การเลี้ยงปูนิ่ม

 สำนักงานประมงจังหวัดพังงา

การเลี้ยงปูนิ่ม 

บทความ

ส่ง email แชร์ X ส่ง Line แชร์ Facebook
ฟังเสียงบรรยาย
ฟังเสียงบรรยาย

การเลี้ยงปูนิ่ม

ปูทะเลที่เราเรียกตัวปูนั้นก็คือ ส่วนหัวกับส่วนอกซึ่งรวมกันเรียกว่า Cephalothrorax ส่วนนี้จะมีกระดองห่อหุ้มไว้ สำหรับส่วนท้องของปูได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นแผ่นบาง ๆ ที่เรียกว่า "จับปิ้ง"พับอยู่ใต้กระดอง ซึ่งใช้แยกเพศได้คือ ในเพศเมียจับปิ้งจะมีลักษณะกว้างปลายมนกลม ส่วนตัวผู้มีรูปเรียวและแคบแต่ตัวเมียที่ขณะยังเล็กอยู่จะเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายตัวผู้จึงเข้าใจผิดและเรียกว่า ปูกระเทย

ปูทะเลมีขา 5 คู่ ขาคู่แรกอยู่หน้าสุดมีขนาดใหญ่ เรียกว่า "ก้ามปู" ขาคู่ที่2-4 มีลักษณะปลายสุดแหลมเรียกว่า "ขาเดิน" ส่วนขาคู่ที่ 5 เรียกว่า "ขาว่ายน้ำ" ตอนปลายสุดมีลักษณะคล้ายใบพาย ปูทะเลมีเลือดสีฟ้าใส ๆมีสารประกอบขอพวกทองแดงปนอยู่

 วงจรชีวิตของปูทะเล
ปูทะเลใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในป่าชายเลน ยกเว้นปูเพศเมียจะมีการอพยพไปวางไข่ในทะเล ในวงจรชีวิตพบว่าปูทะเลเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์มีการจับคู่ผสมพันธุ์ ต่อมาเพศเมียจะเดินทางสู่ทะเล เพื่อวางไข่ ลูกปูวัยอ่อนระยะแรกคือ ระยะซูเอีย (Zoea) จะล่องลอยเข้าหาฝั่งด้วยคลื่นและกระแสน้ำ ในขณะเดียวกันก็ได้พัฒนาเป็นระยะเมกกาโลป้า (Megalopa) และลอกคราบเป็นตัวปูที่เรียกว่า Young Crab ซึ่งมีลักษณะเหมือนปูตัวเต็มวัยก็จะอาศัยอยู่บริเวณป่าชายเลน 
จนถึงวัยเจริญพันธุ์จะมีการผสมพันธุ์และตัวเมียก็จะเดินทางออกไปวางไข่ในทะเลต่อไป

การเจริญเติบโต
ปูทะเลจะเจริญเติบโตต้องมีการลอกคราบ เนื่องจากกระดองของปูเป็นสารประกอบพวกหินปูนที่มีความแข็งแรงมาก จึงไม่สามารถยืดขยายขนาดได้ เมื่อเจริญเติบโตจนมีเนื้อแน่นเต็มกระดองก็จะลอกคราบ เพื่อขยายขนาดและสร้างกะดองใหม่มาแทนที่ ระยะเวลาในการลอกคราบของปู จะเพิ่มมากขึ้นตามอายุของปู เมื่อปูลอกคราบใหม่ ๆ นั้นกระดองใหม่จะนิ่ม ผิวเปลือกย่น เรียกว่า "ปูนิ่ม" ซึ่งต่อมาลำตัวจะค่อย ๆ ตึงและแข็งขึ้น

