม่น้ำโขง ในช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ ของทุกปี บริเวณบ้านไคสี ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ  

แล้วนำมาเพาะพันธุ์ปล่อยกลับคืนแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขา เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขาในประเทศไทย และแก้ไขปัญหาให้เกิดประโยชน์ต่อการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำและประชาชนในลุ่มน้ำโขงให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยใช้พ่อแม่พันธุ์ที่จับได้จากธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มปริมาณพันธุ์ปลายี่สกไทยในแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขา 

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ชาวประมงเริ่มจับปลายี่สกไทยได้ ในช่วงเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นปลายี่สกไทยกลุ่มแรก โดยสามารถจับปลาได้ถึง 14 ตัว น้ำหนักตัวอยู่ที่ 8 กิโลกรัม ถึง 28 กิโลกรัม โดยศูนย์ฯ รับซื้อพ่อแม่พันธุ์ปลายี่สกไทยจากชาวประมงที่จับ มาฉีดกระตุ้นการผสมพันธุ์และรีดไข่ผสมเทียม จากนั้นนำไข่มาฟักในระบบเพาะฟักและอนุบาลให้ได้ขนาดตัว 5-7 เซนติเมตรภายในศูนยฯ 
แคมป์ปลาเอิน เป็นกิจกรรมการเพาะพันธุ์ปลาเอิน หรือ ปลายี่สกไทย ที่กรมประมงจัดให้มีขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งแคมป์ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวประมงท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่ให้การต้อนรับและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยการเพาะพันธุ์ในแต่ละปี กรมประมงจะรับซื้อปลายี่สกไทยเพศผู้และเพศเมียมีชีวิตที่ชาวประมงท้องถิ่นจับได้จากแม่น้ำโขง ซึ่งมีขนาดน้ำหนักตั้งแต่ 8 กิโลกรัม ขึ้นไป นำมาตรวจสอบความสมบูรณ์เพศโดยการสังเกตจากลักษณะทางกายภาพภายนอกและตรวจสอบความสมบูรณ์ของไข่และน้ำเชื้อภายในตัวแม่และพ่อปลาโดยใช้เทคนิควิธีทางวิชาการ และทำการเพาะพันธุ์ด้วยวิธีการฉีดกระตุ้นเพศเมียด้วย Luteinizing Hormone-Releasing Hormone analogue (LHRHa) 20  ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ร่วมกับยาเสริมฤทธิ์ Domperidone 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (น้ำหนักปลาเพศเมีย 17 กิโลกรัม) ฉีดฮอร์โมนบริเวณช่องท้อง ส่วนปลาเพศผู้ ปีนี้มีขนาด 15  กิโลกรัม ฉีดฮอร์โมน LHRHa ที่ความเข้มข้น 10 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ร่วมกับยาเสริมฤทธิ์  10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ยกเว้นหากปีใดตัวผู้มีน้ำเชื้อดีจะไม่ฉีดฮอร์โมน หลังจากนั้นรอจนไข่แก่เต็มที่ จึงทำการรีดไข่ปลาผสมกับน้ำเชื้อปลายี่สกไทยเพศผู้ นำไข่ที่ได้รับการผสมแล้วกลับไปใส่ถังเพาะและอนุบาลลูกปลาและปล่อยคืนกลับสู่แม่น้ำโขงต่อไป เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรประมงในแม่น้ำโขง เกิดการใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน #แคมป์ปลาเอิน #สร้างเสริมเพิ่มยกพัฒนา #กรมประมง

• ← เก่ากว่า
• ใหม่กว่า →