“พิษปลาปักเป้า” หากบริโภคเสี่ยงอันตรายถึงตายได้

 สำนักงานประมงจังหวัดนครนายก


“พิษปลาปักเป้า” หากบริโภคเสี่ยงอันตรายถึงตายได้ 



“พิษปลาปักเป้า” หากบริโภคเสี่ยงอันตรายถึงตายได้..คลิก

กรมประมง...เตือนประชาชน ระวัง!!

“พิษปลาปักเป้า” หากบริโภคเสี่ยงอันตรายถึงตายได้

 

กรมประมง...เตือนประชาชนระวัง!! พิษร้ายจากปลาปักเป้า แม้บริโภคเพียงเล็กน้อยแต่สามารถเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เผยส่วนใหญ่พบปะปนในเนื้อปลาแล่ที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป จึงขอให้ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าสังเกตให้ดีก่อนนำมาจำหน่ายหรือซื้อรับประทานเนื่องจากหากได้รับพิษเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เสียชีวิตได้ ดังกรณีของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับอันตรายจากการบริโภคเนื้อปลาปักเป้าแล่ที่ซื้อจากตลาด โดยพิษทำให้เกิดอาการหมดสติและกล้ามเนื้อกระตุกไปทั้งตัว

นายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยในฐานะโฆษกกรมประมงว่า “ปลาปักเป้า” ในประเทศไทยสามารถพบได้ทั้งในน้ำจืดและทะเล มีทั้งชนิดที่มีพิษและไม่มีพิษ สำหรับพิษของปลาปักเป้าพบได้ทุกส่วนของตัวปลา ซึ่งพบมากที่บริเวณไข่ ตับ เครื่องใน และหนัง โดยสามารถแยกประเภทของพิษตามชนิดของปลาปักเป้าได้ดังนี้

1. ปลาปักเป้าทะเล มีพิษที่เรียกว่า “เทโทรโดท็อกซิน” (Tetrodotoxin) ซึ่งมีผลต่อการทำงานของระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท ทำให้เกิดอาการลิ้นชา อาเจียน กล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรง เดินเซ ขยับเขยื้อนไม่ได้ หายใจลำบาก ซึ่งหากมีอาการแพ้มากและรักษาไม่ทันอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยอาการมักเกิดอย่างรวดเร็วหลังรับประทานภายใน 5 - 20 นาที หรืออาจนานถึง 2 - 3 ชั่วโมง

2. ปลาปักเป้าน้ำจืด มีพิษที่จัดอยู่ในกลุ่ม PSP (Paralytic Shellfish Poison) เมื่อได้รับพิษเข้าสู่ร่างกายพิษจะเข้าไปขัดขวางเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทและเซลล์กล้ามเนื้อ จึงเกิดการยับยั้งการส่งกระแสประสาทและการส่งสัญญาณไฟฟ้าของเซลล์ต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการชาและเกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย และที่เป็นอันตรายที่สุดคือการเป็นอัมพาตของกล้ามเนื้อช่วยหายใจ ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวการณ์หายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้

ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาปักเป้าอย่างเด็ดขาด โดยควรสังเกตเลือกซื้อปลาที่ผ่านการแล่ทุกครั้ง หากเป็นเนื้อปลาปักเป้าจะมีลักษณะชิ้นเนื้อหนา สีขาวอมชมพู ลายกล้ามเนื้อไม่ชัดเจน และมีเยื่อพังผืดหุ้มชิ้นเนื้อ เมื่อปรุงสุกเนื้อจะมีสีขาวคล้ายเนื้อไก่ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยควรเลือกซื้อเนื้อปลาที่ผ่านการแล่จากแหล่งที่ทราบชนิด รวมถึงแหล่งที่มาของเนื้อปลา เพื่อลดความเสี่ยงการบริโภคปลาปักเป้าที่อาจเกิดอันตรายถึงตายได้

โฆษกกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการรักษาพิษจากปลาปักเป้านั้นยังไม่มีตัวยาใดที่สามารถแก้พิษได้ และการใช้ความร้อนในการปรุงอาหารไม่สามารถทำลายพิษของปลาปักเป้าได้เช่นกัน จึงขอฝากเตือนถึงประชาชนไม่ให้นำปลาปักเป้าทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นปลาปักเป้าน้ำจืดหรือปลาปักเป้าทะเลมาบริโภคโดยเด็ดขาด และหากสงสัยว่าได้รับพิษจากปลาปักเป้าให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

นอกจากนี้ ผู้จำหน่ายจะมีความผิดตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 264) พ.ศ. 2545เรื่อง การกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายปลาปักเป้าทุกชนิด และอาหารที่มีเนื้อปลาปักเป้าเป็นส่วนผสม ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2545 ผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตราที่ 50 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท อีกด้วย

ติดต่อสอบถามข้อมูลวิชาการเพิ่มเติมได้ที่ กองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ กรมประมงโทร. 02 940 6130 - 45 ต่อ 4212 หรือ E mail : ftdd.ffps@gmail.com