 ความสำคัญ
ปูทะเลเป็นสัตว์น้ำกร่อย ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง เพราะปริมาณการจับในปี 2535-2539 มีจำนวน 4,243-6,200 ตัน คิดเป็นมูลค่า 358.0-700.8 ล้านบาท ปูทะเลจะพบอยู่ตามบริเวณชายฝั่งทั่วไป ทั้งด้านฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน ปัจจุบันพบมากในบางแหล่งเท่านั้น เช่น บริเวณอ่าวไทยพบมากที่จังหวัด ตราด จันทบุรี ชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ส่วนทางฝั่งอันดามันพบที่ ระนอง พังงา ตรัง กระบี่ และสตูล แต่มีปริมาณการจับลดลงเป็นลำดับ

ชนิดของปูทะเลในประเทศไทย
ชนิดของปูทะเลที่พบในประเทศไทย พอจำแนกได้ 3 ชนิดคือ
1. ปูดำหรือที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าปูทองแดง พบว่าก้ามมีสีแดงเข้มปนดำไม่มีจุด หนามระหว่างตาจะเป็นสามเหลี่ยมมุมป้านปลายหนามมน โดยทั่วไปจะพบว่ามีขนาดเล็กถึงกลาง
2. ปูขาวหรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าปูทองหลาง พบก้ามมีสีเหลืองอ่อน มีจุดสีฟ้าเขียว หนามระหว่างตาจะเป็นสามเหลี่ยมหน้าจั่วปลายหนามแหลม โดยทั่วไปจะพบว่ามีขนาดใหญ่
3. ปูเขียวชาวบ้านมักจะเรียกว่าปูทองหลางเช่นเดียวกับปูขาว โดยทั่วไปพบว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในจำนวน 3 ชนิด ที่สังเกตได้ชัดเจนคือ ก้ามมีสีม่วงอ่อนถึงม่วงเข้ม หนามระหว่างตาจะเป็นสามเหลี่ยมหน้าจั่วปลายมน แต่พบว่าชนิดนี้มีปริมาณน้อยมาก

 การเพาะเลี้ยงปูทะเล
การเพาะเลี้ยงปูทะเลได้เริ่มมานานแล้ว แต่ที่เขียนเป็นรายงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 โดยการเลี้ยงในร่องสวนและมีการพัฒนามาตามลำดับ ปัจจุบันนี้การเลี้ยงที่สามารถทำรายได้ให้แก่เกษตรกรมี 2 ประเภทคือ


ภาพจาก https://maanow.com/

 

1. การขุนปูทะเล
การขุนปู หมายถึง การนำพันธุ์ปูทะเลที่มีเนื้อน้อย (ผอมหรือโพรก) มาขุนด้วยอาหาร จนมีเนื้อแน่น (อ้วนหรือแน่น) โดยไม่มีการลอกคราบ หากเป็นปูเพศเมียก็สามารถมีไข่ในกระดองเต็มมากขึ้นด้วย ระยะเวลาที่ใช้ขุนประมาณ 15-25 วัน สำหรับขนาดใช้ขุนควรมีน้ำหนักตัวปูเกิน 200 กรัมขึ้นไป และมีระยางค์ครบถ้วนสมบูรณ์หลักในการพิจารณาเลือกทำเลในการสร้างบ่อเลี้ยงมีดังนี้
- เป็นบริเวณที่น้ำมีความเค็ม 10-30 ส่วนในพันส่วน มีน้ำหมุนเวียนถ่ายเทสะดวก
- เป็นที่น้ำไม่ท่วมบ่อ ขณะน้ำทะเลมีระดับสูงสุด และสามารถระบายน้ำได้แห้ง เมื่อน้ำลงต่ำสุด
- มีระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และการคมนาคมสะดวก
- สภาพดินเป็นดินเหนียว หรือดินเหนียวปนทราย ที่สามารถเก็บน้ำได้ดี
- เป็นแหล่งที่จัดหาพันธุ์ปูทะเลได้สะดวก
- เป็นบริเวณที่ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ และมลภาวะที่เป็นพิษ
 การสร้างบ่อ
การสร้างบ่อจะขุดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีขนาดระหว่าง 400-1600 ตร.ม. บนคันบ่อจะล้อมรั้วด้วยไม้ไผ่หรืออวนมุ้งเขียว บ่อที่นิยมมักจะมีขนาดเล็กเนื่องจากสะดวกต่อการจัดการและพอเหมาะกับพันธุ์ปูที่หามาได้ในแต่ละครั้งพันธุ์ปูและการปล่อยปูลงเลี้ยงพันธุ์ปูควรมีขนาดตั้งแต่ 8.5 เซนติเมตร หรือน้ำหนัก 200 กรัมขึ้นไป และมีระยางค์ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนที่จะทำการปล่อยปูลงเลี้ยงควรมีการปรับสภาพของปูให้เข้ากับน้ำในบ่อ โดยการใช้น้ำในบ่อเลี้ยงรดตัวปูให้ชุ่ม จากนั้นจึงตัดเชือกมัดปูออกแล้วปล่อย การปล่อยควรเป็นเวลาเช้าหรือเย็น
 การให้อาหาร
อาหารที่ใช้เลี้ยงขุนปู คือ ปลาเป็ด อัตราการให้อาหาร 5-10 เปอร์เซ็นต์ หรือจะนับจำนวนชิ้นมากกว่าจำนวนปูที่ปล่อยประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าให้หอยกะพงจะให้ในอัตรา 20-40 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว การให้อาหารจะให้วันละ 1 ครั้ง ในตอนเย็นโดยหว่านให้ทั่วบ่อ 
 ระยะเวลาเลี้ยง การดูแล และการเก็บเกี่ยวผลผลิต
ระยะเวลาในการขุนปู จะใช้ระยะเวลาประมาณ 15-25 วัน จึงสามารถเก็บผลผลิตได้ ในระหว่างการขุน จะต้องหมั่นถ่ายเปลี่ยนน้ำ และสังเกตการขึ้นตลิ่งของปูซึ่งแสดงว่าน้ำหรือพื้นบ่อเสีย ต้องรีบทำการแก้ไข สำหรับการจับปูมีหลายวิธีเช่น การใช้หยอง ลอบปู ใช้สวิงด้ามยาวจับปูขณะเล่นน้ำใหม่หน้าประตูน้ำ ใช้คราดและสวิงจับปูขณะน้ำแห้งบ่อ ใช้ตะขอเกี่ยวปูในรู เป็นต้น สำหรับอัตราการตายช่วงการขุนอยู่ระหว่าง 2-5 เปอร์เซ็นต์

 

ภาพจาก https://ifreethai.com/

 

 