แหล่งข้อมูลจาก กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง

 Tags

  •  บทความหน้าหลัก Hits 10 อันดับ (6 เดือน)
  • ยังไม่มีการจัดลำดับบทความรอบ 6 เดือน!
  •  กิจกรรม Hits 10 อันดับ (6 เดือน)
  • “พิษปลาปักเป้า” หากบริโภคเสี่ยงอันตรายถึงตายได้ “พิษปลาปักเป้า” หากบริโภคเสี่ยงอันตรายถึงตายได้  จำนวนผู้อ่าน 369  สำนักงานประมงอำเภอปากพลี เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน  ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2566 สำนักงานประมงอำเภอปากพลี เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และลดอุบ... จำนวนผู้อ่าน 220 ลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมองค์กรประมงท้องถิ่นวิสาหกิจชุมชุม ลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมองค์กรประมงท้องถิ่นวิสาหกิจชุมชุม  จำนวนผู้อ่าน 210 ราคากุ้งขาวแวนนาไม ณ ปากบ่อ จังหวัดนครนายก ประจำเดือน มกราคม 2566  ราคากุ้งขาวแวนนาไม ณ ปากบ่อ จังหวัดนครนายก ประจำเดือน มกราคม 2566   จำนวนผู้อ่าน 158 เข้าร่วมรับฟังการประชุมชี้แจง การปรับเปลี่ยนมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของกรมประมง (GAP กรมประมง) เข้าร่วมรับฟังการประชุมชี้แจง การปรับเปลี่ยนมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของกรม... จำนวนผู้อ่าน 142 สำนักงานประมงอำเภอปากพลี ร่วมประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนงานด้านการเกษตรอำเภอปากพลี  ตามโครงการพัฒนาการเกษตรระดับหมู่บ้าน สู่การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง สำนักงานประมงอำเภอปากพลี ร่วมประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนงานด้านการเกษตรอำเภอปากพลี ... จำนวนผู้อ่าน 138 ประชุมติดตามความก้าวหน้าแผนฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลของประเทศไทย ครั้งที่ 7/2565  ประชุมติดตามความก้าวหน้าแผนฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลของประเทศไทย ครั้งที่ 7/2565   จำนวนผู้อ่าน 111 าร่วมโครงการขับเคลื่อนภารกิจด้านการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และการป้องกันปราบปรามการทุจริตและ ประพฤติมิชอบของกระทรวงมหาดไทย าร่วมโครงการขับเคลื่อนภารกิจด้านการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และการป้องกันปราบปรา... จำนวนผู้อ่าน 92 เข้าร่วมประชุมชี้แจงรายละเอียดการดำเนินการโครงการเสริมสภาคล่องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล ปี 2565 ระยะที่ 1 เข้าร่วมประชุมชี้แจงรายละเอียดการดำเนินการโครงการเสริมสภาคล่องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ... จำนวนผู้อ่าน 91  "เสริมสร้างความรู้ เคียงคู่เกษตรกร" แปรรูปปลานิลแดดเดียว ปลาเส้นปรุงรส และ ปลาหย... จำนวนผู้อ่าน 79


    สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2566 สำนักงานประมงจังหวัดนครนายก

    รายละเอียด ศาลากลางจังหวัดนครนายก ชั้น 5 ถนนสุวรรณศร ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก 26000 สแกน QR Code เพื่อให้ Google Map นำทางไปได้ง่ายๆ หรือ กดตรงนี้ การเดินทางมายังสำนักงานประมงจังหวัดนครนายก (กรณีรถโดยสารสาธารณะ) 1.รถตู้สาย 58-967 กรุงเทพฯ-นครนายก-เขื่อนขุนด่าน จากอนุสาวรีย์ชัยฯ 6.00-18.00 น. / จากฟิวเจอร์ฯ 6.00-20.00 น.จากเขื่อนขุนด่าน 6.00-17.30 น. / จากนครนายก 4.30-17.30 น. (รถออกทุก 20 นาที) 2.บริษัท ขนส่ง จำกัด บริการรถโดยสารประจำทางทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวันวันละหลายเที่ยว มีเส้นทาง คือกรุงเทพฯ – หินกอง – นครนายกกรุงเทพฯ – รังสิต – องครักษ์ – นครนายกกรุงเทพฯ – นครนายก – อรัญประเทศกรุงเทพฯ – องครักษ์ – โรงเรียนนายร้อย จปร. โดยต้องต่อรถเข้าเมืองอีก 7 กิโลเมตร 3.รถตู้ สายกรุงเทพฯ – นครนายก มีจุดขึ้นรถได้แก่จากกรุงเทพ ขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณใต้ทางด่วน ฝั่งแฟชั่นมอลล์ รถออกทุก 40 นาทีจากนครนายก ขึ้นรถที่ รพ.นครนายก และบริเวณสี่แยกไฟแดงนครนายก รถออกทุก 40 นาที การเดินทางมายังสำนักงานประมงจังหวัดนครนายก (กรณีรถยนต์ส่วนบุคคล) 1.ตามทางหลวงหมายเลข 305 เลียบคลองรังสิต ผ่านอำเภอองครักษ์ ระยะทางประมาณ 107 กิโลเมตร 2.ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 เลี้ยวขวาที่แยกหินกอง ไปตามถนนสุวรรณศรเส้นทางหลวงหมายเลข 33 จนถึงจังหวัดนครนายก ระยะทางประมาณ 137 กิโลเมตร เบอร์โทรศัพท์ 088-278-6208  email  fpo-nakhonnayok@dof.in.th  โทรศัพท์ 037-311024  FAX 037-311024  แฟนเพจ แฟนเพจ
    CreativeCommons Valid CSS! Explanation of WCAG 2.1 Level Triple-AA Conformance SSL Labs ipv6