2. การเลี้ยงปูนิ่ม
เนื่องจากชาวประมงมีการจับปูขนาดเล็กขึ้นมาจำหน่ายในราคาถูก คือขนาดต่ำกว่า 120 กรัม ซึ่งเกษตรกรจะขายในราคา 20-40 บาท/กก. จึงคิดหาวิธีการเลี้ยงปูทะเลนิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าของทรัพยากรปูทะเลในธรรมชาติ กล่าวคือนำปูเล็กมาเลี้ยงประมาณ 1-3 เดือน ปูลอกคราบเป็นปูนิ่มทำให้มีมูลค่าเพิ่มเป็น 150-200 บาท/กก. และประการที่ 2 เพื่อให้การรับประทานปูง่ายขึ้น เพราะสามารถรับประทานได้ทั้งตัวการเลี้ยงปูนิ่มนี้เกษตรกรสามารถนำไปปฏิบัติได้แล้วในหลายพื้นที่ เช่น ระนอง สุราษฎร์ธานี ชุมพร พังงา ภูเก็ต สตูล สมุทรปราการ สมุทรสาคร และจันทบุรี
 การสร้างบ่อและการทำแพรองรับตะกร้า
การเลี้ยงปูนิ่มจะสร้างบ่อเช่นเดียวกับบ่อเลี้ยงกุ้งทั้งขนาดและรูปบ่อ แต่มีทางเดินบริเวณกลางบ่อ เพื่อสะดวกในการตรวจเช็คปูนิ่มและให้อาหารสำหรับการสร้างแพ ใช้ท่อ PVC มีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 1-2 นิ้ว มาต่อกันเป็นแพยาว 5-10 เมตร เพื่อรองรับตะกร้าที่มีความกว้างเท่ากับ 22.5 เซนติเมตรยาว 30 เซนติเมตร สูง 15.1 เซนติเมตร
 พันธุ์ปูและการปล่อยปูลงเลี้ยง
พันธุ์ปูควรมีขนาดระหว่าง 6.5-7.5 เซนติเมตร และแข็งแรงมาเลี้ยง ก่อนที่จะทำการปล่อยปูลงเลี้ยงในตะกร้าควรมีการปรับสภาพของปูให้เข้ากับแหล่งน้ำที่จะเลี้ยง เช่นเดียวกับการขุนปู จากนั้นจึงตัดเชือกมัดปูออกแล้วปล่อยลงตะกร้าและใช้ตะกร้าอีกใบหนึ่งครอบมัดด้วยเชือกให้สามารถเปิดได้สะดวกใส่ปู1 ตัว/ 1 ตะกร้า ส่วนด้านบนของตะกร้ามีช่องเพื่อให้อาหาร นำตะกร้าที่บรรจุปูไปวางเลี้ยงบนแพที่เตรียมไว้
 การให้อาหาร
อาหารที่ใช้เลี้ยงปูคือ ปลาเป็ดสับเป็นชิ้น ๆ มีขนาด 1-2 นิ้ว การให้อาหารจะให้ตัวละ 1-2 ชิ้นและวันละ 1 ครั้ง
 ระยะเวลาการเลี้ยง
ระยะเวลาในการเลี้ยงปูของแต่ละชุด จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน จึงสามารถเก็บผลผลิตได้เกือบทั้งหมด แต่เกษตรกรนิยมใส่ปูทดแทนที่ว่างทันทีเพื่อประหยัดเวลาและพื้นที่
 การดูแล และการเก็บเกี่ยวผลผลิต
หลังจากปล่อยปูลงเลี้ยง จะต้องตรวจปูลอกคราบในวันถัดไป และเมื่อเลี้ยงได้ประมาณ 1 เดือน ปูจะเริ่มลอกคราบจำนวนมาก การตรวจและเก็บปูนิ่มจะดูทุก 4 ชั่วโมง เพราะปูที่ลอกคราบไปแล้วประมาณ 6 ชั่วโมงกระดองจะเริ่มแข็ง ไม่สามารถจำหน่ายได้ การตรวจเก็บปูนิ่ม จะสังเกตจากตะกร้าใดมีปูอยู่ 2 ตัว แสดงว่าปูลอกคราบแล้วต้องรีบทำการเก็บทันที นำไปแช่น้ำจืดที่สะอาดและใส่ภาชนะบรรจุเก็บที่อุณหภูมิไม่เกินกว่า -18 องศาเซลเซียส เพื่อให้คงความสดไว้เป็นระยะเวลานานหรือเก็บไว้ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นประจำบ้านหรือตู้แช่ไอศครีม เพื่อรอการจำหน่ายสำหรับอัตราการตายระหว่างการเลี้ยงอยู่ระหว่าง 6-10 เปอร์เซ็นต์
 การนำไปประกอบอาหาร
ในการนำปูนิ่มไปประกอบอาหารนั้น ผู้ประกอบอาหารสามารถทำได้มากมายหลายประการ เช่น ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย ปูนิ่มชุบแป้งทอด ปูนิ่มพล่าต้มยำปูนิ่ม ปูนิ่มผัดผงกระหรี่ ปูนิ่มอบวุ้นเส้น ปูนิ่มสามรส ปูนิ่มจานร้อน พะแนงปูนิ่ม ปูนิ่มนึ่งนมสดและอื่น ๆ อีกมากมายอีกทั้งยังสามารถคิดค้นดัดแปลงเป็นอาหารแบบต่าง ๆ ได้ตามความประสงค์ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน ฝรั่ง หรือแม้แต่อาหารญี่ปุ่นก็สามารถปรุงได้อย่างมีรสชาติและเอร็ดอร่อย
เนื่องจากชาวประมงมีการจับปูขนาดเล็กขึ้นมาจำหน่ายในราคาถูก คือขนาดต่ำกว่า 120 กรัม ซึ่งเกษตรกรจะขายในราคา 20-40 บาท/กก. จึงคิดหาวิธีการเลี้ยงปูทะเลนิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าของทรัพยากรปูทะเลในธรรมชาติ กล่าวคือนำปูเล็กมาเลี้ยงประมาณ 1-3 เดือน ปูลอกคราบเป็นปูนิ่มทำให้มีมูลค่าเพิ่มเป็น 150-200 บาท/กก. และประการที่ 2 เพื่อให้การรับประทานปูง่ายขึ้น เพราะสามารถรับประทานได้ทั้งตัวการเลี้ยงปูนิ่มนี้เกษตรกรสามารถนำไปปฏิบัติได้แล้วในหลายพื้นที่ เช่น ระนอง สุราษฎร์ธานี ชุมพร พังงา ภูเก็ต สตูล สมุทรปราการ สมุทรสาคร และจันทบุรี
 การสร้างบ่อและการทำแพรองรับตะกร้า
การเลี้ยงปูนิ่มจะสร้างบ่อเช่นเดียวกับบ่อเลี้ยงกุ้งทั้งขนาดและรูปบ่อ แต่มีทางเดินบริเวณกลางบ่อ เพื่อสะดวกในการตรวจเช็คปูนิ่มและให้อาหารสำหรับการสร้างแพ ใช้ท่อ PVC มีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 1-2 นิ้ว มาต่อกันเป็นแพยาว 5-10 เมตร เพื่อรองรับตะกร้าที่มีความกว้างเท่ากับ 22.5 เซนติเมตรยาว 30 เซนติเมตร สูง 15.1 เซนติเมตร
 พันธุ์ปูและการปล่อยปูลงเลี้ยง
พันธุ์ปูควรมีขนาดระหว่าง 6.5-7.5 เซนติเมตร และแข็งแรงมาเลี้ยง ก่อนที่จะทำการปล่อยปูลงเลี้ยงในตะกร้าควรมีการปรับสภาพของปูให้เข้ากับแหล่งน้ำที่จะเลี้ยง เช่นเดียวกับการขุนปู จากนั้นจึงตัดเชือกมัดปูออกแล้วปล่อยลงตะกร้าและใช้ตะกร้าอีกใบหนึ่งครอบมัดด้วยเชือกให้สามารถเปิดได้สะดวกใส่ปู1 ตัว/ 1 ตะกร้า ส่วนด้านบนของตะกร้ามีช่องเพื่อให้อาหาร นำตะกร้าที่บรรจุปูไปวางเลี้ยงบนแพที่เตรียมไว้
 การให้อาหาร
อาหารที่ใช้เลี้ยงปูคือ ปลาเป็ดสับเป็นชิ้น ๆ มีขนาด 1-2 นิ้ว การให้อาหารจะให้ตัวละ 1-2 ชิ้นและวันละ 1 ครั้ง
 ระยะเวลาการเลี้ยง
ระยะเวลาในการเลี้ยงปูของแต่ละชุด จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน จึงสามารถเก็บผลผลิตได้เกือบทั้งหมด แต่เกษตรกรนิยมใส่ปูทดแทนที่ว่างทันทีเพื่อประหยัดเวลาและพื้นที่
 การดูแล และการเก็บเกี่ยวผลผลิต
หลังจากปล่อยปูลงเลี้ยง จะต้องตรวจปูลอกคราบในวันถัดไป และเมื่อเลี้ยงได้ประมาณ 1 เดือน ปูจะเริ่มลอกคราบจำนวนมาก การตรวจและเก็บปูนิ่มจะดูทุก 4 ชั่วโมง เพราะปูที่ลอกคราบไปแล้วประมาณ 6 ชั่วโมงกระดองจะเริ่มแข็ง ไม่สามารถจำหน่ายได้ การตรวจเก็บปูนิ่ม จะสังเกตจากตะกร้าใดมีปูอยู่ 2 ตัว แสดงว่าปูลอกคราบแล้วต้องรีบทำการเก็บทันที นำไปแช่น้ำจืดที่สะอาดและใส่ภาชนะบรรจุเก็บที่อุณหภูมิไม่เกินกว่า -18 องศาเซลเซียส เพื่อให้คงความสดไว้เป็นระยะเวลานานหรือเก็บไว้ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นประจำบ้านหรือตู้แช่ไอศครีม เพื่อรอการจำหน่ายสำหรับอัตราการตายระหว่างการเลี้ยงอยู่ระหว่าง 6-10 เปอร์เซ็นต์
 การนำไปประกอบอาหาร
ในการนำปูนิ่มไปประกอบอาหารนั้น ผู้ประกอบอาหารสามารถทำได้มากมายหลายประการ เช่น ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย ปูนิ่มชุบแป้งทอด ปูนิ่มพล่าต้มยำปูนิ่ม ปูนิ่มผัดผงกระหรี่ ปูนิ่มอบวุ้นเส้น ปูนิ่มสามรส ปูนิ่มจานร้อน พะแนงปูนิ่ม ปูนิ่มนึ่งนมสดและอื่น ๆ อีกมากมายอีกทั้งยังสามารถคิดค้นดัดแปลงเป็นอาหารแบบต่าง ๆ ได้ตามความประสงค์ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน ฝรั่ง หรือแม้แต่อาหารญี่ปุ่นก็สามารถปรุงได้อย่างมีรสชาติและเอร็ดอร่อย

 

 

 


 การเพาะพันธุ์ปูทะเล
เนื่องจากการจับปูทะเลขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณปูในธรรมชาติลดน้อยลง จึงจำเป็นต้องมีการเพาะพันธุ์ปูทะเลขึ้นเพื่อปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติให้ชาวประมงมีอาชีพจับปูต่อไปและช่วยสนับสนุนพันธุ์ปูแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปูทะเลให้สามารถดำเนินกิจกรรมการเลี้ยงได้อย่างต่อเนื่อง

 วิธีการเพาะฟักและการอนุบาล
- แม่พันธุ์ปูทะเล นำแม่ปูที่มีไข่ในกระดองมาเลี้ยงในบ่อดินในอัตรา 500-100 ตัว/ไร่ นานประมาณ 20-30 วัน ก็จะได้แม่ปูไข่นอกกระดอง โดยระยะแรกจะเป็นไข่สีเหลืองติดอยู่ที่จับปิ้ง และสีไข่จะเปลี่ยนสีส้ม สีเทา และดำในที่สุดในเวลา 10 วัน
- การเพาะฟัก แม่ปูที่ได้ถูกนำไปใส่ถัง 200 ลิตร หรือกล่องโฟมขนาด 40 ลิตร ที่บรรจุน้ำทะเลสะอาด แม่ปูจะวางไข่ในเวลาเช้า ลูกปูที่ฟักออกมาเรียกว่าระยะ
Zoea 1 แล้วย้ายไปอนุบาลในบ่อซีเมนต์ขนาด 2 x 10 x 1 ลบ.ม. ในความหนาแน่น 100-200 ตัว/ลิตร
- อาหารและการให้อาหาร อาหารของลูกปูระยะจะให้ตามตารางต่อไปนี้
ระยะ Zoea 1 Rotifer วันที่ 1-3 ให้ เช้า-เย็น
ระยะ Zoea 2 Rotifer วันที่ 4-6 ให้ เช้า-เย็น
ระยะ Zoea 3 Rotifer+Artemia วันที่ 7-10 ให้ เช้า-เย็น
ระยะ Zoea 4 Rotifer+Artemia วันที่ 11-14 ให้ เช้า-เย็น
ระยะ Zoea 5 Rotifer+Artemia วันที่ 15-18 ให้ เช้า-เย็น
ระยะ Megalopa Artemia +เนื้อปลาบด วันที่ 19-29 ให้ เช้า-เย็น
ระยะ Young Crab เนื้อปลาบด วันที่ 30- ให้ เช้า-เย็น
หมายเหตุ ระยะเวลาการพัฒนาของลูกปูอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับความเค็มและอุณหภูมิ
- การอนุบาล ลูกปูระยะ Zoea ต้องให้อาหารที่เพียงพอและถ่ายเปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ลูกปูแข็งแรงและมีอัตราการรอดตายสูงขึ้น สำหรับลูกระยะ Megalopa จะใส่แสน เพื่อป้องกันการกินกันเองไปจนกว่าลูกปูที่เข้าระยะ Young Crab ไปแล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์ จึงนำไปปล่อยในแหล่งน้ำหรืออนุบาลในบ่อดินได้

 

 Tags

  •   Hits
  • ตรวจรับกุ้งก้ามกราม ตามโครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ตรวจรับกุ้งก้ามกราม ตามโครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพ... จำนวนผู้อ่าน 109  ประชุมคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดพังงา ครั้งที่ 2/2568 ประชุมคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดพังงา ครั้งที่ 2/2568  จำนวนผู้อ่าน 107 พิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 พิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเ... จำนวนผู้อ่าน 101 กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเนื่องโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเนื่องโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามา... จำนวนผู้อ่าน 100 พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช  จำนวนผู้อ่าน 96 โครงการสนับสนุนด้านการประมงตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ประมงโรงเรียน) โครงการสนับสนุนด้านการประมงตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเท... จำนวนผู้อ่าน 92 กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมร... จำนวนผู้อ่าน 90 โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ อำเภอกะปง โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ อำเภอกะปง  จำนวนผู้อ่าน 84 เตรียมความพร้อมของแหล่งน้ำก่อนปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ โครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมง เตรียมความพร้อมของแหล่งน้ำก่อนปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ โครงการบริหารจัดการทรัพยากรประ... จำนวนผู้อ่าน 79 พิธีปลูก ต้นพระศรีมหาโพธิทศมราชบพิตร เนื่องในวันวิสาขบูชา จังหวัดพังงา พิธีปลูก ต้นพระศรีมหาโพธิทศมราชบพิตร เนื่องในวันวิสาขบูชา จังหวัดพังงา  จำนวนผู้อ่าน 78 โครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง ระยะที่ 3 เปิดรับสมัคร 8 กันยายน 2568 เป็นต้นไป โครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง ระยะที่ 3 เปิดรับสมัคร 8 กัน... จำนวนผู้อ่าน 65 วันประมงแห่งชาติประจำปี 2568 (21 กันยายน) วันประมงแห่งชาติประจำปี 2568 (21 กันยายน)  จำนวนผู้อ่าน 45 ร่วมต้อนรับ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมคณะผู้บริหารกรมประมง ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพังงา ร่วมต้อนรับ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง พร้อมคณะผู้บริหารกรมประมง ลงพื้นที่จ... จำนวนผู้อ่าน 41 วันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน 108 ปี วันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน 108 ปี  จำนวนผู้อ่าน 32 พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจอม... จำนวนผู้อ่าน 32


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2568 สำนักงานประมงจังหวัดพังงา

    รายละเอียด สำนักงานประมงจังหวัดพังงา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพังงา ศูนย์ราชการจังหวัดพังงา ถ.พังงา - ทับปุด ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา จ.พังงา 82000  email  fpo_phangnga@fisheries.go.th  โทรศัพท์ 0-7648-1438  FAX 0-7648-1438  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6